โยบ 13 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 “เออ, สิ่งทั้งหมดเหล่านี้ตาของข้าฯ ก็ได้เห็นแล้ว, และหูของข้าฯ ก็ได้ยินและเข้าใจแล้ว. 2 อะไรๆ ที่ท่านรู้, ข้าฯ ก็รู้ด้วยดุจกัน. ข้าฯ ก็ไม่เลวไปกว่าท่าน, 3 แต่ข้าฯ อยากจะพูดกับพระเจ้า, ข้าฯ ปรารถนาจะโต้ตอบกับพระองค์. 4 ส่วนท่านเป็นผู้แต่งคำมุสา. ท่านเป็นแพทย์ที่ใช้ไม่ได้ทั้งนั้น. 5 โอ, หากท่านจะพากันนิ่งเสียก็จะดีกว่า! นั่นแหละจึงจะแสดงว่าท่านมีปัญญา 6 “บัดนี้จงฟังคำต่อว่าของข้าฯ บ้าง, และเอียงหูฟังคำตัดพ้อแห่งริมฝีปากของข้าฯ เถิด. 7 ท่านจะพูดผิดๆ แก้ตัวแทนพระเจ้าหรือ? และกล่าวหลอกลวงแทนพระองค์หรือ? 8 ท่านจะทำตัวเข้าข้างพระองค์หรือ? ท่านจะตั้งตัวเป็นทนายว่าต่างพระเจ้าหรือ? 9 ถ้าหากว่าพระเจ้าจะทรงสอดส่องตรวจดูท่านจะเป็นการดีสำหรับท่านไหม? ท่านจะหลอกลวงพระองค์ดุจมนุษย์หลอกกันได้หรือ? 10 พระองค์คงจะต่อว่าท่านเป็นแน่, และถ้าท่านแอบลำเอียงเข้ากับฝ่ายใดก็ตาม. 11 ท่านจะไม่เกรงเดชานุภาพของพระองค์หรือ? และไม่เกรงว่าภัยพิบัติของพระองค์จะทับถมลงมายังท่านหรือ? 12 ข้ออ้างของท่านเป็นดุจกองขี้เถ้า, และข้อโต้เถียงของท่านก็เป็นแต่เพียงกองฝุ่น 13 “นิ่ง! ปล่อยให้ข้าฯ พูดคนเดียวเถิด. จะมีเหตุอะไรเกิดขึ้นแก่ข้าฯ ก็ตามที. 14 เหตุไรข้าฯ จึงยอมกัดเนื้อด้วยฟันของข้าฯ เอง, และกำดวงใจไว้ในมือของข้าฯ. 15 แม้ว่าพระองค์ทรงสังหารข้าฯ เสีย, ข้าฯ ก็ยังไว้วางใจในพระองค์. แต่ข้าฯ ก็จะโต้เถียงตามที่ข้าฯ เห็นชอบฉะเพาะพระองค์. 16 พระองค์จะเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของข้าฯ: ด้วยว่าคนที่ไม่นับถือพระเจ้าจะไม่มาปรากฏตัวฉะเพาะพระพักตรพระองค์. 17 จงสนใจฟังคำพูดและคำแถลงการณ์ของข้าฯ เถิด! 18 นี่แน่ะบัดนี้ข้าฯ ได้เรียบเรียงข้อความแก้คดีของข้าฯ ไว้เสร็จแล้ว: ข้าฯ รู้แล้วว่าข้าฯ จะเป็นฝ่ายถูก. 19 ใครเล่าจะมากล่าวอ้างว่าข้าฯ ผิด? ถ้าผิดจริง, ข้าฯ ก็ยอมนิ่งและยอมตายเลยทีเดียว 20 “เเต่โอพระเจ้าข้า, ขอทรงเลิกทำสองอย่างแก่ข้าฯ, แล้วข้าฯ จะไม่ซ่อนตัวจากพระพักตรของพระองค์. 21 คือ, ทรงยกพระหัตถ์ของพระองค์ไปเสียให้ไกลจากข้าฯ, และอย่าทรงทำให้ข้าฯ หวาดกลัวด้วยภัยพิบัติของพระองค์เลย. 22 แล้วพระองค์ทรงเรียกข้าฯ เถิด, ข้าฯ จะทูลตอบพระองค์. หรือจะทรงให้ข้าฯ พูด, และพระองค์จะทรงตอบก็ได้ 23 “บาปและผิดของข้าฯ มีเท่าไหน? โปรดทรงชี้แจงให้ข้าฯ ทราบว่าข้าฯ ได้ทำผิดและทำบาปอะไรบ้าง. 24 ทำไมทรงหันพระพักตรไปเสียจากข้าฯ ? และทรงถือเอาว่าข้าฯ เป็นศัตรูของพระองค์? 25 ทำไมหนอพระองค์จึงทรงพัดใบไม้แห้งให้ปลิวไปปลิวมา, และทรงไล่ผจญเศษฟางอันเหี่ยวแห้งเช่นนี้? 26 “เป็นไฉนพระองค์ทรงบันทึกสิ่งที่ขื่นขม อันเป็นปฏิปักข์ต่อข้าฯ ? และทรงบังคับให้ข้าฯ รับโทษผิดบาปที่ได้กระทำมาแล้วแต่ยังหนุ่มอยู่นั้น? 27 พระองค์ทรงล่ามเท้าของข้ากับขอนไม้, ทรงสะกดรอยของข้าฯ ไปทุกหนทุกแห่ง, และทรงขีดเส้นจำกัดเขตต์ให้ข้าฯ เดิน. 28 และเขาผู้นั้นก็เปื่อยพังไปดุจสิ่งที่ค่อยๆ เน่าไป, เช่นเดียวกับเสื้อผ้าที่ถูกมอดกิน.” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society