เยเรมีย์ 32 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 นี่เป็นคำที่มาถึงยิระมะยาแต่พระยะโฮวาในปีที่สิบแห่งซิดคียากษัตริย์เมืองยะฮูดา, เป็นปีที่สิบแปดแห่งนะบูคัศเนซัร. 2 เพราะขณะนั้นทัพแห่งกษัตริย์เมืองบาบูโลนยกมาล้อมรอบเมืองยะรูซาเลม, แลยิระมะยาผู้ทำนายยังกักขังอยู่ในบริเวณคุกที่มีอยู่ในวังกษัตริย์เจ้าเมืองยะฮูดา. 3 ด้วยว่าซิดคียากษัตริย์ยะฮูดาได้กักขังยิระมะยาไว้แล้ว, ตรัสถามว่า, เหตุผลประการใดท่านได้ทำนายไว้ว่า, พระยะโฮวาได้ตรัสว่า, นี่แน่ะ, เราจะยกกรุงนี้ไว้ในมือแห่งกษัตริย์บาบูโลน, 4 แลเขาจะตีให้จงได้, แลซิดคียากษัตริย์เมืองยะฮูดาจะไม่พ้นจากมือชาวชาติเคเซ็ด, แต่จะต้องมอบไว้ในมือแห่งกษัตริย์เมืองบาบูโลนเป็นแน่, แลจะพูดด้วยกษัตริย์บาบูโลนด้วยปากต่อปาก, แลจะได้เห็นตากษัตริย์บาบูโลนด้วยตาของตัว, 5 แลเขาจะนำซิดคียาไปถึงบาบูโลน, แลซิดคียาจะต้องอยู่ในที่นั่นกว่าเราจะมาเยี่ยมเขา, พระยะโฮวาได้ตรัส. ถึงเจ้าทั้งหลายจะสู้รบต่อสู้ชาติเคเซ็ด, เจ้าทั้งหลายจะไม่จำเริญ 6 แล้วยิระมะยาได้บอกว่าคำของพระยะโฮวาได้มาถึงข้าพเจ้าว่า, 7 นี่แน่ะ, ฮะนันเอลบุตรของซาลุมลุงของเจ้า, จะมาหาเจ้าขอว่า, ท่านจงซื้อที่ของข้าพเจ้าอันมีในเมืองฮะนาโธธนั้น, เพราะตามกฎหมายไถ่ก็ควรที่ท่านจะซื้อที่นั่นไว้. 8 ดังนั้นฮะนันเอลบุตรลุงของข้าพเจ้า, ได้มาหาข้าพเจ้าบริเวณแห่งคุกนั้นตามคำของพระยะโฮวา, แลเขาบอกแก่ข้าพเจ้าว่า, ขอท่านได้ซื้อที่ของข้าพเจ้าอันมีในเมืองฮะนาโธธ, ในแขวงเมืองเบ็นยามิน, เพราะตามกฎหมายไถ่ก็ควรที่ท่านจะได้ที่นั่นเป็นมฤดก, จงซื้อที่นั้นไว้สำหรับตัวท่านเถิด. ขณะนั้นข้าพเจ้าจึงรู้ว่า, คำนี้เป็นคำแห่งพระยะโฮวา. 9 แลข้าพเจ้าได้ซื้อที่นั่นจากฮะนันเอลบุตรชายของลุงข้าพเจ้า, (คือ) ที่ในฮะนาโธธนั้น, แลได้ชั่งเงินค่าที่นั่นให้แก่เขา, เป็นสิบเจ็ดเซ็กเคล. 10 แลข้าพเจ้าได้ลงชื่อไว้ที่หนังสือประทวน, ตีตราประทับไว้แล้ว, แล้วได้จัดคนเป็นพะยานรู้เห็นหลายคน, แลได้ชั่งเงินในตราชูให้เขา. 11 ดังนี้เราได้เอาหนังสือประทวนฉะบับนั้น, ทั้งเล่มที่ได้ปิดตราลงยังเปิดอยู่, 12 แลข้าพเจ้าได้ยกหนังสือประทวนให้แก่บารุคบุตรชายของเนรียา, ผู้เป็นบุตรมาเซยา, ต่อหน้าฮะนันเอลบุตรของลุงข้าพเจ้า, แลต่อหน้าผู้พะยานทั้งหลายคนที่ได้นั่งลงในบริเวณคุกนั้น. 13 แลเราได้สั่งกำชับบารุคต่อหน้าเขาทั้งหลายว่า, 14 พระยะโฮวาแห่งพลโยธาทั้งหลาย, พระเจ้าของยิศราเอลได้ตรัสดังนี้ว่า, จงเอาหนังสือประทวนทั้งสองฉะบับนี้, คือหนังสือประทวนสำหรับที่ซื้อ, ทั้งหนังสือที่ตีตราปิดไว้กับประทวนฉะบับที่เปิดอยู่, แลใส่ทั้งสองฉะบับไว้ในภาชนะดิน, เพื่อจะได้อยู่เป็นหลายวัน. 15 พระยะโฮวาแห่งพลโยธาทั้งหลาย, พระเจ้าพวกยิศราเอล, ได้ตรัสดังนี้ว่า, คงจะมีเจ้าของบ้านเรือน, แลไร่นา, แลสวนเถาองุ่นในประเทศนี้อีก. 16 ฝ่ายเมื่อข้าพเจ้าได้มอบหนังสือประทวนสัญญาแห่งที่ซื้อให้แก่บารุคบุตรเนรียาแล้ว, 17 ข้าพเจ้าได้สวดอ้อนวอนแก่พระยะโฮวา, โอ้โอ๋พระยะโฮวาพระเจ้า, นี่แน่ะ, พระองค์ได้ทรงสร้างฟ้าแลแผ่นดินโลกด้วยฤทธิ์เดชใหญ่ของพระองค์แลด้วยเหยียดพระกรออก, แลไม่มีการใดๆ ที่พระองค์ไม่อาจกระทำได้, 18 พระองค์ได้แสดงความเมตตาอันประกอบด้วยความรักแก่หลายพัน (ชั่ว), แลได้ตอบแทนความชั่วของปู่ย่าตายายทั้งหลายในอกลูกของเขา, ที่บังเกิดภายหลังเขาทั้งหลาย. พระองค์เป็นผู้ใหญ่, เป็นพระเจ้าทรงฤทธิ์อันยิ่ง, พระยะโฮวาแห่งพลโยธาทั้งหลายก็เป็นนามชื่อของพระองค์นั้น. 19 พระองค์เป็นใหญ่ในความปรึกษา, แลมีฤทธิ์เดชอันยิ่งในการธุระ, เพราะพระเนตรพระองค์ได้ลืมเหนือบรรดาทางของบุตรมนุษย์, เพื่อจะให้แก่ทุกคนตามทางที่ประพฤติของเขา, แลตามผลกิจการทั้งปวงของเขา. 20 พระองค์เป็นผู้ที่ได้ตั้งการสำคัญพะยานทั้งหลายแลการอัศจรรย์ต่างๆ ในประเทศอายฆุบโต, (เป็นที่ระลึก) จนถึงวันนี้. ได้กระทำ (สำคัญ) ในชาติยิศราเอลแลในท่ามกลางมนุษย์อื่น, แลได้กระทำให้พระองค์มีพระนาม (ใหญ่), 21 อย่างที่มีอยู่ทุกวันนี้, แลพระองค์ได้พาไพร่พลยิศราเอลของพระองค์ออกจากประเทศอายฆุบโต, ด้วยเป็นสำคัญพะยานทั้งหลาย, แลด้วยการอัศจรรย์ต่างๆ, แลด้วยพระหัตถ์แข็งแรง, 22 แลด้วยพระกรเหยียดออก, แลด้วยความพิลึกพึงกลัวใหญ่, พระองค์ได้ยกประเทศนี้ให้แก่เขาทั้งหลาย, เป็นประเทศที่พระองค์ได้ตั้งความสาบานไว้จะให้แก่ปู่ย่าตายายของเขาทั้งปวง, 23 เป็นประเทศที่มีน้ำนมแลน้ำผึ้งไหลไปมา, แลเขาทั้งหลายได้เข้ามาในประเทศนี้, แลเป็นเจ้าของที่นั่น, แต่เขาทั้งหลายหาได้ฟังเสียงของพระองค์ไม่, แลเขาไม่ได้ดำเนินในกฎหมายของพระองค์, เขาทั้งหลายไม่ได้ประพฤติข้อหนึ่งข้อใดแห่งบรรดาคำที่พระองค์ได้สั่งให้เขาทำนั้น, เหตุฉะนี้พระองค์ได้กระทำบรรดาความร้ายเหล่านี้ให้มาบนเขาทั้งหลาย. 24 จงดูค่ายแห่งทัพของเขา, เขามาถึงกรุงแล้ว, เพื่อจะตีเอาให้ได้, แลกรุงนั้นต้องมอบไว้ในมือแห่งชาติเคเซ็ดผู้ที่ได้มารบต่อสู้แล้ว, เพราะเหตุกะบี่แลความอดอยาก. แลความไข้เป็นโรคตายห่านั้นแลคำที่พระองค์ตรัสไว้ (ก่อนนั้น) ก็สำเร็จแล้ว, 25 แลนี่แน่ะ, พระองค์ได้เห็นการนั้น, แลโอ้พระยะโฮวาเจ้า, พระองค์ได้ตรัสสั่งข้าพเจ้าว่า, เจ้าจงไปซื้อที่อันนั้นด้วยเงิน, แลจัดเอาคนเป็นพะยานให้หลายคน, แลกรุงนั้นได้มอบไว้ในมือชาติเคเซ็ดแล้ว 26 ขณะนั้นคำแห่งพระยะโฮวามาถึงยิระมะยาว่า, 27 นี่แน่ะ, เราคือพระยะโฮวา, เป็นพระเจ้าของบรรดาเนื้อหนังทั้งหมด, การใดๆ ที่เราไม่อาจทำได้นั้นมีบ้างหรือ. 28 เหตุฉะนี้, พระยะโฮวาได้ตรัสอย่างนี้ว่า, นี่แน่ะ, เราจะยกกรุงนี้ไว้ในมือแห่งชาติเคเซ็ด, แลในมือแห่งนะบูคัศเนซัรกษัตริย์บาบูโลน, แลเขาจะตีเอาให้จงได้. 29 แลชาติเคเซ็ดที่ยังกำลังรบต่อกรุงนี้จะมาจุดไฟกรุงนี้. แลจะเผาเสียให้ไหม้ทั้งเรือนตึก, ที่เขาได้บูชาด้วยเครื่องหอมแก่บาละบนหลังคาเรือนตึกนั้น, แลเขาได้เทออกซึ่งเครื่องบูชาแก่พระอื่นทั้งหลาย, เพื่อจะยุเราถึงความพิโรธ. 30 เพราะลูกหลานพวกยิศราเอลแลพวกลูกหลานยะฮูดาได้ประพฤติแต่ความชั่วฝ่ายเดียวต่อหน้าเราตั้งแต่อายุหนุ่มๆ ของเขา. ด้วยว่าลูกหลานแห่งยิศราเอลได้ยั่วเย้ายุเราด้วยกิจการที่เขากระทำด้วยมือของตัวฝ่ายเดียวเพื่อจะให้เราโกรธ, พระยะโฮวาได้ตรัส. 31 เพราะกรุงนี้ได้เป็นแก่เราดุจข้อยั่วเย้าซึ่งความโกรธของเราแลความพิโรธของเราตั้งแต่คราวที่เขาทั้งหลายได้สร้างกรุงนี้ขึ้นจนถึงทุกวันนี้, 32 เพื่อเราจะได้กวาดเมืองนั้นออกไปเสียจากที่ต่อหน้าเรา, เหตุเพราะบรรดาความชั่วแห่งลูกหลานยิศราเอล, แลลูกหลานของยะฮูดา, ที่เขาทั้งปวงได้ประพฤติเพื่อจะยุเย้าเราให้ถึงซึ่งความโกรธ, คือเขาทั้งหลาย, ทั้งกษัตริย์ทั้งปวงของเขา, ทั้งเจ้านายทั้งหลายของเขา, แลพวกปุโรหิตของเขา, แลพวกผู้ทำนายของเขา, ทั้งพวกชายแห่งยะฮูดา, แลพวกชาวเมืองยะรูซาเลม. 33 แลเขาทั้งปวงได้หันหลังกลับให้แก่เรา, หาได้ให้หน้าของเขาไม่, แลถึงเราได้อุสส่าห์ช่วยสั่งสอนเขาทั้งปวง, ได้ลุกขึ้นแต่เช้าๆ สั่งสอนเขา, เขาหาฟังคำสั่งสอนของเราไม่. 34 แต่เขาทั้งหลายเอาสิ่งของที่เกลียดชังของเขามาตั้งอยู่ในวิหารของเรา, ที่ได้ต้องเรียกชื่อของเรา, (เขาทำ) เพื่อจะให้วิหารนั้นลามกไป. 35 แลเขาทั้งปวงได้กู้ที่สูงทั้งหลายแห่งบาละ, ซึ่งมีอยู่ในหุบเขาของบุตรฮิโนม, เพื่อประสงค์จะให้พวกบุตรชายแลลูกหญิงทั้งหลายของเขาลุยไฟบูชาแก่โมเล็ก, เป็นการที่เราไม่ได้สั่งเขาให้ทำ, แลการนั้นไม่ได้เข้าในใจเราเพื่อจะให้เขาทำเกลียดชังนี้, แลให้ตระกูลยะฮูดาทำบาปนั้นเลย 36 แลบัดนี้, พระยะโฮวาพระเจ้าของพวกยิศราเอลจึงได้ตรัสดังนี้ว่า, ด้วยเหตุที่จะบังเกิดแก่กรุงนี้, ซึ่งเจ้าทั้งหลายมักกล่าวว่า, จะต้องมอบไว้ในเงื้อมมือแห่งกษัตริย์บาบูโลนด้วยคมกะบี่, แลด้วยความอดอยาก, แลด้วยความไข้ตายห่านั้น, 37 นี่แน่ะ, เราจะประชุมเขาทั้งหลายออกมาแต่บรรดาประเทศ, ที่เราได้ไล่เขาโดยความโกรธของเรา, แลความพิโรธของเรา, แลด้วยความกริ้วใหญ่นั้น, แลเราจะพาเขากลับมาถึงทีนี่อีก, แลเราจะกระทำให้เขาทั้งปวงอยู่ปราศจากอันตราย. 38 แลเขาทั้งหลายจะเป็นไพร่พลของเรา, 39 แลเราจะเป็นพระเจ้าของเขา, แลเราจะให้เขาทั้งหลายมีน้ำใจเป็นอันเดียวกันแลทางประพฤติอย่างเดียว. เขาทั้งปวงจะได้กลัวเกรงเราเป็นนิตย์, เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ความดีแก่เขา, แลแก่ลูกหลานของเขาอันจะเกิดมาภายหลังเจ้าทั้งหลายนั้น, 40 แลเราจะตั้งความสัญญาอันจะยั่งยืนอยู่เป็นนิตย์ให้แก่เจ้าว่า, เราจะไม่กลับหันจากเขาในการที่จะให้ประโยชน์ดีแก่เขา, แต่เราจะเอาความเกรงของเราใส่ไว้ในจิตต์ใจของเขาทั้งหลาย, เพื่อเขาจะไม่ไปจากเราได้เลย. 41 แท้จริงเราจะดีใจเหนือเขาทั้งปวงเพื่อจะได้กระทำความดีแก่เขา, แลเราจะปลูกเขาทั้งหลายในประเทศนี้ด้วยความเต็มใจเราแลด้วยเต็มวิญญาณของเราโดยมั่นคง. 42 ด้วยว่าพระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า, เราได้นำบรรดาอุปัทวะอันตรายอันใหญ่นี้มาเหนือไพร่พลเหล่านี้ฉันใด, เราจะนำแต่บรรดาความดีซึ่งเราได้สัญญาไว้แก่เขาทั้งหลายมาเหนือเขาทั้งปวงฉันนั้น. 43 แลทุ่งนาทั้งปวงจะต้องมีคนซื้อในประเทศนี้, ที่แห่งชาติเคเซ็ด. 44 คนจะซื้อทุ่งนาเหล่านั้นด้วยเงิน, แลจะลงชื่อได้เป็นสำคัญในหนังสือประทวนทั้งหลาย, แลจะเอาตราตีประทับลง, แลจะเอาพะยานทั้งปวงในประเทศเบ็นยามิน, แลในประเทศอันล้อมรอบยะรูซาเลม, แลในบ้านเมืองแห่งยะฮูดา, แลในบ้านเมืองที่แถวภูเขาทั้งปวง, แลในบ้านเมืองแห่งหุบเขา, แลในบ้านเมืองที่ข้างทิศใต้, เพราะเราจะกระทำให้การชะเลยของเขาทั้งหลายกลับหันมา, พระยะโฮวาได้ตรัส |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society