เยเรมีย์ 14 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 เป็นคำโอวาทของพระยะโฮวา, ซึ่งได้มาแก่ยิระมะยาพรรณาถึงความแล้ง. 2 ยะฮูดากำลังโศกเศร้าอยู่, แลประตูทั้งของเมืองอ่อนกำลังลง, ประตูทั้งปวงก็มีสีดำไปจนถึงพื้นดิน, แลความร้องไห้ของยะรูซาเลมก็ขึ้นไป. 3 แลเจ้านายของเขาได้ให้ลูกเล็กทั้งปวงของเขาไปถึงน้ำ, เขาทั้งปวงมาถึงที่บ่อน้ำก็หาน้ำมิได้. เขาทั้งหลายกลับไปด้วยภาชนะเปล่า, เขาต้องละอายแลตกตะลึง, แลคลุมศีรษะของเขาไว้. 4 เพราะว่าพื้นดินแตกระแหงด้วยหามีฝนในแผ่นดินไม่, คนไถนาทั้งปวงต้องละอาย, เขาก็คลุมศีรษะตัวไว้. 5 แท้จริงวัวก็ออกลูกในทุ่งนาแลทิ้งเสียเพราะไม่มีหญ้ากิน. 6 แลฝูงลาเถื่อนยืนในที่สูงทั้งหลาย, สูดลมเหมือนอย่างจระเข้ทั้งหลาย, หน่วยตาของเขามืดไปเพราะไม่มีหญ้า. 7 โอ้พระเจ้า, ถึงมาตรแม้นความอสัตย์อธรรมทั้งหลายของพวกข้าพเจ้าได้ต่อสู้พวกข้าพเจ้าอยู่, ก็ขอพระองค์ได้โปรด (พวกข้าพเจ้า) เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์, เพราะการถอยหลังของพวกข้าพเจ้ามากอยู่. 8 พวกข้าพเจ้าได้ทำผิดต่อพระองค์. ข้าแต่พระองค์, ผู้เป็นความหวังใจของยิศราเอลในเวลาความทุกข์, เหตุผลประการใดพระองค์เป็นเหมือนอย่างคนแขกเมืองในประเทศ, แลเหมือนอย่างคนเดินทาง, แล้วก็หันเข้าอาศัยนอนแต่คืนเดียวเล่า. 9 เหตุไฉนพระองค์เหมือนอย่างมนุษย์คนใดคนหนึ่งที่ตกตะลึง, เหมือนอย่างคนมีกำลังใหญ่คนหนึ่งคนใดที่ไม่อาจช่วยเล่า. ถึงกระนั้น โอ้พระยะโฮวา, พระองค์ได้อยู่ในท่ามกลางพวกข้าพเจ้า, แลพวกข้าพเจ้าได้ต้องร้องเรียกโดยชื่อของพระองค์, อย่าละทิ้งพวกข้าพเจ้าเลย 10 พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้แก่ไพร่พลพวกนี้ว่า, เขาทั้งปวงชอบใจเดินหลงอย่างนี้, เขาไม่ได้ห้ามเท้าของตัว, เหตุดังนี้พระยะโฮวาไม่ได้รับเขา, พระองค์คงจะระลึกถึงความอสัตย์อธรรมของเขา, แลจะลงโทษเพราะความผิดทั้งปวงของเขา. 11 ขณะนั้นพระยะโฮวาได้ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า, อย่าอ้อนวอนเพื่อจะได้ความดีแก่ไพร่พลเหล่านี้เลย. 12 เมื่อเขาถืออดอาหาร, เราจะไม่ได้ยินความร้องไห้ของเขา, แลเมื่อเขาทั้งปวงจะเอาเครื่องบูชายัญ, แลของบูชาอื่นมาถวาย, เราจะไม่รับเขา. แต่เราจะให้เขาศูนย์ไปด้วยกะบี่, แลด้วยความอดอยาก, แลด้วยโรคปัจจุบัน. 13 ขณะนั้นข้าพเจ้าได้กล่าวว่า, โอ้โอ๋พระยะโฮวาเจ้า, นี่แน่ะ, พวกทำนายได้บอกเขาทั้งปวงว่า, ท่านทั้งหลายจะไม่ได้เห็นกะบี่แลจะไม่ถูกความอดอยาก. 14 แต่เราจะให้พวกท่านมีความสุขในที่ตำบลนี้เป็นแท้. ในขณะนั้น, พระยะโฮวาได้ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า, พวกทำนายนั้นได้ทำนายความเท็จในนามของเรา, เราไม่ได้ใช้เขา, แลเราไม่ได้สั่งเขา, แลไม่ได้บอกแก่เขา. เขาทั้งปวงทำนายความที่ฝันเห็น, แลความทำนายเป็นความทำนายฉ้อ, แลเป็นการอาศัยเปล่า, แลเป็นความล่อลวงเกิดแต่ในใจของเขาเอง. 15 เหตุฉะนี้พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้แก่พวกทำนายที่ได้ทำนายในนามของเรา, แลเราไม่ได้ใช้เขา, แต่เขาทั้งปวงยังบอกว่า, กะบี่แลความอดอยากจะไม่เกิดในแผ่นดินนี้. พวกผู้ทำนายนั้นจะต้องศูนย์ไปด้วยกะบี่แลความอดอยาก. 16 แลพวกไพร่พลที่เขาทำนายให้นั้นจะต้องทอดทิ้งในถนนทั้งปวงแห่งยะรูซาเลมเพราะความอดอยากแลกะบี่, แลเขาทั้งปวงจะไม่มีผู้ใดที่จะฝังศพของตัว, หรือศพของภรรยาของตัวหรือศพของบุตรชายบุตรหญิงของตัว, เพราะเราจะเทความบาปของเขาบนตัวเขาเอง. 17 เหตุฉะนี้เจ้าจงไปบอกคำนี้แก่เจ้าว่า, ให้ตาของข้าพเจ้าไหลลงด้วยน้ำตาทั้งกลางคืนแลกลางวัน, แลอย่าให้หยุดเลย, เพราะลูกหญิงพรหมจารีของไพร่พลข้าพเจ้าหักพังลงเป็นความทุกข์ใหญ่, 18 ด้วยความโบยตีหนัก, ถ้าข้าพเจ้าออกไปในทุ่งนา, ก็นี่แน่ะซากศพที่ประหารด้วยกะบี่, แลถ้าข้าพเจ้าไปเมือง, ก็นี่แน่ะคนทั้งหลายที่เจ็บป่วยด้วยความอดอยาก, ด้วยว่าท่านผู้ทำนายทั้งปุโรหิตก็เที่ยวโซเซไปในแผ่นดินแลเขาไม่รู้อะไร 19 พระองค์ได้ละทิ้งยะฮูดาเด็ดขาดแล้วหรือ, ใจแห่งพระองค์ได้เกลียดเมืองซีโอนหรือ, เหตุผลประการใดพระองค์ได้โบยตีพวกข้าพเจ้า, แลไม่มีที่จะรักษาพวกข้าพเจ้าให้หายเลย. พวกข้าพเจ้าได้คอยดูเพื่อจะได้ความสุข, แลหามีความดีไม่, แลได้คอยหาเวลาที่จะรักษาหาย, แลนี่แน่ะมีแต่ความทุกข์. 20 โอ้พระยะโฮวา, พวกข้าพเจ้าได้รับสารภาพบาปของพวกข้าพเจ้า, แลความอสัตย์อธรรมของปู่ยาตายายของพวกข้าพเจ้า, เพราะพวกข้าพเจ้าได้ทำผิดต่อพระองค์จริง. 21 อย่าได้ทรงเกลียดพวกข้าพเจ้า, เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์, อย่าให้พระที่นั่งแห่งพระองค์เสียเกียรติยศไปเลย. ขอได้ระลึกอย่าหักความไมตรีของพระองค์กับด้วยพวกข้าพเจ้านั้น. 22 จะมีตำราในลัทธิที่พวกต่างประเทศได้ถือนั้นที่จะให้มีฝนได้หรือ, หรือฟ้าทั้งหลายนั้นจะให้มีฝนเป็นห่าๆ (เอง) ได้หรือ. โอ้พระยะโฮวาพระเจ้าของพวกข้าพเจ้า, พระองค์เป็นพระองค์นั้นมิใช่หรือ, เหตุดังนี้พวกข้าพเจ้าจะคอยท่าพระองค์, เพราะพระองค์ได้ทรงกระทำการเหล่านี้ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society