เยเรมีย์ 39 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ในปีที่เก้าแห่งกษัตริย์เมืองยะฮูดา, เดือนที่สิบ, นะบูคัศเนซัรกษัตริย์เมืองบาบูโลน, แลบรรดากองทัพของท่าน, ยกมาตีเมืองยะรูซาเลม, แล้วก็เข้าล้อมเมืองไว้. 2 แลปีที่สิบเอ็ดแห่งซิดคียา, เดือนสี่ขึ้นเก้าค่ำเมืองยะรูซาเลมแตก. 3 บรรดาเจ้านายแห่งกษัตริย์บาบูโลนก็เข้าไปแลนั่งลงที่ประตูชั้นกลาง, เจ้านายเหล่านั้นชื่อเนรฆัลซาเรเซร, แลซัมฆัรนะโบ, แลซัรซะคิม, แลรับซาริศ, แลเนรฆัลซาเรเซร์, แลรับมัก, กับทั้งบรรดาเจ้านายอื่นของกษัตริย์เมืองบาบูโลน. 4 แล้วก็บังเกิดเหตุ, คือเมื่อซิดคียากษัตริย์เมืองยะฮูดา, ได้เห็นพวกเจ้านาย, แลบรรดาพวกพลกองทัพนั้นแล้ว. ท่านก็หนีไป, ออกจากเมืองในเวลากลางคืน, ตามหนหางที่ไปสวนแห่งกษัตริย์, โดยประตูซึ่งอยู่ในท่ามกลางกำแพงสองชั้น, แล้วท่านก็ออกตามทางที่จะไปยังแผ่นดินราบนั้น. 5 แต่กองทัพเคเซ็ดไล่ตามพวกซิดคียา, ทันซิดคียาเข้าที่แผ่นดินรามเสมอ ณ เมืองยะริโฮ, แลเมื่อเขาจับซิดคียาได้แล้ว, เขาก็พาท่านไปถึงนะบูคัศเนซัรเจ้าเมืองบาบูโลนถึงตำบลริบลาที่ประเทศอามัธ. แลนะบูคัศเนซัรก็ได้ตัดสินความซิดคียา ณ ที่นั่น. 6 ขณะนั้นกษัตริย์เมืองบาบูโลน ก็ฆ่าบุตรชายของซิดคียาในตำบลริบลาตรงตาของซิดคียา, แลกษัตริย์เมืองบาบูโลนได้ฆ่าบรรดาพวกเจ้านายแห่งเมืองยะฮูดาด้วย. 7 อีกประการหนึ่งนะบูคัศเนซัรได้กระทำให้ดวงตาของซิดคียาทั้งสองนั้นดับไป, แล้วผูกมัดซิดคียาไว้ด้วยโซ่, เพื่อจะเอาตัวไปให้ถึงเมืองบาบูโลน. 8 แล้วพวกเคเซ็ดก็เผาผลาญวังกษัตริย์แลบ้านเรือนของไพร่พลเสียด้วยไฟ, แล้วทำลายกำแพงเมืองยะรูซาเลมให้พังลง. 9 คราวนั้นนะบูซาระดารแม่ทัพได้กวาดเอาไพร่พลอันเหลืออยู่, คือคนที่เหลืออยู่ในเมือง, กับทั้งพวกคนที่อาศัยอยู่ในกองทัพท่าน, ทั้งไพร่พลอื่นทั้งปวงซึ่งเหลืออยู่นั้น, ได้เอาไปถึงเมืองบาบูโลน. 10 แต่นะบูซาระดารแม่ทัพได้ละทิ้งคนเข็ญใจแห่งไพร่พลเมือง,ผู้ที่ไม่มีทรัพย์สิ่งของ, ในประเทศยะฮูดา, แลในวันนั้นนะบูซาระดารได้ยกสวนองุ่นแลไร่ทั้งปวงให้แก่เขา 11 ฝ่ายนะบูคัศเนซัรกษัตริย์เมืองบาบูโลน, สั่งกำชับนะบูซาระดารแม่ทัพถึงยิระมะยาว่า, 12 จงเอาตัวยิระมะยาไป, แลพิทักษ์รักษาท่านไว้โดยดี, แลอย่าได้ทำอันตรายแก่ท่านเลย, แต่จงกระทำแก่ท่านตามที่ยิระมะยาจะบอกให้กระทำนั้น. 13 เหตุดังนั้นะบูซาระดารแม่ทัพได้ใช้, แลนะบูซัดซะมาล, แลรับซาริศ, แลเนระฆัลซาเรเซ็ร, แลรับมัก, กับทั้งบรรดาเจ้านายแห่งกษัตริย์เมืองบาบูโลน, 14 คนเหล่านี้ก็ได้ใช้เอาตัวยิระมะยาออกจากบริเวณคุกนั้น, ฝากยิระมะยาไว้แก่ฆะดัลยาบุตรของอะฮีคาม, ผู้เป็นบุตรของซาฟาน, เพื่อฆะดัลยาจะรับเอายิระมะยาไปยังบ้านของตัว. ยิระมะยาจึงอยู่ในท่ามกลางไพร่พล 15 ส่วนคำโอวาทของพระยะโฮวามาถึงยิระมะยา, เมื่อยิระมะยายังต้องกักขังอยู่ในบริเวณคุกนั้นว่า, 16 เจ้าจงไปบอกเอเบ็ดเมเล็กชาวเมืองอายธิโอบว่า, พระยะโฮวาแห่งพลโยธาทั้งหลาย, เป็นพระเจ้าฝ่ายยิศราเอล, ได้ตรัสดังนี้ว่า, นี่แน่ะ, เราจะนำถ้อยคำทั้งหลายของเรามาถึงเมืองนี้เพื่อจะให้บังเกิดความร้าย, แลจะให้เป็นเพื่อความดีหามิได้, แลถ้อยคำเหล่านั้นจะสำเร็จต่อหน้าเจ้าในวันนั้น. 17 แต่เราจะให้ตัวเจ้าได้รอดในวันนั้น, พระยะโฮวาได้ตรัส. แลตัวเจ้าจะไม่ต้องมอบไว้ในมือของคนที่ตัวเจ้าต้องกลัวอยู่นั้น. 18 ด้วยว่าเราจะให้เจ้าได้รอดเป็นแน่, แลเจ้าจะไม่ต้องล้มลงด้วยกะบี่, แต่ชีวิตของเจ้าจะเป็นของปล้นสำหรับเจ้า, เพราะว่าเจ้าได้วางใจในเรา พระยะโฮวาได้ตรัส |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society