เยเรมีย์ 36 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 แล้วก็มีเหตุเกิดมา, คือในปีที่สี่แห่งยะโฮยาคิมผู้เป็นบุตรแห่งโยซียา, กษัตริย์เมืองยะฮูดา, คำนี้มาถึงยิระมะยาแต่พระยะโฮวาว่า, 2 เจ้าจงเอาหนังสือม้วนเล่มหนึ่ง, แลเขียนลงในเล่มนั้นแต่บรรดาถ้อยคำที่เราได้บอกแก่เจ้าแล้วต่อสู้ยิศราเอล, แลต่อสู้ยะฮูดา, แลต่อสู้บรรดาเมืองทั้งปวง, ตั้งแต่วัน (เดิม) ที่เราได้บอกแก่เจ้า, ตั้งแต่วันเดือนแห่งโยซียาจนถึงทุกวันนี้. 3 ชะรอยตระกูลยะฮูดาจะได้ยินฟังแต่บรรดาความร้ายที่เราคิดจะกระทำแก่เขาทั้งปวง, เพื่อเขาจะหันกลับทุกตัวคนจากทางชั่วของตัว, เพื่อเราจะได้ยกความอสัตย์อธรรมของเขา. แลโทษบาปของเขา. 4 ขณะนั้น, ยิระมะยาเรียกบารุคผู้เป็นบุตรของเนรียา, แลบารุคก็เขียนตามปากยิระมะยาบอกแต่บรรดาถ้อยคำแห่งพระยะโฮวา, ซึ่งพระองค์ได้สั่งแก่ยิระมะยาให้ลงในม้วนหนังสือเล่มหนึ่ง. 5 แล้วยิระมะยาสั่งบารุคว่า, ข้ายังต้องกักขังอยู่, ข้าเข้าไปในวิหารแห่งพระยะโฮวาไม่ได้, 6 เหตุฉะนี้เจ้าจงไปแลอ่านในหนังสือม้วน, ที่เจ้าได้เขียนตามปากของข้า, คือถ้อยคำทั้งหลายแห่งพระยะโฮวา, ให้เข้าไปในโสตของไพร่พลในวิหารแห่งพระยะโฮวา, ในวันเขาถือศีลอดอาหารนั้น, แลเจ้าจงอ่านคำเหล่านั้นให้เข้าหูแต่บรรดาเมืองยะฮูดาซึ่งออกมาแต่บ้านเมืองของเขาด้วย. 7 ชะรอยเจ้าทั้งหลายจะถวายคำอ้อนวอนของเขาต่อพระยะโฮวา, และจะได้หันกลับทุกตัวคนจากทางร้ายของตัว, เพราะความพิโรธแลความกริ้วซึ่งพระยะโฮวาได้ตรัสต่อสู้ไพร่พลเหล่านี้ก็เป็นใหญ่. 8 แลบารุคบุตรของเนรียาได้กระทำตามบรรดา (คำ) ที่ยิระมะยาผู้ทำนายสั่งเขา, บารุคก็ได้อ่านคำโอวาทแห่งพระยะโฮวาในวิหารพระยะโฮวาตามหนังสือม้วนนั้น. 9 แล้วก็มีเหตุเกิดมา, คือปีที่ห้าแห่งยะโฮยาคิมบุตรของโยซียา, กษัตริย์แห่งยะฮูดา, ณ เดือนเก้า, เขาทั้งหลายประกาศให้ถือศีลอดอาหารต่อพระพักตรพระยะโฮวา, สำหรับแต่บรรดาไพร่พลเมืองยะรูซาเลม, แลบรรดาไพร่พลซึ่งออกมาจากบ้านเมืองยะฮูดามาถึงยะรูซาเลม. 10 ขณะนั้นบารุคอ่านในเล่มหนังสือถ้อยคำทั้งหลายของยิระมะยาในวิหารแห่งพระยะโฮวา, ในห้องของคะมาระยาบุตรของซาฟานผู้เป็นเสมียน, ในศาลหลวงที่สูง, ที่ประตูใหม่แห่งพระวิหารพระยะโฮวา, เขาอ่านในโสตบรรดาไพร่พลทั้งปวง 11 เมื่อมิคายาบุตรของคะมาระยา, ซึ่งเป็นบุตรของซาฟาน, ได้ยินแต่หนังสือนั้นแต่บรรดาถ้อยคำแห่งพระยะโฮวาแล้ว, 12 เขาก็ลงเข้าไปในพระราชวัง, ถึงในต้องพวกอาลักษณ์ก็นี่แน่ะ, บรรดาเจ้านายยังกำลังนั่งอยู่ที่นั่น. คืออะลีซามาผู้เป็นอาลักษณ์, แลดะลายาผู้เป็นบุตรของซะมายา, แลเอลนาธารผู้เป็นบุตรของอัมโบร, แลคะมาระยาบุตรซาฟาน, แลซิดคียาบุตรของฮะนันยา, แลบรรดาพวกเจ้านาย. 13 ขณะนั้นมิคายาได้เล่าความบรรดาถ้อยคำที่ตนได้ยินเมื่อบารุคอ่านหนังสือเล่มนั้นในโสตไพร่พลทั้งปวงให้ฟัง. 14 เหตุดังนี้บรรดาเจ้านายใช้ยะฮูดีบุตรนะธันยา, ผู้เป็นบุตรซีเลมยา. ผู้เป็นบุตรคูซี, ให้ไปถึงบารุคบอกว่า, จงเอาในมือของเจ้าหนังสือม้วนที่เจ้าได้อ่านในโสตแห่งไพร่พลทั้งปวงมาเถิด. ฝ่ายบารุคบุตรของเนรียาได้เอาหนังสือม้วนในมือของตัวนั้น, มาถึงเขาทั้งหลายตามเขาสั่ง. 15 แล้วเขาทั้งหลายบอกบารุคว่า, เจ้าจงนั่งลงอ่านหนังสือเล่มนั้นในโสตพวกเราเถิด. 16 ฝ่ายบารุคก็อ่านหนังสือนั้นให้เข้าในโสตคนทั้งปวง ดังนั้นครั้นเมื่อเขาทั้งปวงได้ยินบรรดาถ้อยคำเหล่านั้น, เขาก็ตกใจกลัวทุกคน แล้วก็บอกบารุคว่า, พวกเราจะไปทูลกษัตริย์ด้วยแต่บรรดาถ้อยคำเหล่านี้เป็นแน่. 17 เขาทั้งหลายจึงถามบารุคว่า, เจ้าได้เขียนบรรดาถ้อยคำเหล่านี้แต่ปากของยิระมะยาอย่างไร, บอกเราเถิด. 18 ขณะนั้นบารุคตอบแก่เขาทั้งหลายว่า, ยิระมะยาได้บอกแต่บรรดาถ้อยคำเหล่านี้แก่ข้าพเจ้าโดยปากของเขา, แล้วข้าพเจ้าก็จดหมายเขียนคำเหล่านั้นไว้ด้วยน้ำหมึกในหนังสือเล่มนั้น. 19 ขณะนั้นพวกเจ้านายบอกบารุคว่า, ตัวเจ้ากับยิระมะยาจงไปซ่อนตัวเสีย, อย่าให้ผู้ใดรู้ว่าเจ้าอยู่ที่ไหนเลย. 20 แล้วพวกเจ้านายเหล่านั้นเข้าไปเฝ้ากษัตริย์ในบริเวณวิหาร, แต่เขาได้เอาหนังสือม้วนนั้นไว้ในห้องแห่งอะลีซามาผู้เป็นอาลักษณ์, แล้วเขาก็เล่าแต่บรรดาถ้อยคำเหล่านั้นในโสตแห่งกษัตริย์. 21 กษัตริย์จึงใช้ยะฮูดีให้ไปเอาหนังสือม้วนนั้นมา, แลเขาจึงไปเอาออกมาจากห้องอะลีซามาอาลักษณ์นั้น. แลยะฮูดีได้อ่านหนังสือม้วนนั้นในโสตแห่งกษัตริย์, แลโนโสตแต่บรรดาเจ้านายที่ได้ยินเคียงอันอยู่กับกษัตริย์, 22 ฝ่ายกษัตริย์เสด็จประทับอยู่ในตึกที่สำหรับฤดูหนาว, เป็นเดือนเก้า (คือเดือนอ้ายเดือนยี่) แลมีไฟกำลังร้อนอยู่บนชานเตาไฟตรงหน้าที่นั่ง. 23 แล้วเกิดเหตุขึ้น, เมื่อยะฮูดีอ่านหนังสือนั้นได้สามใบสี่ใบแล้ว, กษัตริย์จึงเอามีดพับตัดใบหนังสือนั้นออก, แล้วก็ทิ้งลงในไฟที่มีอยู่บนชานเตาไฟ, กว่าหนังสือม้วนนั้นได้ไหม้เสียหมดบนชานเตา. 24 ถึงกระนั้นเจ้านายทั้งหลายก็ไม่ได้ตกใจกลัว, หรือไม่ได้ฉีกเสื้อผ้าออกเป็นสำคัญ, ทั้งกษัตริย์แลบรรดาผู้รับใช้สอยของท่าน, ที่ได้ยินแต่บรรดาถ้อยคำเหล่านั้น. 25 แต่ทว่าเอลนาธาน, แลเดลายา, แลฆะมาระยา, ทั้งสามคนนั้นก็ได้อ้อนวอนกษัตริย์เพื่อจะไม่ให้เผาหนังสือม้วนนั้น, แต่ท่านไม่ฟังคำเขา. 26 แต่กษัตริย์มีรับสั่ง, ยะราเมละบุตรแห่งฮะเมเล็ด, แลซะรายาบุตรแห่งอัศรีเบล, แลซาเลมยาบุตรแห่งอับดะเบลทั้งสามคน, ให้ไปจับบารุคผู้เป็นอาลักษณ์แลยิระมะยาผู้ทำนายให้ได้, แต่พระยะโฮวาได้ซ่อนเขาไว้ 27 ขณะนั้นคำโอวาทแห่งพระยะโฮวามาถึงยิระมะยา, เมื่อภายหลังกษัตริย์ได้เผาหนังสือม้วนนั้น, แลถ้อยคำทั้งหลายซึ่งบารุคได้เขียนได้ตามปากยิระมะยาตรัสว่า, 28 เจ้าจงเอากระดาษอีกม้วนหนึ่ง, แลจงเขียนในม้วนนั้นแต่บรรดาถ้อยคำซึ่งมีในหนังสือม้วนก่อน, ซึ่งยะโฮยาคิมกษัตริย์เมืองยะฮูดาให้เผาเสียนั้น. 29 เจ้าจงบอกแต่ยะโฮยาคิมกษัตริย์เมืองยะฮูดาว่า, พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, เจ้าได้เผาหนังสือม้วนนี้, แลได้ถามว่า, เหตุไรยิระมะยาเขียนในม้วนนั้นว่า, กษัตริย์เมืองบาบูโลนจะขึ้นมาทำลายประเทศนี้, แล้วจะได้กระทำให้เป็นที่ร้างปราศจากคนแลสัตว์โดยรัจ ฉานอยู่เป็นแน่นั้นเล่า. 30 เหตุฉะนี้พระยะโฮวาเจ้าของยะโฮยาคิมได้ตรัสดังนี้ว่า, ยะโฮยาคิมจะไม่มีราชบุตรที่จะนั่งบนพระที่นั่งของดาวิด, แลซากศพของท่านจะต้องทิ้งเสีย ณ ภายนอกเวลากลางวันเพื่อจะให้ตากแดด, แลกลางคืนเพื่อจะให้ถูกน้ำค้างหนาว. 31 แลเราจะลงโทษแก่เขาแลเผ่าพันธุ์ของเขาแลพวกบ่าวของเขาเพราะความชั่วของเขาทั้งหลาย, แลเราจะพามาบนเขาทั้งหลาย, แลบนชาวเมืองยะรูซาเลม, แลบรรดาคนชายของเมืองยะฮูดา, แต่บรรดาความอันตรายซึ่งเราได้บอกได้แก่เขาทั้งปวงแล้ว, แต่เขาทั้งปวงไม่ได้สดับฟัง. 32 ขณะนั้นยิระมะยาหยิบเอาสมุดม้วนอีกเล่มหนึ่ง, แลให้แก่บารุคผู้อาลักษณ์, เป็นบุตรแห่งเนรียา, แลในสมุดม้วนนั้นบารุคจึงได้เขียนแต่ปากยิระมะยา, แต่บรรดาถ้อยคำอันในหนังสือใบที่ยะโฮยาคิมกษัตริย์เมืองยะฮูดาได้เผาเสียในไฟนั้น, แลมีถ้อยคำเพิ่มเติมแก่ถ้อยคำที่มีครั้งก่อนอีกมากมาย |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society