โยชูวา 17 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 มีส่วนที่แบ่งปันด้วยฉลากสำหรับตระกูลมะนาเซด้วย. เพราะว่ามะนาเซนั้นเป็นบุตรหัวปีของโยเซฟ, ฝ่ายมาคีระบุตรหัวปีแห่งมะนาเซ, ผู้บิดาแห่งคีละอาด: ได้เมืองฆีละอาดและเมืองบาซาน, เพราะเหตุเขาเป็นคนรบกล้า. 2 ส่วนตามฉลากนั้นคือสำหรับบุตรมะนาเซที่เหลือตามพงศ์พันธุ์; คือบุตรอะบีเอเซร, บุตรเฮเลต, บุตรอัศรีเอล, บุตรเซเค็ม, บุตรเฮเฟร, และบุตรซีมิคา; คนเหล่านี้เป็นบุตรชายมะนาเซผู้เป็นบุตรโยเซฟตามพงศ์พันธุ์. 3 ฝ่ายซลัพฮาด, บุตรเฮเฟรๆ ผู้เป็นบุตรคีละอาดๆ บุตรมาคีรๆ บุตรมะนาเซๆ หามีบุตรชายไม่, มีแต่บุตรหญิงชื่อ: มัคลา, โนฮา, ฮัฆลา, มีละคา, และธีระซา. 4 หญิงเหล่านั้นก็เข้ามาหาเอละอาซารผู้ปุโรหิต, และยะโฮซูอะบุตรนูน, และพวกเจ้านายว่า, พระยะโฮวามีรับสั่งแก่โมเซ, ให้ข้าพเจ้ารับส่วนที่ในท่ามกลางพี่ชายของข้าพเจ้า. เหตุฉะนั้นตามรับสั่งแห่งพระยะโฮวานั้น, ท่านจึงยกให้เขามีส่วนที่ในท่ามกลางพี่ชายของบิดาเขา. 5 มะนาเซนั้นได้สิบส่วน, นอกจากเมืองฆีละอาดและบาซาน, ซึ่งอยู่ข้ามแม่น้ำยาระเดนฟากข้างโน้น. 6 เพราะว่าบุตรสาวของมะนาเซได้รับส่วนในท่ามกลางบุตรชายของเขา: ส่วนเมืองฆีละอาดที่เหลืออยู่นั้นเป็นส่วนที่บุตรอื่นๆ ของมะนาเซ 7 เขตต์แดนของตระกูลมะนาเซนั้นตั้งแต่อาเซรจนถึงเมืองมิคมะธาธ, ซึ่งอยู่ตรงเซเค็ม, แล้วเขตต์แดนเลี้ยวไปข้างขวาจนถึงเขตต์ชาวเมืองเอนธาปูอา. 8 เขตต์เมืองธาปูอาเป็นของมะนาเซ: แต่หัวเมืองธาปูอานั้นอยู่ที่ริมเขตต์แดนของมะนาเซเป็นของตระกูลเอ็ฟรายิม; 9 ส่วนเขตต์แดนนั้นกินลงไปถึงลำธารคานา, ฝั่งข้างใต้หัวเมืองเหล่านี้ซึ่งอยู่ในท่ามกลางเมืองของมะนาเซเป็นของเอ็ฟรายิม: เขตต์แดนของมะนาเซอยู่ฝั่งข้างเหนือน้ำ, และสุดปลายเขตต์แดนอยู่ที่ทะเล: 10 ฝ่ายใต้เป็นของเอ็ฟรายิม, แลฝ่ายเหนือเป็นของมะนาเซ, ทะเลเป็นเขตต์แดน (ทิศตะวันตก); เขตต์ทิศเหนือประจบกันที่ยาเซร, และที่ยิซาคารทิศตะวันออก. 11 ในท่ามกลางเขตต์แดนตระกูลยิซาคารและอาเซรนั้น, ตระกูลมะนาเซได้เมืองเบธซานกับทั้งหมู่บ้านที่ขึ้นกับเมืองนั้นด้วย, เมืองยิบลามกับทั้งหมู่บ้านที่ขึ้นด้วย; ชาวเมืองโดระกับทั้งหมู่บ้านที่ขึ้นด้วย; ชาวเมืองเอนโดระกับทั้งหมู่บ้านด้วย, ชาวเมืองธานาคกับทั้งหมู่บ้านด้วย, และชาวเมืองมะคิโดกับทั้งหมู่บ้านด้วย, คือเขาทั้งสามยอด. 12 แต่ตระกูลมะนาเซขับไล่ชาวเมืองเหล่านั้นออกไปไม่ได้; ด้วยชาวคะนาอันขืนอาศัยอยู่ในแผ่นดิน. 13 ครั้นเมื่อพวกยิศราเอลกำลังทวีขึ้น, ก็ได้ใช้ชาวคะนาอันเป็นบ่าว; แต่หาได้ขับไล่ออกไปเสียไม่ 14 ตระกูลโยเซฟได้มาเรียนยะโฮซูอะว่า, เหตุไฉนท่านแบ่งให้ข้าพเจ้ามีที่แต่ส่วนเดียว ด้วยข้าพเจ้ามีพลไพร่มาก, เพราะว่าพระยะโฮวาได้ทรงอวยพระพรแก่พวกข้าพเจ้าแล้ว? 15 ฝ่ายยะโฮซูอะก็ตอบแก่เขาว่า, ถ้าท่านทั้งหลายมีพลไพร่มาก, ภูเขาเอ็ฟรายิมนั่นเป็นที่คับแคบแก่ท่านทั้งหลายแล้ว, จงขึ้นไปต้ดป่าดงในแผ่นดินของชาติฟะรีซี, และของชาติเอ็ฟรายิมให้เป็นที่ของท่าน. 16 ฝ่ายตระกูลโยเซฟก็ตอบว่า, ภูเขานั้นก็ไม่พอแก่พวกข้าพเจ้า: และชาวเมืองคะนาอันทั้งปวงที่อาศัยอยู่ในระหว่างเขานั้นมีรถรบทำด้วยเหล็ก, ทั้งชาวเมืองเบธซานและหมู่บ้านขึ้นแก่เมืองกับชาวหว่างเขาเย็ศเรลด้วย. 17 ฝ่ายยะโฮซูอะจึงกล่าวแก่เผ่าพันธุ์โยเซฟ, คือแก่เอ็ฟรายิมและมะนาเซว่า, ท่านเป็นพวกใหญ่มีกำลังมาก: ท่านจะมีที่แต่แห่งเดียวก็หามิได้: 18 แต่ภูเขานั้นจะเป็นของท่านถึงว่าเป็นป่าดง ท่านจงหักร้างถางพงศ์เสีย: เพียงที่สุดปลายเขตต์จะเป็นของท่าน, ถึงแม้นว่าชาวเมืองคะนาอันมีรถรบเหล็กและมีกำลังมากก็ดี, ท่านขับไล่ออกไปเสียให้จงได้ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society