โยบ 9 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 แล้วโยบจึงตอบว่า, 2 “ข้าฯ รู้แล้วว่า, เป็นความจริงเช่นนั้น; แต่มนุษย์จะแสดงว่าเป็นผู้ชอบธรรมฉะเพาะพระเจ้าอย่างไรได้? 3 ถ้าเขาจะโต้เถียงกับพระองค์, ในปัญหาของพระองค์พันข้อ เขาก็ตอบไม่ได้แม้แต่ข้อเดียว. 4 พระองค์ประกอบด้วยพระปัญญาสูงสุด, และทรงฤทธิ์ใหญ่ยิ่ง. มีผู้ใดได้เคยตั้งตัวต่อสู้กับพระองค์, แล้วได้รับผลดีบ้างหรือ? 5 พระองค์ทรงยกภูเขาให้เคลื่อนที่ไป, มันก็ไม่รู้ตัว. พระองค์ทรงคว่ำมันเสียได้, ด้วยพระพิโรธของพระองค์. 6 พระองค์ทรงเขย่าโลกให้เคลื่อนที่, และเสารองโลกให้สนั่นหวั่นไหวไป. 7 พระองค์ทรงห้ามดวงอาทิตย์, มันก็ไม่ส่องแสง; และทรงปิดแสงดวงดาวไว้เสียด้วย. 8 พระองค์ผู้เดียวทรงคลี่ท้องฟ้าออก, และเสด็จดำเนินไปบนคลื่นในทะเล. 9 พระองค์ทรงสร้างดาวไถ, ดาวอาชาไนย, ดาวลูกไก่, และหมู่ดาวนักษัตรฝ่ายทิศใต้. 10 พระองค์ทรงกระทำการใหญ่ยิ่งเหลือที่จะเข้าใจได้, และการมหัศจรรย์เหลือที่จะคณนาได้ 11 “นี่แน่ะพระองค์เสด็จผ่านข้าฯ ไป, และข้าฯ ไม่เห็นพระองค์. พระองค์เสด็จเลยไปเสียด้วย, แต่ข้าฯ ไม่สังเกตเห็นพระองค์. 12 ดูเถอะ, พระองค์ทรงฉวยเอาไป; ใครจะห้ามพระองค์ได้? ใครจะบังอาจทูลถามพระองค์ว่า, ‘พระองค์ทรงกระทำอะไรอย่างนั้น.’ 13 พระเจ้าไม่ยับยั้งพระพิโรธของพระองค์. เหล่าบริวารศัตรูของพระองค์ก็ถูกปราบให้หมอบราบอยู่ใต้พระองค์. 14 ข้าต่ำต้อยกว่านั้นนัก, จะโต้เถียงกับพระองค์อย่างไรได้? และจะเลือกข้อความอะไรมาโต้ตอบกับพระองค์. 15 ถึงว่าข้าฯ เป็นผู้ชอบธรรมจริงๆ, ข้าฯ ก็ไม่บังอาจต่อล้อต่อเถียงเอาชะนะพระองค์ได้. มีแต่จะเข้าไปกราบไหว้วิงวอนขอความกรุณาต่อท่านผู้พิพากษาคดีของข้าฯ. 16 ถ้าข้าฯ ได้ส่งหมายเกาะตัวเรียกพระองค์มาสู้ความ, และพระองค์ก็เสด็จมา, ข้าฯ ไม่เชื่อว่าพระองค์จะทรงฟังเสียงของข้าฯ เป็นสารอะไร 17 “ด้วยว่าพระองค์ทรงหักหาญข้าฯ ด้วยพายุกล้า, และทรงให้ข้าฯ มีบาดแผลเพิ่มทบทวีคูณขึ้นโดยใช่เหตุ. 18 พระองค์ไม่ทรงผ่อนผันให้ข้าฯ หายใจได้เลย! แต่ได้ทรงบรรจุความขื่นขมให้ข้าฯ จนเต็มเปี่ยม. 19 ถ้าจะกล่าวว่า, ‘เออ, มาต่อสู้กันด้วยกำลัง,’ พระองค์เจ้าก็ตรัสว่า, ‘มาซิ, เรารออยู่ที่นี่,’ ถ้าจะกล่าวว่า, ‘มาสู้ความกัน’ พระองค์ก็ตรัสว่า, ‘ใครจะมานัดสู้ความกับเราเล่า?’ 20 แม้ว่าข้าฯ อ้างพะยานว่าข้าฯ เป็นคนดี, ปากของข้าฯ คงจะส่อให้เห็นพิรุธปรักปรำข้าฯ. ถ้าข้าฯ กล่าวว่าข้าฯ ดีรอบคอบ, จะเป็นเหตุพิศูจน์ให้เห็นว่าข้าฯ นั่นแหละเป็นคนชั่วช้า 21 “แต่ตัวข้าฯ นั้นดีรอบคอบ!... ข้าฯ จะไม่ไยดีต่อวิญญาณข้าฯ ละ; ข้าฯ ชังชีวิตข้าฯ แล้ว. นั่นก็มีทางเดียวเท่านั้น. 22 ดังนั้นข้าฯ จึงกล่าวว่าถึงจะเป็นคนดีหรือคนชั่ว, พระองค์ก็ทรงทำลายเสียเหมือนกัน 23 “ถ้าโรคระบาดฆ่าคนเสียโดยฉับพลัน, พระองค์จะทรงพระสรวลเยาะความทุกข์ทรมานแห่งผู้ที่หาความผิดมิได้. 24 แผ่นดินก็ถูกมอบให้อยู่ในเงื้อมมือของคนชั่วช้า. พระองค์ได้ทรงปิดหน้าของคณะตุลาการของพวกนั้น. ถ้าไม่ใช่พระองค์, จะเป็นใครเล่าที่กระทำเช่นนั้น? 25 บัดนี้วันคืนทั้งหลายของข้าฯ ละล่วงไปเร็วกว่าม้าเร็ว. มันผ่านพ้นไป, และไม่เห็นของดีอะไรเลย. 26 มันผ่านพ้นไปโดยเร็วดุจเรือกำปั่นฝีเท้าเร็ว, และดุจนกอินทรีย์ที่โฉบลงมาเฉี่ยวอาหาร. 27 ถ้าข้าฯ จะคิดว่าข้าฯ จะลืมการบ่นว่าของข้าฯ, ข้าฯ จะทำให้หน้าตาบูดบึ้งเลือนหายไป, และมีหน้าเบิกบาน; 28 ข้าฯ ก็หวาดกลัวด้วยเรื่องความทุกข์เวทนาของข้าฯ, และข้าฯ รู้ว่าพระองค์จะไม่ทรงถือว่าข้าฯ เป็นคนไม่มีผิด. 29 ข้าฯ ถูกปรับให้เป็นคนชั่วอยู่แล้ว, จะไปทำอะไรๆ โดยเปล่าประโยชน์ทำไม? 30 แม้ว่าข้าฯ จะชำระตัวด้วยหิมะ, และล้างมือให้สะอาดหมดจด, 31 พระองค์ก็ยังจะทรงจับข้าฯ กดลงไปในคู; แม้แต่เสื้อผ้าของข้าฯ เองก็ขยะแขยงข้าฯ 32 “เพราะว่าพระองค์มิใช่มนุษย์เหมือนอย่างข้าฯ, ที่ข้าฯ จะไปโต้เถียงกับพระองค์, และที่ข้าจะไปเป็นคู่ความกับพระองค์; 33 ทั้งไม่มีคนกลางที่จะตัดสินระหว่างสองฝ่าย. 34 ให้พระองค์งดใช้ไม้เรียวตีข้าฯ เสียที, อย่าให้การขู่เข็ญของพระองค์ทำให้ข้าฯ ตกใจกลัว; 35 แล้วข้าฯ จะพูดและไม่กลัวพระองค์, เพราะใจจริงของข้าฯ ไม่เป็นอย่างนั้น |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society