โยบ 6 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 โยบจึงตอบว่า, 2 “โอ, ขอให้การวิตกเดือดร้อนของข้าฯ นั้นได้ถูกชั่งด้วยตราชูเทียบกับภัยพิบัติที่ข้าฯ ได้รับไว้อย่างละเอียด! 3 ด้วยว่าภัยพิบัตินั้นมันหนักเสียยิ่งกว่าทรายในทะเล; เหตุฉะนั้นข้าฯ จึงได้พูดออกมาเพื่อบรรเทาทุกข์เท่านั้น. 4 เพราะว่าลูกธนูของพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ปักอยู่ในตัวข้าฯ, แลยาพิษอาบธนูนั้นก็ซาบซึมเข้าไปในดวงจิตต์ของข้าฯ. สิ่งที่น่าหวาดกลัวของพระเจ้าได้ตั้งกองไว้ต่อสู้ข้าฯ 5 “ลาป่านั้นร้องเมื่อมีหญ้าสดกินหรือ? และโคร้องเมื่อมันอยู่ที่กองอาหารหรือ? 6 อาหารซึ่งจืดไม่มีเกลือเจือจะกินได้หรือ? และไข่ขาวจะมีรสอะไรหรือ? 7 สิ่งซึ่งดวงจิตต์ของข้าฯ ไม่ยอมแตะต้องแต่ก่อน, บัดนี้กลับมาเป็นอาหารอันน่าเบื่อของข้าฯ 8 “โอ, ถ้าแม้นข้าฯ จะได้สมดังความปรารถนาของข้าฯ แล้ว, และพระเจ้าจะทรงโปรดให้ตามที่ข้าฯ อยากได้: 9 คือพระเจ้าจะทรงเห็นชอบที่จะทำลายข้าฯ เสีย, และพระองค์จะทรงละพระหัตถ์ของพระองค์ไปจากข้าฯ, และปล่อยข้าฯ ไปตามยถากรรม. 10 แล้วข้าฯ ยังจะมีความชื่นใจ. เออ, ข้าฯ ยังจะมีความยินดีในความเจ็บปวดซึ่งไม่มีการพักผ่อนเลย. ด้วยว่าข้าฯ มิได้เคยละเมิดคำสั่งสอนของท่านผู้บริสุทธิ์ 11 “ข้าฯ จะเอากำลังที่ไหนมาไว้วางใจ? ปลายทางของข้าฯ คืออะไร, ซึ่งข้าฯ จะพากเพียรคอยอยู่อย่างนี้? 12 กำลังกายของข้าฯ ทนทานได้อย่างก้อนหินหรือ? กล้ามเนื้อของข้าฯ เป็นเช่นทองเหลืองหรือ? 13 กำลังใจของข้าฯ ก็หมดไป, ทั้งสิ่งที่จะชูช่วยให้เป็นปกติก็เสียไปหมดแล้ว 14 “คนที่กำลังทนความทุกข์เวทนาอยู่ก็ควรที่จะได้รับความสงสารจากมิตรสหายของเขา, แม้แต่เป็นผู้ที่ละเลยไม่ยำเกรงท่านผู้ทรงฤทธิ์. 15 มิตรสหายของข้าฯ ประพฤติตนไม่สมชื่อ, ดุจลำธารหรือห้วยที่ไหลล้นฝั่ง. 16 น้ำก็ขุ่นเป็นตมเต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะซึ่งละลายหายไป: 17 แต่เมื่อถึงคราวอากาศอุ่นน้ำก็ค่อยๆ ลดลง, และครั้นถึงฤดูร้อนเข้ามันก็เหือดแห้งไปทีเดียว. 18 ทางของพ่อค้าต่างก็มาถึงที่นั่น, แต่ต้องเปลี่ยนทางเสีย, ซัดเซเข้าไปยังที่กันดาร, แล้วก็เลยศูนย์หายไป. 19 กองอูฐต่างจากตำบลเธมาก็แวะมาดู; หมู่พ่อค้าต่างจากเมืองซะบาก็มาคอยหาน้ำ. 20 ต่างก็เก้อเพราะไม่สมประสงค์เขาพากันมาที่นั้นแล้วก็หน้าจืดไป. 21 ท่านทั้งสามก็ไม่ดีดุจกันนั่นแหละ; พอท่านมาเห็นภัยพิบัติเข้าเท่านั้น, ท่านก็ตกใจกลัว 22 “ข้าฯ ได้ขออะไรจากท่านหรือ? หรือข้าฯ ได้ขอทรัพย์สินจากท่านเพื่อไปเป็นสินบน? 23 ข้าฯ ได้ขอให้ท่านช่วยข้าฯ ให้พ้นจากมือศัตรูหรือ? หรือได้ขอให้ท่านใช้ค่าไถ่เพื่อให้ข้าฯ พ้นจากมือของผู้ร้าย? 24 ข้าฯ ขอให้สอนเท่านั้น, และข้าฯ จะนิ่งฟัง, ขอชี้แจงให้ข้าฯ รู้ว่า, ข้าฯ ได้ทำผิดอะไร 25 “คำแนะนำที่ถูกต้องก็ย่อมมีน้ำหนักมาก; แต่ข้อความซึ่งท่านได้อ้างมาแล้วนั้นไม่เห็นมีประโยชน์อะไร. 26 ท่านติคำเหล่านั้นหรือ? อันเป็นถ้อยคำที่พูดพล่อยๆ ออกมาจากปากของผู้ที่ย่อท้อหมดท่าแล้ว? 27 เออ, ท่านนี้แหละเอาลูกกำพร้าในเรือนเงินมาจับสลากกัน, และขายมิตรของตัวเสีย 28 “บัดนี้ขอเชิญมาดูหน้าข้าฯ ให้เต็มตา; ก็จะเห็นประจักษ์ว่าข้าฯ มิได้พูดมุสาเลย. 29 ขอให้ท่านกลับคิดเสียใหม่อีกเถอะ, อย่าให้มีการอยุตติธรรมเลย. เออ, กลับคิดเสียใหม่เถอะ, ด้วยว่าคติของข้าฯ อยู่ฝ่ายชอบธรรม. 30 มีความผิดร้ายอะไรอยู่ที่ลิ้นของข้าฯ หรือ? หรือข้าฯ หมดความรู้สึกสิ่งที่ดีและชั่วไปเสียแล้ว? |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society