โยชูวา 22 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ขณะนั้นยะโฮซูอะได้เรียกตระกูลรูเบน, และฆาด, และมะนาเซครึ่งตระกูล, 2 แล้วกล่าวแก่เขาว่า, ท่านทั้งหลายได้ทำสรรพสิ่งซึ่งโมเซผู้รับใช้แห่งพระยะโฮวาได้สั่งแก่ท่านแล้ว, ทั้งได้ฟังถ้อยคำของเราในสรรพสิ่งซึ่งเราได้สั่งแก่ท่านด้วย: 3 ท่านทั้งหลายมิได้ละทิ้งพี่น้องในเวลาวันเหล่านั้นจนทุกวันนี้, แต่ได้รักษาการมอบตามรับสั่งแห่งยะโฮวาพระเจ้าของท่าน. 4 บัดนี้ยะโฮวาพระเจ้าของท่านทรงโปรดให้พี่น้องหยุดจากการสงครามแล้ว, เหมือนหนึ่งพระองค์ได้ทรงสัญญาไว้แก่เขา: เหตุฉะนี้ท่านทั้งหลายจงกลับไปยังกะท่อมอาศัย, ตามส่วนที่ของตน, ซึ่งโมเซผู้รับใช้แห่งพระยะโฮวาได้ยกให้แก่ท่านแล้วที่ฟากแม่น้ำยาระเดนข้างโน้น. 5 แต่ทว่าจงระวังให้ดีประพฤติตามพระบัญญัติและคำโอวาท, ซึ่งโมเซผู้รับใช้แห่งพระยะโฮวาได้กำชับไว้แก่ท่าน, คือให้รักยะโฮวาพระเจ้าของท่าน, และดำเนินในทางของพระองค์ทั้งสิ้น, และให้รักษาพระบัญญัติ, และให้ติดสนิทอยู่กับพระองค์, และปฏิบัติพระองค์ด้วยสุดใจและสุดจิตต์ของท่าน. 6 ยะโฮซูอะจึงอวยพร, แล้วปล่อยให้เขาไปกะท่อมของตน 7 ตระกูลของมะนาเซครึ่งหนึ่งโมเซยกให้มีส่วนที่ในเมืองบาซานแล้ว: แต่อีกครึ่งตระกูลยะโฮซูอะยกให้มีส่วนที่ในท่ามกลางพี่น้องของเขาข้ามฟากแม่น้ำยาระเดนทิศตะวันตก. เมื่อยะโฮซูอะให้เขาไปถึงกะท่อมของตนนั้น, ก็ได้อวยพรแก่เขาด้วย, 8 กล่าวแก่เขาว่า, จงกลับไปยังกะท่อมของตน, อันมั่งคั่งไปด้วยฝูงโค, เงินทอง, ทองเหลือง, เหล็ก, และเครื่องนุ่งห่มมาก: ของที่ริบมาจากข้าศึกนั้น: จงแบ่งกันกับพี่น้องของท่านเถิด. 9 ตระกูลรูเบน และฆาด และครึ่งตระกูลมะนาเซได้กลับจากพวกยิศราเอล, ซึ่งอยู่ที่เมืองซิโล, ในแขวงคะนาอันนั้น, ไปถึงเขตต์เมืองฆีละอาด, ซึ่งเป็นส่วนที่ของเขา, ที่ได้รับไว้ตามพระดำรัสสั่งแห่งพระยะโฮวาโดยโมเซ 10 เมื่อตระกูลรูเบนและฆาดและครึ่งตระกูลมะนาเซมาถึงแขวงแม่น้ำยาระเดน, ซึ่งอยู่ในแผ่นดินคะนาอันแล้ว, เขาจึงได้สร้างแท่นที่นั่นริมแม่น้ำยาระเดน, เป็นแท่นใหญ่งามน่าดู. 11 ฝ่ายพวกยิศราเอลได้ยินข่าวลือกันว่า, ดูเถิด, ตระกูลรูเบนและฆาดและครั้งตระกูลมะนาเซได้สร้างแท่นตรงแผ่นดินคะนาอัน, ในแขวงแม่น้ำยาระเดน, ที่ฟากข้างเขตต์ยิศราเอล. 12 เมื่อพวกยิศราเอลได้ยินข่าวดังนั้น, จึงได้ประชุมกันทั้งหมดที่เมืองซีโล, เพื่อไปสู้รบกับพวกเหล่านั้น 13 พวกยิศราเอลได้ใช้ฟีนะฮาศบุตรเอละอาซารผู้ปุโรหิต, ให้ไปหาตระกูลรูเบนและฆาด, และครึ่งตระกูลมะนาเซ, ในฆีละอาด. 14 พร้อมทั้งผู้หัวหน้าสิบท่านด้วยกัน, คนละตระกูลตามบรรดาพงศ์พันธุ์ยิศราเอล; บรรดาคนเหล่านั้นเป็นหัวหน้าพงศ์พันธุ์บิดาเขาตามพันธุ์ในพวกยิศราเอล. 15 เมื่อเขามาถึงตระกูลรูเบน, และฆาด, และครั้งตระกูลมะนาเซ, ในเมืองฆีละอาด, จึงได้กล่าวแก่เขาว่า, 16 พลไพร่พระยะโฮวาได้ประชุมกันทั้งหมดกล่าวดังนี้ว่า, พวกเจ้าได้กระทำผิดอย่างไรต่อพระเจ้าแห่งพวกยิศราเอล, วันนี้จึงได้หันกลับจากติดตามพระยะโฮวา, ไปสร้างแท่นฉะเพาะของตน, เพื่อจะได้กบฏต่อพระยะโฮวาในเวลาบัดนี้? 17 ความผิดที่พะโอระนั้นยังไม่พอเพียงหรือ, ซึ่งพวกเรายังมิได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์, จนทุกวันนี้แม้มีโรคห่ามาติดพวกพลไพร่ของพระยะโฮวาหรือ? 18 บัดนี้พวกเจ้าจะหันกลับไม่ติดตามพระยะโฮวาหรือ? ถ้าเจ้าได้กบฏข้อพระยะโฮวา ณ วันนี้, พรุ่งนี้พระองค์จะทรงพระพิโรธต่อพวกยิศราเอลทั้งหมด. 19 ถ้าแม้นที่ของเจ้าไม่สะอาด, เจ้าจงข้ามมายังที่แห่งพระยะโฮวาที่พลับพลาซึ่งพระองค์ทรงสถิตอยู่นั้น, รับเอาส่วนที่ในท่ามกลางพวกเรา, แต่อย่ากบฏต่อพระยะโฮวาเลย, และอย่ากบฏต่อพวกเราด้วยสร้างแท่น, นอกจากแท่นแห่งยะโฮวาพระเจ้าของเรา. 20 เมื่อคราวอาคานบุตรเซราได้กระทำผิดในการถวายของต้องห้ามนั้น, จึงมีความพิโรธเกิดแก่พวกยิศราเอลทั้งปวงมิใช่หรือ อาคานต้องถึงแก่พินาศเพราะการผิดของตน, ใช่แต่ผู้เดียวก็หามิได้ 21 ขณะนั้นพวกรูเบน และฆาด และครึ่งตระกูลมะนาเซจึงตอบแก่ผู้หัวหน้าในพงศ์พันธุ์ยิศราเอลว่า, 22 พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์คือยะโฮวา, พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์คือยะโฮวา, พระองค์ทรงทราบ, และจงให้พวกยิศราเอลรู้ด้วย; ถ้าเป็นการกบฏ, หรือการผิดต่อพระยะโฮวา, อย่าให้พวกข้าพเจ้าพ้นจากความพินาศในวันนี้เลย. 23 ถ้าแม้นพวกข้าพเจ้าได้สร้างแท่นเพื่อจะได้กลับหันไปจากติดตามพระยะโฮวา, หรือเพื่อที่แท่นนั้นจะบูชาเพลิง, หรือบูชาถวาย, หรือบูชาเพื่อความสุขสำราญในพระยะโฮวา. ขอให้พระองค์เองทรงพิพากษาความของข้าพเจ้า; 24 ถ้าข้าพเจ้ามิได้ทำสิ่งนี้ด้วยจงใจ, โดยเกรงว่า, ภายหน้าบุตรหลานของท่านจะว่ากล่าวแก่บุตรหลานของเราว่า, เจ้าเกี่ยวข้องอย่างไรกับยะโฮวาพระเจ้าแห่งพวกยิศราเอลเล่า? 25 เพราะว่าพระยะโฮวาได้ตั้งแม่น้ำยาระเดนไว้เป็นเขตต์แดนในท่ามกลางเรากับเจ้าผู้บุตรรูเบนและฆาด; เจ้าไม่มีส่วนในพระยะโฮวาเลย: ดังนั้นบุตรของท่านจะห้ามบุตรของเราให้เลิกการนมัสการพระยะโฮวาเสีย. 26 พวกเราจึงว่า, จงให้เราสร้างแท่นโดยฉะเพาะ, ใช่ว่าเพื่อจะถวายบูชาเพลิง, หรือบูชาต่างๆ: 27 แต่เพื่อแท่นนั้นจะเป็นที่สำคัญในท่ามกลางพวกเรา, กับพวกท่าน, ทั้งเผ่าพันธุ์ที่เกิดมาภายหลังด้วย, จะปฏิบัติเฝ้าพระยะโฮวาด้วยบูชาเพลิง, บูชาถวาย, และบูชาเพื่อความสุขสำราญ, เพื่อบุตรหลานของท่านมิได้บอกบุตรหลานของเราในเวลาภายหน้านั้นว่า, เจ้าหามีส่วนในพระยะโฮวาไม่. 28 เราหมายว่า, ภายหน้าเมื่อเขาจะว่าดังนี้แก่เรา, และเผ่าพันธุ์ของเรา. เราจึงจะตอบว่า, จงดูแท่นแห่งพระยะโฮวา, ซึ่งบิดาของเราได้สร้างไว้, มิใช่เพื่อถวายบูชาเพลิง, หรือบูชาอย่างหนึ่งอย่างใด; แต่เพื่อจะเป็นพะยานสำคัญในท่ามกลางพวกเรากับพวกท่าน. 29 ให้อยู่ห่างจากพวกเราเถิด, ซึ่งจะกบฏต่อพระยะโฮวา, หรือวันนี้จะหันกลับไปจากการติดตามพระองค์, โดยสร้างแท่นเพื่อบูชาถวาย, และบูชาต่างๆ ก็ดี, นอกจากแท่นแห่งยะโฮวาพระเจ้าของเราซึ่งอยู่ตรงหน้าพลับพลาของพระองค์. 30 เมื่อฟีนะฮาศผู้ปุโรหิต, และเจ้านายพวกยิศราเอล, และผู้หัวหน้าพงศ์พันธุ์ยิศราเอลผู้ไปกับฟีนะฮาศ, ได้ยินถ้อยคำซึ่งเผ่าพันธุ์รูเบนและฆาดและมะนาเซกล่าว, เขาก็เห็นชอบด้วย. 31 ฟีนะฮาศบุตรเอละอาซารปุโรหิตจึงกล่าวแก่บุตรรูเบน, บุตรฆาด, และบุตรมะนาเซว่า, วันนี้เรารู้แล้วว่า, พระยะโฮวาทรงสถิตอยู่ในท่ามกลางพวกเรา, เพราะพวกท่านหาได้ทำความผิดเช่นนี้ต่อพระองค์ไม่: เดี๋ยวนี้ท่านให้พวกยิศราเอลพ้นจากพระราชอาญาแห่งพระยะโฮวาแล้ว. 32 ฟีนะฮาศบุตรเอละอาซารผู้ปุโรหิต, กับเจ้านาย, ได้กลับจากพวกรูเบน, และพวกฆาด, ออกจากแขวงฆีละอาด, ไปยังแผ่นดินคะนาอัน, มาหาพวกยิศราเอล, แจ้งความให้เขาทราบ. 33 เหตุการณ์นั้นก็เป็นที่จับใจพวกยิศราเอล, พวกยิศราเอลจึงได้สรรเสริญพระเจ้า, หาได้พูดกันให้ขึ้นไปต่อสู้รบทำลายเมืองที่พวกรูเบนและพวกฆาดตั้งอยู่นั้นต่อไปไม่. 34 ตระกูลรูเบนและฆาดได้ตั้งชื่อแท่นนั้นว่า, เอด: ความว่า, ในท่ามกลางเรานี้เป็นที่สำคัญว่า, พระยะโฮวาเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society