เยเรมีย์ 9 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 โอ้โอ๋อยากที่จะให้ศีรษะของข้าพเจ้าเป็นน้ำ, แลตาของข้าพเจ้าเป็นน้ำพุออก, เพื่อข้าพเจ้าจะได้ร้องไห้น้ำตาไหลทั้งวันทั้งคืน, เพราะลูกหญิงไพร่พลของข้าพเจ้าที่ต้องฆ่าเสียนั้น. 2 โอ้โอ๋อยากที่ข้าพเจ้าจะได้ที่พักอาศัยในป่าดง เป็นที่คนเดินทางจะได้อาศัยอยู่เพื่อประสงค์ข้าพเจ้าจะละไพร่พลของข้าพเจ้าแลไปจากเขา, เพราะเขาทั้งปวงผิดประเวณี, เขาเป็นที่ชุมนุมคนโกง. 3 แลเขาทั้งปวงกระทำให้ลิ้นของตัวคดโกงดุจโก้งศรสำหรับพูดปด, แลเขาทั้งปวงไม่กล้าเพื่อความสัตย์ในแผ่นดินโลก, เพราะเขาทั้งปวงได้ไปแต่ความร้ายถึงความร้ายต่อๆ กันไป, แลเขาทั้งปวงไม่รู้จักเรา, พระยะโฮวาได้ตรัส. 4 เจ้าทั้งหลายทุกตัวคนจงระวังเพื่อนบ้านของเจ้า, อย่าไว้ใจผู้พี่น้องกันใดๆ, เพราะพี่น้องกันตัวคนจะได้ที่ของเขาเพราะความอุบาย, แลเพื่อนบ้านที่ตัวคนจะได้ดำเนินในความนินทา. 5 แลเขาทั้งปวงทุกตัวคน, จะล่อลวงเพื่อนบ้าน, แลจะไม่พูดความจริง, เขาทั้งปวงได้ฝึกสอนลิ้นของตัวให้พูดปด, เขาได้ทำเหน็ดเหนื่อยตัวของตัวเพื่อจะได้ประพฤติความอสัตย์อธรรม. 6 บ้านของเจ้าตั้งอยู่ในความฉ้อ. เขาทั้งปวงขัดขืนไม่ยอมเรียนรู้จักเรา, เพราะอาศัยความกระบัด, พระยะโฮวาได้ตรัส. 7 เหตุดังนี้พระยะโฮวาเจ้าพลโยธา, ทั้งหลายได้ตรัสดังนี้ว่า, นี่แน่ะ, เราจะหลอมเขาทั้งปวง, แลจะไล่เลียงเขา, ด้วยว่า, เราจะกระทำอย่างไรเพื่อลูกหญิงไพร่พลของเราได้หนอ. 8 ลิ้นของเขาทั้งปวงเหมือนอย่างลูกศรยิงออกแล้ว, ลิ้นนั้นกำลังพูดจาฉ้อกระบัด, คนหนึ่งคนใดได้พูดความสุขแก่เพื่อนโดยปากของตัว, แต่ในใจของตัวซุ่มซ่อนเพื่อจะได้จับเขา. 9 เราจะไม่ต้องลงโทษแก่เขาเพราะการเหล่านี้หรือ, พระยะโฮวาได้ตรัสแลจิตต์ใจของเราจะไม่ต้องแก้แค้นเหนือเมืองอย่างนี้หรือ 10 เราจะจับทำการน้ำตาไหลแลร้องครางเพราะภูเขาทั้งหลาย, แลจะร้องไห้ร้องห่มเพื่อทางทุ่งนาแห่งป่าดอน, เพราะภูเขาทั้งหลายแลทุ่งนาทั้งปวงนั้นไหม้เสียหมดแล้ว, จนชั้นคนหนึ่งคนใดจะไปตลอดทางนั้นมิได้, แลไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของฝูงวัว, ทั้งฝูงนกในอากาศแลสัตว์ของเลี้ยงหนีไปแล้ว, สัตว์เหล่านั้นไปเสียหมด. 11 แลเราจะกระทำให้เมืองยะรูซาเลมเป็นกองๆ, เป็นรูปล่องสำหรับงูแลเราจะกระทำให้บ้านเมืองแห่งยะฮูดาร้างไป, ปราศจากคนหนึ่งคนใดอยู่. 12 ใครเป็นคนมีปัญญาที่จะเข้าใจความนี้ได้, แลมีผู้ใดที่พระโอษฐ์ของพระโฮวาได้ตรัสแก่เขา, เพื่อจะให้เขาประกาศความนั้นได้, เหตุไฉนประเทศเสียไปแลต้องเผาไหม้เสียหมดดุจป่าเปลี่ยวที่ไม่มีผู้ใดไปตลอดเล่า. 13 แลพระยะโฮวาได้ตรัสว่า, เพราะเขาทั้งปวงได้ละทิ้งบัญญัติของเรา, ที่เราได้ตั้งตรงหน้าเขานั้น, แลไม่ได้ฟังเสียงสั่งสอนของเรา, แลไม่ได้ดำเนินในทางนั้น, 14 แต่ได้ดำเนินตามใจดื้อของตัวเอง, แลได้ติดตามบาอะลิม, ซึ่งปู่ย่าตายายของเขาได้สอนให้ถือนั้น, 15 เหตุดังนี้พระยะโฮวาเจ้าของพลโยธาทั้งหลาย, พระเจ้าของพวกยิศราเอล, ได้ตรัสดังนี้ว่า, นี่แน่ะ, เราจะเลี้ยงเขาทั้งปวง, คือพลไพร่เหล่านี้ด้วยของขมนัก, แลจะให้เขามีน้ำกินปนด้วยดีสัตว์. 16 เราจะกระจัดกระจายเขาทั้งปวงในท่ามกลางคนนอกศาสนาด้วย, ผู้ที่ตัวของตัวแลปู่ย่าตายายของเขาไม่ได้รู้จัก, แลเราใช้กะบี่ตามเขาทั้งหลายกว่าเราจะให้เขาสาปศูนย์ไป 17 พระยะโฮวาเจ้าของพลโยธาทั้งหลายได้ตรัสดังนี้ว่า, เจ้าทั้งหลายจงตรึกตรองดู, แลให้เรียกพวกนางร้องไห้, เพื่อเขาจะได้มา, แลจงใช้ไปเรียกพวกหญิงฉลาดเพื่อเขาจะได้มา. 18 แลให้หญิงเหล่านั้นด่วนๆ จับทำร้องได้ร้องห่มเพราะพวกเรา เพื่อตาของเราจะมีน้ำตาไหลลง, แลเปลือกตาของพวกเราจะมีน้ำตาพุออกมากมาย. 19 เพราะมีเสียงร้องไห้ร้องห่มได้ยินออกมาจากเมืองซีโอนว่า, พวกเราได้ยับเยินลงมากเท่าใด, พวกเราตกตะลึงหนักหนา, เพราะพวกเราได้ละทิ้งประเทศของเรา, แลเพราะบ้านเมืองทั้งปวงของพวกเราได้ทิ้งพวกเราออกจากที่แล้ว. 20 ถึงกระนั้น, โอ้พวกผู้หญิง จงฟังเอาคำพระยะโฮวา, แลให้หูของพวกเจ้ารับคำแต่พระโอษฐ์ของพระองค์, แลจงฝึกสอนลูกหญิงของพวกเจ้าให้ร้องไห้, แลพวกเจ้าทุกตัวคนจงบอกเพื่อนบ้านของตัวให้คร่ำครวญ. 21 เพราะความตายได้ขึ้นมาเข้าหน้าต่างของพวกเรา, แลได้เข้ามาในวังทั้งปวงของเรา, เพื่อจะตัดกุลบุตรออกแต่ภายนอก, แลคนหนุ่มๆ ทั้งหลายให้ออกจากถนนทั้งปวง. 22 จงบอกว่า, พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, จนชั้นซากศพของผู้ชายทั้งปวงจะตกลงในที่ทุ่งนาเหมือนอย่างมูลสัตว์, แลเหมือนอย่างต้นข้าวที่ตกลงจากกำมือคนที่เกี่ยว, แลจะไม่มีผู้ใดเก็บไว้. 23 พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, อย่าให้ผู้มีปัญญาอวดด้วยปัญญาของตัว, อย่าให้ผู้มีกำลังใหญ่อวดด้วยกำลังใหญ่ของตัว, อย่าให้ผู้มั่งมีอวดด้วยมั่งมีของตัว. 24 แต่ให้ผู้ที่อวด ๆ ด้วยตัวเข้าใจแลรู้จักเราว่าเราเป็นพระยะโฮวาผู้ที่ได้ทรงความเมตตาประกอบด้วยความรัก, แลทรงความปัญญา, แลความสัตย์ธรรมในแผ่นดินโลก, เพราะในความเหล่านี้เราได้ยินดี, พระยะโฮวาได้ตรัสว่า. 25 ดูเถิด, วันเดือนจะมาที่เราจะลงโทษแก่บรรดาที่ได้ถือศีลตัด, แลที่ไม่ได้ถือศีลตัด, 26 คือเมืองอายฆุบโต, แลเมืองยะฮูดา, แลเมืองอะโดม, แลกุลบุตรของอำโมน, แลเมืองโมอาบ, แลบรรดาคนที่ผมเขาตัดแล้วที่ได้อาศัยอยู่ในป่าดง, เพราะบรรดาเมืองเหล่านี้เป็นเมืองที่ไม่ได้ถือศีลตัด, แลบรรดาครอบครัวของพวกยิศราเอลเป็นคนที่ไม่ได้ถือศีลตัดในใจ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society