เยเรมีย์ 4 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 พระยะโฮวาตรัสว่า, ดูกรพวกยิศราเอล, ถ้าพวกเจ้าจะกลับใจก็จงกลับหาเราเกิด, แลถ้าพวกเจ้าจะทิ้งการน่าเกลียดน่าชังของพวกเจ้าให้ออกจากที่ตาเราเห็น, เจ้าจึงจะไม่ต้องอพยพไป. 2 แลเจ้าจะสาบานว่า, พระยะโฮวาจะทรงชีวิตอยู่ในความจริงในความสัตย์, แลในความชอบธรรม, แลเมืองทั้งปวงจะอวยพรแก่ตัวในพระองค์, แลเขาทั้งปวงจะอวดอยู่ในพระองค์. 3 เพราะพระยะโฮวาได้ตรัสแก่พวกผู้ชายของตระกูลยะฮูดา, แลเมืองยะรูซาเลมว่าดังนี้ว่า, จงฟื้นดินของเจ้า, อย่าหว่านข้าวในที่ท่ามกลางหนาม. 4 ดูกรพวกผู้ชายของตระกูลยะฮูดาแลพวกชาวยะรูซาเลม, จงถือศีลตัดถวายตัวเจ้าทั้งปวงแก่พระยะโฮวา, แลจงเอาหนังที่หน้าหัวใจของพวกเจ้าออกเสีย, เกลือกว่าความพิโรธของเราจะพลุ่งออกดุจไฟ, แลจะเผาเอาที่ไม่มีผู้ใดจะดับได้, เพราะความร้ายที่พวกเจ้ากระทำนั้น. 5 เจ้าทั้งหลายจงประกาศในตระกูลยะฮูดา. แลจงแจ้งความในเมืองยะรูซาเลม, แลกล่าวว่า, เจ้าทั้งหลายจงเป่าแตรในประเทศ, จงร้องให้ดังว่า, ให้เจ้าทั้งหลายชุมนุมกัน, แลให้พวกเราเข้าไปในเมืองที่มีป้อมกันเถิด. 6 ให้ตั้งธงขึ้นตรงเมืองซีโอน, ให้ถอยออกไปอย่าหยุดพักเลย. เพราะเราจะนำความร้ายมาแต่ฝ่ายเหนือ, แลความหักทำลายใหญ่. 7 สิงห์โตตัวนั้นได้ขึ้นไปจากที่ซุ้มของตัวแลผู้ที่ทำลายชาติเชนไทล์ก็กำลังเดินทางของตัวมา, ตัวเขาได้ออกจากที่ของตัวแล้ว, เพื่อจะได้กระทำให้ประเทศของเจ้าเป็นร้างไป, แลบ้านเมืองของเจ้าจะต้องเริดร้าง, จะปราศจากผู้ใดอยู่. 8 เพราะเหตุความนี้, เจ้าจงผูกรัดเอวตัวเจ้าไว้ด้วยผ้าหยาบ, จงร้องไห้แลคร่ำครวญ, เพราะความพิโรธอันร้ายกาจแห่งพระยะโฮวาไม่ได้หันกลับจากพวกเรา. 9 แลพระยะโฮวาได้ตรัสว่า, ในคราวนั้นจะบังเกิดเหตุที่จะให้ใจของกษัตริย์ศูนย์หาย, แลใจของเจ้านายทั้งปวงด้วย, แลพวกปุโรหิตจะตกตลึงไป, แลพวกทำนายจะอัศจรรย์ใจ. 10 ขณะนั้นข้าพเจ้าได้กล่าวว่า, โอพระยะโฮวาผู้เป็นพระเจ้า, แท้จริงพระองค์ได้ล่อลวงไพร่พลนี้แลเมืองยะรูซาเลมมากนัก, ด้วยพระองค์ได้บอกไว้ว่า, เจ้าทั้งหลายจะได้ความสุข. แต่ถ้าว่ากะบี่มาถึงที่หัวใจแล้ว. 11 ในเวลานั้นจะได้มีคำบอกแก่ไพร่พลนี้, แลแก่เมืองยะรูซาเลมว่า, มีลมแห่งมาแต่ที่สูงทั้งหลายในป่าดงตรงเข้าหาลูกหญิงของไพร่พลแห่งพวกเรา, จะมาเพื่อจะพัดมิได้หรือจะชำระมิได้, 12 จะมีลมใหญ่มาแต่ที่สูงเหล่านั้น, มาถึงเรา, เดี๋ยวนี้เราจะตัดสินแก่ไพร่พลเหล่านั้น. 13 นี่แน่ะเขาจะขึ้นมาเหมือนอย่างเมฆทั้งปวง, แลราชรถของเขาจะเป็นดุจลมบ้าหมู, ม้าทั้งปวงของเขาเร็วกว่านกอินทรี. วิบัติกรรมมาถึงพวกเราแล้ว, เพราะพวกเราเสียๆ แล้ว. 14 โอ้เมืองยะรูซาเลม, จงชำระใจของเจ้าให้ปราศจากความชั่ว, เพื่อประสงค์เจ้าจะรอดได้. ความคิดอันชั่วของเจ้าจะมาพักอยู่ในใจของเจ้านานเท่าใด. 15 เพราะมีเสียงประกาศแต่ตระกูลดาน, แลป่าวร้องความทุกข์ยากแต่ภูเขาเอ็ฟรายิม, เจ้าทั้งหลายจงบอกแก่เมืองทั้งปวง, 16 นี่แน่ะ, จงประกาศต่อเมืองยะรูซาเลมว่า, คนสอดแนมกำลังมาแต่เมืองไกล, แลกำลังออกเสียงของเขาต่อสู้บ้านเมืองยะฮูดา. 17 ดุจคนเฝ้ารักษานาอันหนึ่งอันใดไว้ฉันใด, เขาทั้งปวงล้อมรอบเมืองไว้ฉันนั้น, เหตุเพราะเมืองได้คิดกบฏต่อเรา, พระยะโฮวาได้ตรัส. 18 ทางที่เจ้าได้ไปนั้น, แลกิจธุระของเจ้า, ได้เกิดเหตุเหล่านี้แก่เจ้า, นี่แลเป็นความบาปของเจ้า. เพราะเป็นขื่นขม, ด้วยว่าการร้ายนั้นมาถึงหัวใจเจ้า. 19 ท้องของข้าพเจ้าเอ๋ย, โอ้ท้องข้าพเจ้า, ข้าพเจ้ากำลังปวดที่ตรงหัวใจข้าพเจ้า, ใจของข้าพเจ้ามีเสียงร้องออกในตัวข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าจะนิ่งเสียก็ไม่ได้. เพราะจิตต์ของข้าพเจ้าเอ๋ย, ได้ยินเสียงแตร, แลเสียงสำคัญของสงครามแล้ว. 20 มีเสียงร้องว่า, ความทำลายซ้อนความทำลายมาถึงแล้ว, เพราะประเทศเสียหมดแล้ว. ทับที่อาศัยของข้าพเจ้าเสียไปโดยเร็วพลัน, แลผ้าม่านทั้งหลายของข้าพเจ้าก็เสียในประเดี๋ยวเดียว. 21 ข้าพเจ้าจะต้องดูธงแลฟังเสียงแตรสังข์นานเท่าใด. 22 เพราะไพร่พลของเราโฉดเขลา, เขาทั้งปวงไม่ได้รู้จักเราแล้ว, เขาเป็นพวกลูกหลานเมาเซอะ, แลเขาทั้งปวงไม่มีความเข้าใจอันหนึ่งอันใด, เขามีปัญญาแต่ที่จะทำร้าย, เขาไม่รู้จักทำดีเลย 23 ข้าพเจ้าได้แลไปเห็นพื้นโลก, แลนี่แน่ะ, ไม่มีรูปสัณฐานก็เปล่าไป, แลไปถึงท้องฟ้าก็ไม่มีดวงสว่าง. 24 ข้าพเจ้าแลไปถึงภูเขาทั้งหลาย, และนี่แน่ะ, เขาเหล่านั้นสะเทือนสะท้านอยู่, แลบรรดาเนินเขาทั้งปวงเลื่อนไปเลื่อนมา. 25 ข้าพเจ้าแลไป, แลนี่แน่ะ, ไม่มีมนุษย์ผู้หนึ่งผู้ใด, แลฝูงนกทั้งปวงสำหรับอากาศหนีไปแล้ว. 26 ข้าพเจ้าแลไป, ก็นี่แน่ะ, ที่เคยมีผลบริบูรณ์ก็เป็นทุ่งนาเปล่าๆ, แลบรรดาเมืองทั้งปวงสำหรับที่นั้นก็ต้องหักทำลายลงต่อพระพักตรพระยะโฮวาแล้ว, เพราะความพิโรธอันร้ายกาจของพระองค์. 27 เพราะพระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, ประเทศนี้จะต้องเริดร้างไปเสียหมด, ถึงกระนั้นเราจะไม่ได้ทำให้สำเร็จที่สุด. 28 เพราะเหตุนี้แผ่นดินโลกจะโศกเศร้า, แลท้องฟ้าข้างบนจะมืด, เพราะเราได้บอกแล้ว, แลเราได้หมายเหตุนั้นแล้ว, เราจะไม่กลับใจ, แลเราจะไม่หันจากเหตุนั้น. 29 บรรดาคนในเมืองจะหนีไปเพราะเสียงทหารม้าแลทหารธนู, ชาวเมืองทั้งปวงจะหนีเข้าในที่ป่ารกทั้งหลาย, แลปีนขึ้นบนภูเขาหินทั้งปวง, เมืองทุกเมืองจะต้องละทิ้งเสีย, แลจะไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่. 30 แลเมื่อเจ้าจะเสียแล้ว, เจ้าจะทำอะไรอีกเล่า. ถึงเจ้าจะนุ่งผ้าสีม่วง, ถึงเจ้าจะตกแต่งตัวด้วยเครื่องประดับทอง, ถึงเจ้าจะทาหน้าตาของเจ้าด้วยสี, ก็จะกระทำให้ตัวของตัวเจ้างดงามก็จะเปล่าๆ, คนทั้งปวงที่ได้รักเจ้าดูหมิ่นเจ้า, แลเขาทั้งปวงเสาะหาเอาชีวิตของเจ้า. 31 เพราะข้าพเจ้าได้ยินเสียงดุจเสียงผู้หญิงที่กำลังคลอดลูก, แลความปวดสาหัสดุจหญิงที่กำลังคลอดลูกหัวปีของตัว, เสียงร้องของลูกหญิงของเมืองซีโอนซึ่งกำลังร้องทุกข์ของตัว, แลที่ได้ยกมือของตัวทั้งสองชูไว้, ร้องว่าวิบากถึงตัวข้าพเจ้าเดี๋ยวนี้, ด้วยว่าจิตต์ใจของข้าพเจ้าเหน็ดเหนื่อยเพราะคนแกล้งฆ่าฟันกัน |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society