โยชูวา 2 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ฝ่ายยะโฮซอะบุตรนูนได้ใช้ผู้สอดแนมสองคนเป็นการลับไปจากเมืองซีตีมว่า, จงไปตรวจดูแผ่นดินนั้น, กับเมืองยะริโฮ. ฝ่ายคนทั้งสองนั้นก็ไป, เข้าพักอยู่ที่บ้านหญิงนครโสเภณีคนหนึ่ง, ชื่อราฮาบ. 2 แล้วมีผู้เรียนเจ้าเมืองยะริโฮว่า, ดูเถิด, มีชนชาติยิศราเอลเข้ามาเมื่อคืนนี้เพื่อจะสอดแนมดูเมือง. 3 ฝ่ายเจ้าเมืองยะริโฮจึงใช้คนไปสั่งราฮาบว่า, จงส่งคนเหล่านั้นซึ่งมาหาเจ้าในบ้านของเจ้ามา: เพราะเขามาเพื่อจะได้สอดแนมดูให้ทั่วบ้านเมือง 4 ฝ่ายหญิงนั้นก็ซ่อนชายทั้งสองไว้, แล้วกล่าวดังนี้ว่า, มีสองคนมาหาข้าพเจ้าจริง, แต่เขามาจากไหนข้าพเจ้าหาทราบไม่: 5 เมื่อปิดประตูเมือง, ในเวลาพลบค่ำ, คนทั้งสองนั้นก็ได้ออกไป: แต่เขาไปทางไหนข้าพเจ้าไม่ทราบ: จงรีบติดตามไปเถิดคงทันเขา. 6 แต่หญ้านั้นได้พาคนทั้งสองขึ้นบนหลังคา, ซ่อนตัวไว้ใต้ต้นป่าน, ซึ่งได้ตากลำดับไว้บนหลังตึกนั้น. 7 เขาก็ไล่ตามไปทางแม่น้ำยาระเดนจนถึงท่าข้าม: พอคนที่ไล่ตามนั้นออกไปจากเมืองแล้ว ก็ปิดประตู. 8 แล้วหญิงนั้นขึ้นไปหาคนทั้งสองนั้นบนหลังคา, เมื่อเขายังไม่นอน; 9 กล่าวแก่เขาว่า, ข้าพเจ้าทราบแล้วว่า, พระยะโฮวาได้ยกแผ่นดินให้แก่ท่านทั้งหลาย, ความสะดุ้งกลัวท่านได้ตกบนพวกข้าพเจ้า, แล้วและบรรดาชาวเมืองก็เมื่อยล้าอิดโรยไปต่อหน้าท่าน 10 ด้วยข้าพเจ้าทั้งหลายได้ยินเรื่องที่พระยะโฮวาทรงบันดาลให้น้ำทะเลแดงแห้งไปข้างหน้าท่าน, เมื่อท่านได้ออกมาจากเมืองอายฆุบโตนั้น; และซึ่งท่านได้กระทำแก่กษัตริย์อะโมรีทั้งสององค์, ซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยาระเดนฟากข้างโน้น, คือซีโฮนและโอฆ, ซึ่งพวกท่านได้ทำลายเสียสิ้น. 11 พอได้ยินข่าวดังนี้, จิตต์ใจของข้าพเจ้าทั้งหลายก็อิดโรยไป, ไม่มีผู้ใดมีใจกล้าขึ้นอีกได้ต่อหน้าพวกท่าน, ด้วยว่าพระยะโฮวาพระเจ้าของท่านเป็นเจ้าของสวรรค์เบื้องบน, ทั้งแผ่นดินเบื้องล่างด้วย. 12 ขอท่านได้สาบานแก่ข้าพเจ้า, โดยพระยะโฮวาและขอให้ข้าพเจ้ามีสำคัญอันซื่อสัตย์ว่า, ข้าพเจ้าได้สำแดงความเมตตาแก่ท่านฉันใด ท่านจะสำแดงความเมตตาแก่ครอบครัวบิดาของข้าพเจ้าฉันนั้น; 13 ว่าจะช่วยบิดามารดา, กับพี่น้องชายหญิงของข้าพเจ้า, และสรรพสิ่งซึ่งเขามีอยู่, ให้ข้าพเจ้าทั้งหลายรอดจากความตาย. 14 ชายทั้งสองนั้นจึงตอบแก่หญิงนั้นว่า, ถ้าเจ้ามิได้แจ้งเหตุของข้าพเจ้านี้ให้ผู้ใดรู้แล้ว, ชีวิตข้าพเจ้าจะแทนชีวิตของเจ้า, เมื่อพระยะโฮวาจะทรงมอบแผ่นดินนี้ให้แก่พวกเราแล้ว, เราคงจะสำแดงความเมตตาและความซื่อสัตย์แก่เจ้า. 15 หญิงนั้นจึงเอาเชือกหย่อนคนทั้งสองลงมาทางหน้าต่าง: เพราะบ้านตั้งอยู่ที่กำแพงเมือง, หญิงนั้นได้อาศัยอยู่ข้างบนกำแพงนั้น. 16 หญิงนั้นจึงบอกเขาว่า, จงไปยังภูเขาเถิด, เกลือกว่าผู้ที่ไล่ตามนั้นจะพบ; ให้ซ่อนตัวอยู่ในที่นั้นสามวัน, จนผู้ที่ไล่ตามจะกลับมาแล้ว: จงค่อยไปเถิด. 17 ชายทั้งสองตอบแก่หญิงนั้นว่า, เราจะไม่มีความผิดโดยคำสาบานซึ่งเจ้าให้เราสาบานไว้แล้ว. 18 ดูเถิด, เมื่อพวกเราเข้ามายังแผ่นดินนี้, ให้เจ้าเอาเชือกสีแดงจัด เส้นนี้ผูกไว้ที่หน้าต่างที่ได้หย่อนเราลงมานั้น: แล้วรวบรวมบิดามารดา, พี่น้อง, และครอบครัวทั้งสิ้นมาไว้ในบ้านของเจ้า. 19 หากว่าผู้ใดออกไปกลางถนนนอกประตูบ้าน, แม้เลือดผู้นั้นตกจะเป็นโทษเขาเองมิใช่ความผิดของพวกเรา: แต่ถ้ามีใครยกมือต่อผู้ใดซึ่งอยู่ในบ้านเจ้า, เลือดผู้นั้นจะอยู่บนศีรษะพวกเรา. 20 ถ้าหากว่าเจ้าแพร่งพรายเหตุการณ์ของเรานี้, เราจึงจะหลุดจากคำซึ่งเจ้าให้สาบาลไว้นั้น. 21 หญิงนั้นตอบว่า, ให้เป็นตามถ้อยคำของท่านเถิด, แล้วได้ส่งคนทั้งสองนั้นไป: หญิงนั้นจึงเอาเชือกสีแดงจัดผูกไว้ที่หน้าต่าง 22 คนทั้งสองก็ไปยังภูเขา, ได้อาศัยอยู่ ณ ที่นั้นสามวัน, จนผู้ที่ไล่ตามกลับมาแล้ว: เพราะค้นหาตลอดทางก็ไม่พบ. 23 ฝ่ายชายทั้งสองจึงกลับลงจากภูเขา, ข้ามแม่น้ำยาระเดนมาหายะโฮซูอะบุตรนูน, แจ้งเหตุการณ์ทั้งปวงซึ่งได้ตกแก่ตนเเล้ว: 24 เรียนยะโฮซูอะว่า, แท้จริงพระยะโฮวา, ได้ทรงมอบแผ่นดินทั้งหมดนั้นไว้ในมือพวกเรา, ทั้งบรรดาชาวเมืองนั้นก็อ่อนกำลังไปข้างหน้าเรา. |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society