เยเรมีย์ 52 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ซิคคียาพระชนม์อายุยี่สิบเอ็ดปีเมื่อท่านตั้งต้นเสวยราชย์, แลท่านได้เสวยราชย์ในเมืองยะรูซาเลมนั้นสิบเอ็ดปี, แลมารดาของท่านมีชื่อวาฮะมูตัล, เป็นลูกหญิงของยิระมะยาบ้านอยู่ลิบนา. 2 แลซิดคียาได้กระทำการชั่วให้เคืองในคลองพระเนตรพระยะโฮวา, ตามบรรดาเยี่ยงอย่างที่ยะโฮยาคิมได้กระทำนั้น. 3 เพราะด้วยความพิโรธแห่งพระยะโฮวา, ซิดคียาได้คิดกบฏต่อเจ้าเมืองบาบูโลน, ก็เกิดเหตุในเมืองยะรูซาเลมแลเมืองยะฮูดา, เพียงพระองค์ได้ทิ้งชาวยะรูซาเลมชาวเมืองยะฮูดาให้ออกไปแต่ตรงพระพักตรพระองค์, แลซิดคียาได้คิดกบฏต่อเจ้าเมืองบาบูโลน. 4 แลในปีที่เก้าซึ่งซิดคียาเสวยราชย์นั้น, ณ เดือนสิบขึ้นสิบค่ำ, ก็บังเกิดเหตุคือนะบูคัศเนซัรเจ้าเมืองบาบูโลนมาถึงเมืองยะรูซาเลม, ทั้งท่านแลบรรดาทัพของท่าน, แลได้ตั้งทัพจะต่อสู้, แล้วก็ตั้งค่ายให้ล้อมรอบ, 5 ท่านก็ล้อมรอบเมืองยะรูซาเลมอยู่จนถึงปีที่สิบเอ็ดที่ซิดคียาเสวยราชย์. 6 แลในเดือนสี่นั้นเป็นวันที่เก้า, ก็บังเกิดอดอยากข้าวแพงในเมือง, จนไม่มีอาหารที่จะให้ไพร่พลเมืองในประเทศกินเลย. 7 ขณะนั้นเมืองยะรูซาเลมก็แตก, แลบรรดาผู้ชายสำหรับรบศึกในเมืองนั้นก็หนีไป, แลออกไปจากเมืองในกลางคืนโดยทางประตูช่องกำแพงทั้งสองชั้น, ที่มีข้างสวนแห่งกษัตริย์, ขณะนั้นพวกเคเซ็ดกำลังล้อมรอบเมืองไว้, แลเขา (คือทหารเมืองยะรูซาเลมแลทหารพวกยิศราเอล) ก็ออกไปโดยทางแห่งดินราบเสมอ. 8 แต่ทัพแห่งพวกเคเซ็ดก็ไล่ตามซิดคียากษัตริย์, แลก็ทันในที่ดินราบเสมอแห่งเมืองยะริโฮ, แลบรรดาทัพของซิดคียาก็ต้องกระจัดกระจายจากซิดคียา. 9 ขณะนั้นทหารของพวกเคเซ็ดจับซิดคียากษัตริย์ได้, แลก็พาขึ้นไปถึงเจ้าเมืองบาบูโลน, ตำบลริบลาในประเทศฮามัธ, ที่นั่นเจ้าเมืองบาบูโลนได้ตัดสินขาดแก่ซิดคียา. 10 แลเจ้าเมืองบาบูโลนได้ฆ่าบุตรทั้งหลายของซิดคียาในคลองพระเนตรซิดคียา, แลเจ้าเมืองบาบูโลนได้ฆ่าบรรดาพวกเจ้านายแห่งเมืองยะฮูดาในเมืองริบลา. 11 ขณะนั้นเจ้าเมืองบาบูโลนได้กระทำให้เนตรของซิดคียาทั้งสองข้างให้บอดไป. แลเจ้าเมืองบาบูโลนให้ผูกมัดซิดคียาด้วยโซ่ตรวน, แล้วก็พาไปถึงเมืองบาบูโลน, แลใส่คุกไว้จนถึงวันตายแห่งซิดคียา. 12 ในเดือนห้าขึ้นสิบค่ำ, เป็นปีที่สิบเก้าที่นะบูคัศเนซัรเจ้าเมืองบาบูโลนเสวยราชย์นั้น, นะบูซาระดารแม่ทัพที่ได้ปรนนิบัติเจ้าเมืองบาบูโลนนั้น, ก็มาถึงเมืองยะรูซาเลม. 13 แลได้เผาไหม้โบสถ์แห่งพระยะโฮวา, แลวังกษัตริย์แลบรรดาตึกเรือนแห่งเมืองยะรูซาเลม, แลบรรดาตึกเรือนแห่งคนผู้ใหญ่นั้น, นะบูซาระดารได้เผาไฟเสียหมด. 14 แลทัพของพวกเคเซ็ดที่ได้อยู่ด้วยแม่ทัพก็ได้ทำลายกำแพงเมืองยะรูซาเลมลงโดยรอบ. 15 ขณะนั้นนะบูซาระดารแม่ทัพที่ได้พาคนชะเลยแห่งพวกไพร่พลอันยากจน, แลพวกไพร่อันเหลือเศษซึ่งค้างอยู่ในเมือง, ทั้งพวกที่หนีจากเมืองแล้วตกอยู่กับเจ้าเมืองบาบูโลน, แลคนอื่นแต่ฝูงราษฎรนั้นพาไปด้วย. 16 แต่นะบูซาระดารแม่ทัพได้ละไพร่พลยากจนแห่งประเทศนั้นไว้เพื่อเขาจะได้รักษาสวนต้นองุ่นแลเพื่อจะได้เป็นชาวนา. 17 แลเสาทองเหลืองที่มีในโบสถ์แห่งพระยะโฮวา, ทั้งเชิงแลทะเลทองเหลือง (คือขันทองเหลืองอันใหญ่) ที่มีในโบสถ์พระยะโฮวา, พวกเคเซ็ดหักเสีย, แล้วก็เก็บเอาทองเหลืองสำหรับของนั้นยกไปถึงเมืองบาบูโลน. 18 แลกะทะใหญ่ทั้งปวง, ทิ้งเสียมโกยเถ้า, ทั้งคีมคีบไส้ตะเกียง, แลชามแลช้อนทั้งปวง, แลบรรดาภาชนะทองเหลือง, ที่เขาได้ใช้ปรนนิบัติในโบสถ์นั้น, เขาก็เอาไปเสีย. 19 แลชามใหญ่, แลถาดและซามเล็ก, แลกะทะใหญ่, แลเชิงตะเกียง, แลช้อน, แลถ้วย, เครื่องทองคำทั้งนั้น, เครื่องเงินที่เป็นเงินทั้งนั้น, แม่ทัพเก็บเอาของเหล่านี้ไปหมด. 20 เสาทองเหลืองนั้นเป็นสองเสา, อ่างใหญ่สำหรับใส่น้ำอ่างหนึ่งแลรูปวัวตัวผู้ทองเหลืองรองเชิงเสา, ที่กษัตริย์ซะโลโมได้สร้างในโบสถ์แห่งพระยะโฮวาเป็นสิบสองตัว, ทองเหลืองที่ได้ประกอบบรรดาของเหล่านี้ก็มากหาได้ประมาณชั่งไม่. 21 แลถึงเสาทั้งสองวัน, ละเสาๆ นั้นสูงสิบแปดศอก, แลบัวเสาที่ข้างบนนั้นสิบสองศอก, ล้อมรอบเสาอยู่, หน้าได้สี่นิ้ว, แลเป็นโพรงใน. 22 แลหน้ากะดานเป็นทองเหลืองอยู่ที่บนเสานั้น, เป็นหน้ากะดานอันยาวได้ห้าศอก, แลมีเครื่องประดับตาชุนแลรูปทับทิมอยู่บนหน้ากะดานล้อมรอบนั้น, ล้วนแต่ทองเหลือง. แลเสาทองเหลืองที่สองนั้นก็ประดับด้วยทับทิมเหมือนกัน. 23 แลมีรูปทับทิมข้างละเก้าสิบหกผล. แลบรรดารูปทับทิมที่อยู่บนตาชุนนั้นนับได้ร้อยผลโดยรอบ. 24 แลแม่ทัพเอาตัวซะรายะผู้เป็นปุโรหิตและซะฟันยาผู้ปุโรหิตที่สอง, 25 แลผู้รักษาประตูทั้งสามคนนั้น, แลแม่ทัพก็เอาขันทีคนหนึ่งออกมาจากเมืองเป็นผู้พนักงานรักษาผู้ชายทั้งหลายสำหรับข้าศึก, แลเอาผู้ชายเจ็ดคนที่เป็นพนักงานอยู่ใกล้แก่กษัตริย์ที่เขาพบได้ในเมือง, แลเอาพวกอาลักษณ์ที่เป็นสำคัญในพลเมืองเป็นพนักงานประชุมไพร่พลแห่งประเทศ, แลเอาผู้ชายแต่พลไพร่แห่งประเทศที่พบได้ในท่ามกลางเมืองได้หกสิบคน. 26 แลนะบูซาระดารแม่ทัพก็เอาคนเหล่านั้นพาเอาไปถึงเจ้าเมืองบาบูโลนที่ตำบลริบลา. 27 แลเจ้าเมืองบาบูโลนก็ประหารคนเหล่านั้นให้ตายที่บ้านริบลาในประเทศฮามัธ. ดังนี้พวกยะฮูดาต้องกวาดออกจากประเทศของตัวเอาไปเป็นชะเลย. 28 นี้และเป็นพลไพร่ที่นะบูคัศเนซัรได้กวาดเอาไปเป็นชะเลยเสีย, คือว่าในปีที่เจ็ดก็ถวายเอาพวกยะฮูดาสามพันกับยี่สิบสามคน. 29 ในปีที่สิบแปดแห่งนะบูคัศเนซัร, ท่านได้เอาไปจากเมืองยะรูซาเลมแปดร้อยสามสิบสองคน. 30 ในปีที่ยี่สิบสามแห่งนะบูคัศเนซัรนั้น นะบูซาระดารแม่ทัพก็กวาดเอาชาติยะฮูดาไปได้เจ็ดร้อยสี่สิบห้าคน, บรรดาคนเหล่านั้นสิริด้วยกันเป็นสี่พันหกร้อยคน 31 แล้วในปีที่สามสิบเจ็ดแห่งความชะเลยยะโฮยาคิม, กษัตริย์เมืองยะฮูดา ณ เดือนสิบสองวันที่ยี่สิบห้า, แล้วเอวิลมะโรดัคเป็นเจ้าเมืองบาบูโลน, ในปี (ที่หนึ่ง) ของท่านๆ ได้โปรดเกล้ายะโฮยาคิมเจ้าเมืองยะฮูดาให้ขึ้น, 32 แลเอายะโฮยาคิมมาจากคุก, แลได้ตรัสปราศรัยแก่ยะโฮยาคิม, ให้ตั้งที่นั่งของท่านสูงกว่าที่นั่งแห่งกษัตริย์ชะเลยอื่นทั้งปวงที่อยู่ด้วยกันในเมืองบาบูโลน. 33 แล้วโปรดให้เปลี่ยนเครื่องทรงของท่านที่เคยทรงอยู่ในคุกนั้น, แลได้โปรดให้เสวยอาหารต่อหน้าท่านจนตลอดสิ้นอายุยะโฮยาคิม. 34 ของที่ยะโฮยาคิมเสวยนั้น, เจ้าเมืองบาบูโลนได้โปรดแบ่งเครื่องเสวยของท่านเป็นส่วน, ส่วนทุกวันให้ยะโฮยาคิมเสวยจนถึงวันที่ยะโฮยาคิมสิ้นพระชนม์, คือตลอดปีเดือนอายุของยะโฮยาคิม |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society