โยชูวา 8 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 พระยะโฮวาจึงทรงตรัสแก่ยะโฮซูอะว่า, “อย่ากลัวหรือมีใจอิดโรยเลย: จงยกบรรดากองทัพ, ไปยังเมืองฮาย: ดูเถิดเจ้าได้มอบเจ้าเมืองฮาย, และพลเมือง และเมืองหลวง และแผ่นดิน เมืองนั้นไว้ในมือของเจ้าแล้ว: 2 จงกระทำแก่เมืองฮายและเจ้าเมืองนั้นเหมือนได้กระทำแก่ยะริโฮ: และเจ้าเมืองนั้น, เว้นไว้แต่สิ่งของและฝูงสัตว์ที่เก็บมาจากเมืองนั้น, ให้รักษาไว้เป็นของๆ พวกเจ้าเอง: จงตั้งกองซุ่มไว้ ณ ข้างหลังเมืองนั้น.” 3 ฝ่ายยะโฮซูอะกับบรรดาพลทหาร, ได้ยกกองทัพไปต่อสู้กับเมืองฮาย. ยะโฮซูอะก็เลือกล้วนแก่คนกล้าหาญสามหมื่นคน, ให้ไปในเวลากลางคืน. 4 สั่งเขาว่า, ดูเถิด, ท่านทั้งหลายจะเป็นกองซุ่มอยู่ไม่ห่างไกลจากข้างหลังเมืองนัก: ให้เตรียมตัวไว้ให้พร้อมทุกคน: 5 ส่วนเราจะนำกองทัพแอบเข้าไปยังเมือง: ขณะเมื่อเขาจะยกกองทัพมาต่อสู้กับเราเหมือนครั้งก่อน. เราจะหนีต่อหน้าเขา, 6 ส่วนเขาจะออกมาตามเรา, จนเราจะล่อลวงเขาให้ออกไปห่างจากเมือง; เพราะเขาจะว่า, พวกนั้นหนีเราเหมือนครั้งก่อน, ส่วนเราจะแกล้งหนีไป. 7 ขณะนั้นท่านทั้งหลายจงลุกขึ้นจากที่ซุ่มเข้าไปตีเมือง: ด้วยว่าพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าได้มอบเมืองนั้นไว้ในมือของเจ้า. 8 ครั้นได้เมืองนั้นแล้ว, จงจุดไฟเผาเสีย: ให้กระทำตามรับสั่งพระยะโฮวา. เราสั่งไว้แล้ว. 9 ยะโฮซูอะจึงใช้เขาไป: และเขาได้ออกไปตั้งกองซุ่มอยู่ท่ามกลางเบธเอลเเละฮาย, อยู่ข้างฝ่ายทิศตะวันตกเเห่งฮาย: ในเวลาคืนวันนั้นยะโฮซูอะอาศัยอยู่ท่ามกลางพลทหาร. 10 ยะโฮซูอะก็ตื่นแต่เวลารุ่งเช้า, ตรวจดูพลทหาร, เสร็จแล้วจึงขึ้นไปกับผู้เฒ่าผู้แก่แห่งพวกยิศราเอล. นำหน้าพลทหารไปถึงเมืองฮาย. 11 พลทหารที่อยู่ด้วยยะโฮซูอะก็ได้แอบเข้าไปตรงเมืองตั้งกองทัพไว้ข้างทิศเหนือแห่งเมืองฮาย: แต่มีหุบเขาอยู่ระหว่างเขากับเมือง. 12 ยะโฮซูอะได้ตั้งทหารประมาณห้าพันคน, เป็นกองซุ่มไว้ ณ หว่างกลางเบธเอลกับฮาย, อยู่ข้างทิศตะวันตกของเมืองฮาย. 13 เมื่อได้ตั้งกองทหาร. คือบรรดากองที่อยู่ข้างทิศเหนือของเมือง, ทั้งกองซุ่มที่อยู่ข้างทิศตะวันตกแล้ว, ในคืนนั้นยะโฮซูอะได้ลงไปในหุบเขา. 14 ครั้นเจ้าเมืองฮายเห็นแล้ว, ชาวเมืองก็ลุกขึ้นแต่เช้า, รีบออกไปสู้รบกับพวกยิศราเอล, ทั้งเจ้าเมืองและพลเมืองตามกำหนดยังที่เสมอ, ท่านหาทราบไม่ว่ามีกองทัพอยู่ข้างหลังเมือง. 15 ยะโฮซูอะกับพวกยิศราเอลทั้งปวงแกล้งทำเป็นแพ้หนีไปทางป่า. 16 บรรดาชาวเมืองจึงมาพร้อมกันเพื่อจะไล่ติดตาม: แล้วเขาก็ไล่ตามยะโฮซูอะไปจนถูกล่อลวงให้ออกมาห่างไกลจากเมือง. 17 มิได้มีผู้ชายสักคนเดียวเหลืออยู่ ณ เมืองฮายและเมืองเบธเอล, ที่มิได้ออกไปตามพวกยิศราเอล, เขาได้ละทิ้งเมืองไว้ให้ว่าง, พากันไล่ติดตามพวกยิศราเอลไป 18 พระยะโฮวาจึงตรัสแก่ยะโฮซูอะว่า, “จงยื่นหอกซึ่งอยู่ในมือเจ้าออกไปยังเมืองฮาย; ด้วยว่าเราจะมอบเมืองนั้นไว้ในมือเจ้า.” ฝ่ายยะโฮซูอะก็ยื่นหอกซึ่งอยู่ในมือออกไปยังเมืองนั้น. 19 พอยะโฮซูอะได้ยื่นมือของตนออกแล้วกองซุ่มก็ออกมาจากที่นั้นโดยเร็ว: เข้าไปตีเมืองจุดไฟเผาเสีย. 20 เมื่อชาวเมืองฮายเหลียวหลังดู, เห็นควันไฟในเมืองพลุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้า, เขาไม่อาจหนีไปข้างนี้หรือข้างโน้นได้: แล้วพวกซึ่งหนีไปทางป่าก็ได้หันกลับมาต่อสู้กับผู้ที่ติดตามเขาไปนั้น. 21 เมื่อยะโฮซูอะกับกองทัพยิศราเอลเห็นว่ากองทัพได้ตีเมืองแล้ว, ควันไฟในเมืองนั้นก็พลุ่งขึ้น, ครั้งนั้นเขากลับมาฆ่าฟันชาวเมืองฮายเสีย. 22 กองซุ่มได้ออกมาจากเมืองต่อสู้เขาด้วย: เขาตกอยู่ในหว่างกลางกองยิศราเอล, ทั้งข้างนี้และข้างโน้น: พวกยิศราเอลได้ฟันแทงเขามิให้รอดชีวิตหนีได้สักคนเดียว. 23 เจ้าเมืองฮายก็ถูกจับและคุมมาหายะโฮซูอะ 24 เมื่อพวกยิศราเอลได้ฆ่าชาวเมืองฮายตามไร่นาป่าดอนที่เขาไล่ติดตามไปนั้น, ล้มตายด้วยคมดาบเสียสิ้น, แล้วได้กลับไปตีเมืองฮายนั้นด้วยคมดาบ. 25 คนทั้งหลายที่ล้มตายในวันนั้น, ทั้งชายหญิง, เป็นจำนวนหมื่นสองพันคน, คือชาวเมืองฮายทั้งสิ้น. 26 ยะโฮซูอะมิได้หดมือซึ่งถือหอกยื่นนั้น, กว่าท่านผลาญชาวเมืองฮายให้ถึงพินาศเสียสิ้น. 27 เว้นแต่ฝูงสัตว์และสิ่งของที่เก็บมาแต่เมืองนั้น พวกยิศราเอลก็รักษาไว้เป็นของๆ ตนเอง, ตามคำที่พระยะโฮวาได้ทรงสั่งแก่ยะโฮซูอะแล้ว. 28 ยะโฮซูอะได้เผาเมืองฮาย, ทำให้พังลงเป็นกองร้างเปล่าอยู่เป็นนิตย์, จนถึงทุกวันนี้. 29 อนึ่งเขาได้ผูกคอเจ้าเมืองฮายแขวนไว้ที่ต้นใม้ต้นหนึ่งจนถึงเวลาเย็น: เมื่อตะวันตกแล้ว, ยะโฮซูอะจึงสั่งให้เอาศพลงจากต้นไม้, ไปทิ้งไว้หน้าประตูเมือง, แล้วให้ถมกองหินทับศพไว้เป็นอันมาก, จนถึงทุกวันนี้ 30 ขณะนั้นยะโฮซูอะได้สร้างแท่นถวายแก่พระยะโฮวาพระเจ้าแห่งพวกยิศราเอลบนภูเขาเอบาล, 31 เช่นดังโมเซผู้รับใช้แห่งพระยะโฮวาได้สั่งแก่พวกยิศราเอล, เหมือนที่ได้เขียนไว้ในหนังสือกฎหมายแห่งโมเซแล้ว, คอเเท่นทำด้วยหินมิได้สกัด, บนหินนั้นไม่มีผู้ยกเครื่องเหล็กขึ้นถูกต้องเลย: บนแท่นนั้นเขาได้ถวายบูชาเพลงแก่พระยะโฮวา, และบูชาอันโมทนาด้วย. 32 ฝ่ายยะโฮซูอะได้จารึกกฎหมายไว้ที่หินนั้น, ตามแบบซึ่งท่านโมเซได้จารึกต่อหน้าพวกยิศราเอล. 33 พวกยิศราเอล, กับทั้งผู้เฒ่าผู้แก่. และผู้ตรวจและผู้พิพากษา, ได้ยืนอยู่ใกล้หีบ (บริสุทธิ์) ทั้งข้างนี้แลข้างโน้น ต่อหน้าปุโรหิตตระกูลเลวี, ผู้หามหีบไมตรีแห่งพระยะโฮวา, ทั้งแขกเมือง, เหมือนกับคนที่เกิดในท่ามกลางเขาด้วย; อยู่ตรงภูเขาฆะรีซีมครึ่งหนึ่ง, แลตรงภูเขาเอบาลครึ่งหนึ่ง, ตามโมเซผู้รับใช้แห่งพระยะโฮวาได้สั่งไว้แล้วแต่เดิม, ให้เขาอวยพรแก่พลไพร่ยิศราเอล. 34 ครั้นภายหลังท่านประกาศกับคำพระบัญญัติทั้งสิ้น, ทั้งคำอวยพรและคำสาป, ตามสรรพสิ่งซึ่งเขียนไว้ในหนังสือพระบัญญัตินั้น. 35 มิได้ขาดเหลือสักคำเดียวในสรรพสิ่งซึ่งโมเซได้สั่งไว้แล้ว, ซึ่งยะโฮซูอะมิได้ประกาศต่อหน้าพวกยิศราเอลทั้งปวง ณ ที่ประชุมผู้หญิงและเด็กและแขกเมืองที่อยู่ด้วยกันนั้น |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society