เยเรมีย์ 33 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 อีกประการหนึ่ง, คำพระยะโฮวาได้มาถึงยิระมะยาครั้งที่สอง, เมื่อยิระมะยายังต้องกักขังอยู่ในบริเวณคุกนั้นว่า, 2 พระยะโฮวาเป็นผู้สร้างของนั้น, พระยะโฮวาเป็นผู้ที่ได้แบ่งปันของนั้นเพื่อประสงค์จะให้ของนั้นตั้งอยู่มั่นคง, พระองค์ทรงนามชื่อพระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า. 3 จงร้องเรียกเรา, แลเราจะขานตอบแก่เจ้า, แลจะสำแดงความใหญ่ยิ่งแลความยากแก่เจ้า, ซึ่งเจ้าหาได้รู้ไม่. 4 ด้วยว่าพระยะโฮวา, พระเจ้าแห่งยิศราเอล, ได้ตรัสจำเพาะถึงเรือนตึกทั้งปวงแห่งกรุงนี้, แลถึงเรือนตึกแห่งกษัตริย์ทั้งหลายแห่งเมืองยะฮูดา, ซึ่งต้องทำลายลงโดยเครื่องรบ, แลด้วยคมกะบี่นั้น, 5 เขาทั้งปวงมาเพื่อจะรบต่อสู้ชาติเคเซ็ด, แต่การรบนั้นจะเป็นซึ่งให้ที่ของเขาทั้งปวงเต็มด้วยซากศพแห่งคน, ซึ่งเราได้ฆ่าเสียในความโกรธของเรา, แลในความพิโรธของเรา, แลเพราะบรรดาความชั่วของเขาทั้งปวงนั้น, เราได้ซ่อนหน้าของเราจากกรุงนี้. 6 นี่แน่ะ, เราจะนำความปกติแลความหายอุปัทวะอันตรายให้แก่กรงนี้, แลจะรักษาเขาทั้งปวงให้หายดี, แลเราจะสำแดงความสุขแลความสัตย์ธรรมอันบริบูรณ์ให้แก่เจ้าทั้งหลาย. 7 แลเราจะกระทำให้ความชะเลยของยะฮูดา, แลความชะเลยของยิศราเอลนั้นให้หันกลับ, แลเราจะกู้เขาทั้งปวงขึ้น, เหมือนอย่างครั้งปฐมเมื่อแรกนั้น. 8 และเราจะชำระเขาทั้งปวงให้ปราศจากการชั่วของเขา, ที่เขาทั้งปวงได้ทำผิดต่อเรา, แลเราจะยกแต่บรรดารบาปโทษของเขาทั้งปวง, ที่เขาทำบาป, แลที่เขาได้ทำผิดต่อเรานั้น. 9 แลกรุงนี้จะเป็นที่ให้เราได้ชื่อเสียงแห่งความดีใจ, แลความสรรเสริญ, แลความรุ่งเรือง, ต่อหน้าแต่บรรดาเมืองทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลก, ซึ่งจะได้ยินความดีทั้งปวงที่เราจะกระทำให้แก่เขาทั้งหลาย, แลเมืองเหล่านั้นจะได้บังเกิดความกลัวแลตัวสั่น, เพราะบรรดาความดีทั้งปวงแลเพราะบรรดาความเจริญที่เราจะให้เกิดแก่กรุงนี้. 10 พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, ในกรุงนี้ซึ่งเจ้าทั้งหลายได้กล่าวว่า, จะต้องร้างไปปราศจากคนแลสัตว์โดยรัจ ฉานอยู่, คือในบ้านเมืองแห่งยะฮูดา, แลในถนนทั้งหลายแห่งเมืองยะรูซาเลม, ที่ร้างเสียแล้วปราศจากคน, 11 แลปราศจากชาวเมือง, แลปราศจากสัตว์โดยรัจ ฉานอยู่นั้น, เขาจะได้ยินเสียงความดีใจ, แลเสียงอภิรมณ์ยินดี. แลเสียงของเจ้าบ่าว, แลเสียงของเจ้าสาว, แลเสียงของคนทั้งหลายที่กล่าวว่า, จงสรรเสริญพระยะโฮวาแห่งพลโยธาทั้งหลาย, เพราะพระยะโฮวาเป็นดี, เพราะความเมตตาของพระองค์ยั่งยืนเป็นนิตย์, แลจะได้ยินเสียงของเจ้าทั้งหลายที่ได้นำเครื่องบูชาสำหรับกล่าวสรรเสริญ, เข้าไปในวิหารแห่งพระยะโฮวา. เพราะว่าเราจะบันดาลให้การชะเลยแห่งประเทศนี้หันกลับให้เป็นเหมือนอย่างแต่เดิม, พระยะโฮวาได้ตรัส. 12 พระยะโฮวาแห่งพลโยธาทั้งหลายได้ตรัสดังนี้ว่า, ในประเทศนี้ที่ร้างเสียแล้ว, ปราศจากคน, แลปราศจากสัตว์โดยรัจ ฉานอยู่, แลบรรดาบ้านเมืองในประเทศนี้, ยังจะเป็นที่อยู่ของพวกเลี้ยงฝูงแกะอีก, เขาจะจัดแจงให้ฝูงแกะนอนลงอยู่. 13 ในบ้านเมืองแห่งภูเขาทั้งหลาย, แลในบ้านเมืองแห่งหุบเขา, แลในบ้านเมืองแห่งฝ่ายใต้. แลในประเทศเบ็นยามิน, แลในตำบลที่ล้อมรอบเมืองยะรูซาเลม, แลในบ้านเมืองแห่งยะฮูดานั้น, ฝูงแกะจะเดินผ่านหน้าไปใต้มือคนผู้ตรวจอีก, พระยะโฮวาได้ตรัส. 14 พระยะโฮวาได้ตรัสว่า, นี่แน่ะ, วันเดือนจะเข้ามา, ที่เราจะทำให้สำเร็จซึ่งความดี, ที่เราได้สัญญาไว้แก่ตระกูลยิศราเอล, แลตระกูลยะฮูดานั้น. 15 ในคราวนั้นเวลานั้น, เราจะกระทำกิ่งของความชอบธรรมให้งอกขึ้นแก่ดาวิด, แลท่านจะสำเร็จความซื่อสัตย์แลความชอบธรรมในประเทศนั้น. 16 ในคราวนั้นยะฮูดาจะได้รอด, แลยะรูซาเลมจะได้อยู่ปราศจากอันตราย, แลชื่อที่ต้องเรียกท่านผู้นั้น, คือพระยะโฮวาเป็นความชอบธรรมของเรา. 17 เพราะพระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, ดาวิดจะไม่ต้องขัดสนด้วยผู้ชายคนหนึ่งคนใดที่จะขึ้นนั่งบนพระที่นั่งแห่งตระกูลยิศราเอลเป็นนิตย์นิรันดร์. 18 แลพวกปุโรหิตตระกูลเลวีจะไม่ต้องขัดสนด้วยชายคนหนึ่งคนใดต่อหน้าเรา, ที่จะเป็นพนักงานถวายเครื่องบูชาเขา, แลที่จะจุดไฟต้มเนื้อสำหรับบูชา, แลที่จะเป็นพนักงานถวายเครื่องบูชาต่างๆ ทุกวัน 19 แลคำแห่งพระยะโฮวามาถึงยิระมะยาว่า. 20 พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, ถ้าเจ้าทั้งหลายอาจจะหักซึ่งความสัญญาของเรา, ที่เราได้สัญญาไว้แก่เวลากลางวันแลกลางคืน, เพื่อจะไม่ให้มีเวลากลางวันแลกลางคืนตามปกตินั้นได้เมื่อไร, 21 ความสัญญาที่เราได้กระทำให้ดาวิดผู้รับใช้ของเราได้หักเมื่อนั้น, แลดาวิดจะไม่มีบุตรชายเสวยราชสมบัติบนพระที่นั่งของเรา, แลคำสัญญาแก่ตระกูลเลวีพวกปุโรหิตผู้ปรนนิบัติเราจะต้องหักเสียด้วย. 22 ดุจดาวบนท้องฟ้าอันจะนับมิได้, แลเม็ดทรายในชายทะเลจะตวงไม่ได้ฉันใด, เราจะให้เผ่าพันธุ์ของดาวิดผู้รับใช้ของเราแลพวกเลวีผู้ปรนนิบัติแก่เรา, ให้ทวีขึ้นมากเช่นนั้น 23 อีกประการหนึ่งคำแห่งพระยะโฮวามาถึงยิระมะยาว่า, 24 เจ้าไม่ได้ตรึกตรองดูความที่ไพร่พลเหล่านี้บอกดอกหรือว่า, ทั้งสองตระกูลที่พระยะโฮวาได้เลือกไว้นั้น, พระองค์ได้ทิ้งเสียแล้ว. เขาพูดดังนี้ก็เป็นที่ดูถูกดูหมิ่นไพร่พลของเรา, เพื่อประสงค์ที่เขาทั้งหลายจะไม่ได้ตั้งเป็นเมืองต่อหน้าเราอีก. 25 พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, ถ้าความสัญญาของเราจะไม่ตั้งยั่งยืนด้วยกลางวันแลกลางคืน, แลถ้าเราไม่ได้ตั้งธรรมดาวิสัยสำหรับท้องฟ้าแลพื้นแผ่นดินโลก, 26 ก็เราจะไม่ทิ้งเผ่าพันธุ์ของยาโคบ, แลไม่ทิ้งเผ่าพันธุ์ของดาวิดผู้รับใช้ของเรา, เพื่อจะไม่เอาคนหนึ่งคนใดในเผ่าพันธุ์ของดาวิดตั้งให้ครอบครองเหนือเผ่าพันธุ์ของอัมราฮามแลยิศฮาคแลยาโคบเลย, เพราะเราจะบันดาลให้ความชะเลยของเขาหันกลับ, แลเราคงจะมีความเมตตาแก่เขาทั้งปวง |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society