เยเรมีย์ 37 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 แลซิดคียากษัตริย์เป็นราชบุตรโยซียาได้เสวยราชสมบัติแทนคัลนาผู้เป็นราชบุตรของยะโฮยาคิมผู้ที่นะบูคัศเนซัรกษัตริย์เมืองบาบูโลนได้ตั้งเป็นกษัตริย์ในประเทศยะฮูดา. 2 แต่ซิดคียาแลข้าราชการของท่านแลพลไพร่แห่งประเทศนั้นหาได้ฟังคำโอวาทแห่งพระยะโฮวา, ซึ่งพระองค์ได้ตรัสโดยยิระมะยาผู้ทำนายนั้นไม่. 3 และซิดคียากษัตริย์ได้ใช้เยฮูกัลผู้เป็นบุตรเซเล็มยา, แลซะฟันยาบุตรของมาเซยาผู้เป็นปุโรหิต, ให้ไปหายิระมะยาผู้ทำนาย, ตรัสว่า, ขอท่านได้อ้อนวอนพระยะโฮวาพระเจ้าของพวกเราคราวนี้เพื่อพวกของเราเถิด. 4 คราวนั้นยิระมะยาได้เข้ามาแลออกไปในท่ามกลางไพร่พลเป็นปกติ. เพราะเจ้าทั้งหลายยังหาได้ใส่ยิระมะยาไว้ในคุกไม่. 5 ขณะนั้นทัพพระยาฟาโรได้ยกออกมาจากเมืองอายฆุบโตแล้ว, แลเมื่อพวกเคเซ็ดที่ยังกำลังล้อมเมืองยะรูซาเลมไว้นั้นได้ยินข่าวถึงกองทัพฟาโร, เขาทั้งหลายก็เลิกกองทัพไปจากเมืองยะรูซาเลม. 6 ขณะนั้นคำโอวาทแห่งพระยะโฮวามาถึงยิระมะยาผู้ทำนายตรัสว่า, 7 พระยะโฮวาพระเจ้าของพวกยิศราเอล, ได้ตรัสดังนี้ว่า, เจ้าจงไปบอกกษัตริย์เมืองยะฮูดา, ผู้ที่ได้ใช้เจ้าให้มาถามเรา, จงบอกแก่ท่านดังนี้ว่า, ดูเถิด, กองทัพของพระยาฟาโร, ซึ่งได้ยกออกมาเพื่อจะสงเคราะห์เจ้านั้น, จะกลับไปยังเมืองอายฆุบโต, ถึงที่ประเทศของเขา. 8 แลพวกเคเซ็ดจะกลับมารบต่อสู้กับเมืองนี้, แลจะได้ชัยชะนะ, แลจะเผาเมืองนี้เสียด้วยไฟ. 9 พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, เจ้าทั้งหลายอย่าล่อลวงตัวของตัวด้วยกล่าวว่าพวกเคเซ็ดคงจะออกไปจากเราเลย, เพราะเจ้าทั้งหลายไม่ไปทีเดียว. 10 ด้วยว่าแม้นเจ้าทั้งหลายได้ตีทัพแห่งพวกเคเซ็ดซึ่งได้มารบต่อพวกเจ้าแตกเสียทั้งหมด, ยังเหลืออยู่แต่ทหารที่ถูกอาวุธแทงตลอดตัว, ถึงกระนั้นคนเหล่านั้นจะได้ลุกขึ้นในที่ทัพของตัวทุกตัวคน, แลจะมาเผาผลาญเมืองนี้เสียด้วยไฟ 11 แล้วก็บังเกิดเหตุ, คือเมื่อกองทัพของเคเซ็ดได้เลิกไปจากเมืองยะรูซาเลม, เพราะกลัวกองทัพพระยาฟาโร, 12 ขณะนั้นยิระมะยาก็ออกไปจากเมืองยะรูซาเลมเพื่อจะได้เข้าไปในที่ประเทศเบ็นยามิน, เพื่อจะรับเอาส่วนมฤดกของตนที่นั่นในท่ามกลางไพร่พลเมือง, 13 แลเมื่อยิระมะยาอยู่ในที่ประตูเบ็นยามิน, มีนายกองตระเวนชื่อยิรีรา, เป็นบุตรของเซเล็มยา, ผู้เป็นบุตรฮะนันยา, เขาก็จับยิระมะยาผู้ทำนายบอกว่า, เจ้ากำลังจะไปเข้าด้วยเคเซ็ดนั้นเอง. 14 ขณะนั้นยิระมะยาบอกว่า, นี่เป็นความเท็จ, ข้าไม่ได้ไปเขาด้วยพวกเคเซ็ดดอก, แต่ยิรียาไม่ฟังคำยิระมะยา, ยิรียาก็เอาตัวยิระมะยาไว้, แล้วก็พาไปถึงพวกเจ้านาย. 15 แลพวกเจ้านายจึงโกรธยิระมะยา, แลเฆี่ยนเขาแลจำเขาไว้ในคุกที่มีอยู่ในเรือนของโยนาธานอาลักษณ์นั้น, เพราะเจ้านายทั้งปวงได้จัดเอาที่นั้นเป็นคุก 16 เมื่อยิระมะยาลงไปอยู่ในคุกมืด, แลได้เข้าไปในอุโมงค์นั้น, 17 แลยิระมะยาได้ค้างอยู่ที่นั้นหลายวันแล้ว, ขณะนั้นซิดคียากษัตริย์จึงใช้ให้ไปเอาตัวยิระมะยาออกมา, แล้วกษัตริย์จึงถามยิระมะยาในวังของท่านเป็นความลับว่า, มีคำโอวาทของพระยะโฮวาบ้างหรือ. ฝ่ายยิระมะยาจึงบอกว่า, มีอยู่, ก็ว่าอีกว่า, ท่านจะต้องมอบไว้ในมือของกษัตริย์บาบูโลน. 18 อีกประการหนึ่งยิระมะยาทูลซิดคียากษัตริย์ว่า, ข้าพเจ้าได้หาผิดต่อพระองค์, หรือต่อข้าราชการของพระองค์, หรือต่อไพร่พลเหล่านี้, เป็นประการใด, ที่ควรท่านจะใส่ตัวข้าพเจ้าไว้ในคุก. 19 บัดนี้พวกผู้ทำนายของท่าน, ซึ่งได้ทำนายแก่ท่านว่า, กษัตริย์เมืองบาบูโลนจะไม่มาต่อสู้กับท่าน, หรือต่อสู้กับประเทศนี้, เขาอยู่ที่ไหน. 20 เหตุฉะนี้ข้าแต่ท่านผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้า, ผู้เป็นกษัตริย์, ข้าพเจ้าจะขอท่านได้โปรดให้คำอ้อนวอนของข้าพเจ้าที่เห็นชอบตรงพระพักตรท่าน, เพื่อท่านจะได้โปรดไม่ให้ข้าพเจ้ากลับไปอยู่ในเรือนของโยนาธานอาลักษณ์นั้นอีก, กลัวเกลือกว่า, ข้าพเจ้าจะต้องตายในที่นั้น. 21 ขณะนั้นซิดคียากษัตริย์มีรับสั่งให้เขาทั้งหลายเอาตัวยิระมะยาไปใส่ไว้ในที่บริเวณคุกนั้น, แลเขาทั้งหลายเอาขนมปังก้อนหนึ่งเอาออกมาแต่ถนนช่างทำขนมวันละก้อนทุกวัน, กว่าบรรดาขนมในเมืองนั้นจะหมดไป. ดังนี้และยิระมะยาติดอยู่ในบริเวณคุกนั้น |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society