เยเรมีย์ 35 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 เป็นคำซึ่งมาถึงยิระมะยาแต่พระยะโฮวา, ในคราวที่ยะโฮยาคิมบุตรของโยซียา, กษัตริย์เมืองยะฮูดา, บอกว่า, 2 จงไปถึงตระกูลพวกเรคาบ, แลกล่าวคำแก่เขาทั้งปวง, แลพาเขาเข้ามาในวิหารแห่งพระยะโฮวา, ในห้องข้างบนห้องหนึ่ง, แลให้เขาทั้งปวงกินน้ำองุ่น. 3 ขณะนั้นข้าพเจ้าจึงเอายาซันยาบุตรของยิระมะยา, ผู้เป็นบุตรฮะบาซันยา, แลเอาพวกพี่น้องของเขา, ทั้งบรรดาลูกชายของเขา. 4 แลตระกูลเรคาบทั้งหมด, แลข้าพเจ้าได้พาเขาทั้งปวงเข้าไปในวิหารแห่งพระยะโฮวา, ในห้องชั้นบนที่ฮานาผู้เป็นบุตรยิกฆัลยาอยู่เป็นคนแห่งพระเจ้า, ที่ได้อยู่ในห้องชั้นบนริมห้องพวกเจ้า, ซึ่งอยู่บนห้องมาเซยาบุตรของซาลุมผู้เป็นนายประตู. 5 แลข้าพเจ้าเอาหม้อหลายหม้อที่เต็มด้วยน้ำองุ่น, แลถ้วยด้วยมาตั้งตรงหน้าพวกบุตรชายแห่งตระกูลเรคาบ. แลข้าพเจ้าบอกเขาทั้งปวงว่า, เชิญพวกเจ้ากินน้ำองุ่นนี้เถิด. 6 แต่เจ้าทั้งหลายได้ตอบว่า, พวกเราจะได้กินน้ำองุ่นหามิได้, เพราะโยนาดาบบุตรชายแห่งเรคาบบิดาของข้าพเจ้า, ได้สั่งแก่ข้าพเจ้าว่า, เจ้าทั้งหลายอย่าได้กินน้ำองุ่นเลย. 7 พวกเจ้าก็ดี, พวกลูกหลานของเจ้าก็ดี, ต่อไปเป็นนิตย์แลอย่าให้พวกเจ้าสร้างเรือนก็ดี, หว่านพืชก็ดี, หรือปลูกสวนต้นองุ่น, หรือเป็นเจ้าของสวนองุ่นเลย, แต่เจ้าทั้งหลายจงอาศัยอยู่ในพลับพลาจนตลอดปีเดือนของพวกเจ้า, เพื่อเจ้าทั้งหลายจะได้มีอายุยืนนานในประเทศที่พวกเจ้าได้อยู่เป็นคนต่างประเทศนั้น. 8 ดังนี้และพวกข้าพเจ้าได้ฟังเสียงของโยนาดาบบุตรชายของเรคาบผู้เป็นบิดาของพวกข้าพเจ้าตามบรรดาคำที่ท่านได้สั่งกำชับพวกข้าพเจ้า, เพื่อจะไม่ให้กินน้ำองุ่นจนตลอดชั่วอายุพวกข้าพเจ้า, คือพวกข้าพเจ้าก็ดี, ภรรยาพวกข้าพเจ้าก็ดี, บุตรชายพวกข้าพเจ้าก็ดี, ลูกหญิงพวกข้าพเจ้าก็ดี, 9 แลไม่ได้ปลูกเรือนสำหรับพวกข้าพเจ้าจะอาศัยอยู่, แลพวกข้าพเจ้าไม่มีสวนองุ่น. 10 ไม่มีไร่นา, แลไม่มีเม็ดพืช, แต่ข้าพเจ้าทั้งหลายอาศัยอยู่ในพลับพลา, แลได้ฟัง, แลได้ประพฤติตามบรรดาคำสั่งสอนที่โยนาดาบบิดา (ใหญ่) ของพวกข้าพเจ้าได้สั่งแก่พวกข้าพเจ้านั้น. 11 แต่มีเหตุเกิดมาเมื่อนะบูคัศเนซัรกษัตริย์บาบูโลนขึ้นมาในประเทศนี้แล้ว, ข้าพเจ้าทั้งหลายพูดกันว่า, มาเถิด, ให้พวกเราไปถึงเมืองยะรูซาเลมด้วยกลัวกองทัพแห่งเคเซ็ด, แลกลัวทัพของชาวซุเรีย, พวกข้าพเจ้าจึงกำลังอาศัยอยู่ที่เมืองยะรูซาเลม 12 ขณะนั้นคำแห่งพระยะโฮวามาถึงยิระมะยาว่า, 13 พระยะโฮวาแห่งพลโยธาทั้งหลาย, ผู้เป็นพระเจ้าของยิศราเอล, ได้ตรัสดังนี้ว่า, จงไปบอกแก่ชายแห่งยะฮูดา, แลชาวเมืองยะรูซาเลมว่า, เจ้าทั้งหลายจะไม่รับคำสั่งสอนเพื่อจะได้ฟังคำโอวาทของเราหรือ, พระยะโฮวาได้ตรัส. 14 คำสั่งสอนของโยนาดาบบุตรของเรคาบ, ที่เขาได้สั่งพวกบุตรไม่ให้ดื่มน้ำองุ่นนั้น, ก็สำเร็จแล้ว, ด้วยว่าจนถึงทุกวันนี้พวกบุตรของเขาก็มิได้กินน้ำองุ่น, แต่ได้ประพฤติตามคำที่บิดาเขาสั่งไว้. ฝ่ายเราได้บอกแก่พวกเจ้า, แลได้ตื่นขึ้นแต่เช้าแลได้อุสส่าห์สั่งสอนอยู่, แต่เจ้าทั้งปวงหาได้ยินฟังคำเราไม่. 15 เราได้ใช้แต่บรรดาคนทำนายเป็นคนรับใช้ของเรา, ให้ไปถึงพวกเจ้าด้วย, อุสส่าห์ตื่นขึ้นแต่เช้าแลใช้เขาให้ไปบอกว่า, เจ้าทั้งหลายจงหันกลับจากทางชั่วของตัวทุกตัวคน, แลดัดแปลงการประพฤติทั้งหลายของตน, แลอย่าไปตามพวกพระอื่นเพื่อจะได้ปรนนิบัติมันเลย, แลเจ้าจึงจะได้อาศัยอยู่ในประเทศ, ซึ่งเราจะได้ยกมอบไว้แก่พวกเจ้าแลพวกบิดาของเจ้า, แต่เจ้าทั้งหลายหาได้เงี่ยโสตของพวกเจ้าลงไม่, แลหาได้ฟังเราไม่. 16 เพราะพวกบุตรของโยนาดาบบุตรของเรคาบได้ประพฤติตามคำสั่งของบิดาเขา, ที่บิดาสั่งสอนเขานั้น, แต่ไพร่พลเหล่านี้หาได้ฟังเราไม่, 17 เหตุฉะนี้พระยะโฮวา, เป็นพระเจ้าแห่งพลโยธาทั้งหลาย, เป็นพระเจ้าของยิศราเอล, ได้ตรัสดังนี้ว่า, นี่แน่ะ, เราจะเอาแต่บรรดาความร้ายที่เราได้ประกาศไว้ต่อสู้เขาทั้งปวงนั้นจะนำมาเหนือเมืองยะฮูดาแลเหนือบรรดาชาวยะรูซาเลม. (จะทำดังนั้น) เพราะเราได้บอกแก่เขาทั้งปวง, แลเขาไม่ได้ยินฟัง, แลเราได้ร้องเรียกเขาทั้งหลาย, แต่เขาไม่ขานตอบ. 18 แลยิระมะยาได้บอกแก่ตระกูลเรคาบว่า, พระยะโฮวาแห่งพลโยธาทั้งหลาย, เป็นพระเจ้าของพวกยิศราเอล, ได้ตรัสดังนี้ว่า, เหตุเพราะเจ้าทั้งหลายได้ประพฤติตามคำสั่งสอนของโยนาดาบบิดาของพวกเจ้า, แลได้รักษาแต่บรรดาคำโอวาทของเขา, แลได้กระทำตามบรรดาคำที่บิดาพวกเจ้าได้สั่งนั้น. 19 เหตุฉะนี้พระยะโฮวาแห่งพลโยธาทั้งหลาย, พระเจ้าแห่งยิศราเอลได้ตรัสดังนั้นว่า, โยนาดาบบุตรของเรคาบ, จะไม่ขัดสนด้วยคนชายที่จะยืนขึ้นต่อหน้าเราเป็นนิตย์นิรันดร์เลย |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society