วินิจฉัย 9 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ฝ่ายอะบีเมเล็ค, บุตรยะรูบาละก็ไปหาพี่น้องที่ร่วมมารดาเดียวกัน, และญาติวงศ์ตาของตนที่เมืองเซเค็ม, แล้วพูดแก่เขาทั้งหลายว่า, 2 ขอบอกให้บรรดาชาวเมืองเซเค็มฟังเถิดว่า, จะให้บุตรยะรูบาละทั้งเจ็ดสิบคนครอบครองท่านทั้งหลายดีหรือๆ จะให้ผู้เดียวปกครองดี? อนึ่ง, จงระลึกอยู่ว่า, ตัวเรานี้เป็นชาติเดียวเนื้อเดียวกันกับท่านทั้งหลาย. 3 ส่วนพี่น้องของมารดากล่าวคำเหล่านี้ถึงอะบีเมเล็คให้บรรดาบุรุษชาวเมืองเซเค็มฟัง: และจิตต์ใจเขาทั้งหลายก็นิยมข้างฝ่ายอะบีเมเล็ค; ด้วยเขานึกว่า, เป็นญาติกับเรา. 4 เขาจึงเอาเงินเจ็ดสิบแผ่นไปจากวิหารพระบาละบะรีธ ยกให้แก่อะบีเมเล็ค, อะบีเมเล็คพอได้เงินแล้ว, ก็ไปจ้างคนร้ายให้ตามหลังตนมา. 5 แล้วก็ไปยังอัฟราบ้านของบิดา, ได้ฆ่าพี่น้องคือบุตรยะรูบาละทั้งเจ็ดสิบคนที่ศิลาแผ่นเดียว: เหลือแต่โยธามบุตรสุดท้องของยะรูบาละ; เพราะเขาซ่อนตัวเสียได้. 6 บรรดาชาวเมืองเซเค็ม, และบรรดาพงศ์พันธุ์มิโลก็มาประชุมกัน, เชิญอะบีเมเล็คให้ขึ้นครองเมือง ณ ใต้ต้นสนริมค่ายที่เมืองเซเค็ม 7 พอโยธามรู้ความแล้ว, ก็ไปยืนอยู่บนยอดภูเขาฆะรีซีม, แผดเสียงร้องให้เขาทั้งหลายฟังว่า, ชาวเมืองเซเค็มเอ๋ย, จงฟังเรา, เพื่อพระเจ้าจะทรงฟังเจ้าทั้งปวง. 8 ต้นไม้ต่างๆ ก็ชุมนุมกัน, จะตั้งไม้ต้นหนึ่งเป็นกษัตรย์; ให้ครองรักษา, จึงเชิญต้นมะกอกเทศ (ออลิฟ) ว่า, จงครอบครองข้าพเจ้าเถิด 9 ต้นมะกอกเทศจึงตอบว่า, จะให้เราทิ้งน้ำมันในตัวเราที่เขาใช้แสดงความนับถือต่อพระเจ้าและมนุษย์, แกว่งไปมาเหนือต้นไม้ทั้งปวงหรือ? 10 แล้วต้นไม้ทั้งหลายจึงเชิญต้นมะเดื่อเทศว่า, มาคุ้มครองพวกข้าพเจ้าเถิด. 11 แต่ต้นมะเดื่อเทศก็ตอบว่า, จะให้เราทั้งรสหวาน, และผลวิเศษของเราเสีย, แกว่งไปมาเหนือต้นไม้ทั้งปวงหรือ? 12 ต้นไม้ทั้งหลายก็เชิญเถาองุ่นว่า, มาคุ้มครองข้าพเจ้าเถิด. 13 เถาองุ่นจึงตอบว่า, จะให้เราทิ้งน้ำหวานของเรา, อันเป็นโอชะที่ชื่นพระทัยพระเจ้าและชื่นใจมนุษย์, แกว่งไปมาเหนือต้นไม้ทั้งปวงหรือ? 14 บรรดาต้นไม้ก็เชิญต้นเสี้ยนหนามว่า, มาคุ้มครองข้าพเจ้าเถิด. 15 ต้นเสี้ยนหนามจึงตอบต้นไม้ว่า, ถ้าแม้นตั้งเราเป็นกษัตริย์ของเจ้าทั้งหลายจริงๆ จงมาอาศัยใต้ร่มของเราเถิด: ถ้าไม่อย่างนั้น, ก็ให้ไฟเกิดจากหนามเผาผลาญต้นสนที่ภูเขาละบาโนนเสีย. 16 ซึ่งเจ้าทั้งหลาย, ตั้งอะบีเมเล็คเป็นกษัตริย์, ถ้าเป็นการยุตติธรรมและซื่อตรงต่อยะรูบาละทั้งครอบครัวของท่าน, และสมกับการประพฤติของท่านก็ดีอยู่; 17 ด้วยว่าบิดาของเราได้รับอาสารบพุ่งแทนเจ้าทั้งหลาย, โดยไม่คิดอาลัยชีวิตของท่าน, เพื่อช่วยเจ้าทั้งปวงให้พ้นจากอำนาจพวกมิดยาน: 18 แต่บัดนี้, เจ้าทั้งปวงมาประทุษร้ายต่อเชื้อวงศ์บิดาของเรา, ได้ประหารบุตรชายทั้งเจ็ดสิบคนบนศิลาแผ่นเดียว, ตั้งอะบีเมเล็คลูกทาสีขึ้นเป็นกษัตริย์ชาวเซเค็ม, เพราะว่าเขาเป็นญาติของเจ้าทั้งปวง; 19 ในกาลบัดนี้, ถ้าเจ้าทั้งหลายมีความซื่อสัตย์ต่อยะรูบาละและเชื้อวงศ์ของท่านแล้ว, จงชื่นชมด้วยอะมีเมเล็คเถิด, และให้เขามีความยินดีในเจ้าทั้งหลายด้วย: 20 ถ้าไม่อย่างนั้น, ก็ให้ไฟเกิดจากอะบีเมเล็ค, เผาไหม้ชาวเมืองเซเค็มกับพงศ์พันธุ์มิโลเสีย; ทั้งให้ไฟเกิดจากชาวเซเค็ม, และพงศ์พันธุมิโล, เผาอะบีเมเล็คเสียด้วย. 21 โยธามก็รีบหนีไปยังบะเอธ, อาศัยอยู่ที่นั่น, เพราะกลัวอะบีเมเล็คพี่ชายของตน 22 ครั้นอะบีเมเล็คครอบครองพวกยิศราเอลได้สามปีแล้ว, 23 พระเจ้าจึงทรงใช้ปีศาจอันร้ายให้แซกเข้าในระหว่างอะบีเมเล็คกับชาวเมืองเซเค็มๆ จึงกบฏต่ออะบีเมเล็ค: 24 เพื่อการร้ายที่ทำต่อบุตรยะรูบาละทั้งเจ็ดสิบคน, และโทษแห่งโลหิตเหล่านั้นจะได้กลับตกถูกอะบีเมเล็คพี่ชายผู้ประหารเขา; และตกถูกชาวเซเค็ม; ผู้ช่วยอะบีเมเล็คให้ฆ่าพวกพี่น้องของตน. 25 ฝ่ายชาวเซเค็มใช้คนไปซุ่มซ่อนคอยอะบีเมเล็คอยู่บนยอดภูเขา, เขาก็ปล้นคนทั้งปวงที่ไปมาตามทางนั้น: ฝ่ายอะบีเมเล็คก็รู้เหตุการณ์นั้น 26 ฆาอัลบุตรชายเอเบดกับพี่น้องก็ข้ามไปเข้าเมืองเซเค็ม; ชาวเซเค็มก็ไว้เนื้อเชื่อใจฆาอัล. 27 จึงพากันออกไปในสวนเก็บผลองุ่นมาเหยียบย่ำทำการเลี้ยงสมโภชในโบสถ์พระของเขา, ทั้งด่าแช่งอะบีเมเล็คด้วย. 28 ฆาอัลบุตรชายเอเบดจึงพูดว่า, อะบีเมเล็คและชาวเซเค็มนั้นคือใคร, ทำไมเราจะได้ปฏิบัติเขา? เขาเป็นบุตรยะรูบาละมิใช่หรือ? ซะบูลเป็นผู้รองเขามิใช่หรือ? จงปฏิบัติพวกฮะโมรบิดาเซเค็มเถิด. เราจะปฏิบัติผู้นั้นทำไมเล่า? 29 ใครจะเป็นผู้มอบประชาชนเหล่านี้ไว้ในมือของเรา! เราจะได้ถอดอะบีเมเล็คเสีย. แล้วเขาพูดแก่อะบีเมเล็คว่า, จงรวบรวมพลโยธาให้มากขึ้น, แล้วออกมาสู้กันเถิด 30 พอซะบูลเจ้าเมืองได้ยินถ้อยคำของฆาอัลบุตรเอเบดก็โกรธ. 31 จึงใช้พวกทูตเป็นการลับไปหาอะบีเมเล็ค, ขอแจ้งว่า, ฆาอัลบุตรเอเบดกับพี่น้องได้ยกเข้ามายังเมืองเซเค็ม; ชักชวนชาวเมืองให้ต่อสู้ท่าน. 32 บัดนี้ท่านจงยกกองทัพไปเวลากลางคืน, มาซุ่มซ่อนไว้ที่ทุ่งนา: 33 พออาทิตย์ขึ้นเวลาเช้า, ท่านจงยกตรูเข้าตีเมืองเถิด: ครั้นฆาอัลกับกองทัพออกมาต่อสู้, ท่านจะทำแก่เขาได้ตามที่เห็นชอบ 34 ฝ่ายอะบีเมเล็ค, กับบรรดากองทัพจงยกมาซุ่มซ่อนอยู่ตรงเซเค็มเป็นสี่กอง. 35 ฆาอัลบุตรเอเบดก็ออกไป, ยืนอยู่ที่ประตูเมือง; อะบีเมเล็คกับกองทัพก็ลุกจากที่ซุ่มซ่อน. 36 เมื่อฆาอัลเห็นกองทัพ, ก็เรียนซะบูลว่า, จงดูเหล่าชนพากันลงมาจากยอดเขา. ซะบูลตอบว่า, เจ้าเห็นเงาภูเขาดูเหมือนคน. 37 ฆาอัลเรียนอีกว่า, จงดูเหล่าคนลงจากดินสูง, อีกกองหนึ่งมาทางต้นสนชื่อมะโอนะนีม. 38 ซะบูลตอบว่า, ที่ปากเจ้าว่าอะบีเมเล็คคือใครที่เราจะต้องปฏิบัตินั้นอยู่ไหนเล่า? ชนเหล่านี้เป็นผู้ที่เจ้าดูหมิ่นมิใช่หรือ? จงออกไปสู้รบกับเขาเถิด. 39 ฆาอัลก็นำหน้าชาวเซเค็ม, ออกไปรบสู้กับอะบีเมเล็ค. 40 แล้วก็หนี, อะบีเมเล็คก็ไล่ตามผู้คนถูกแทงล้มตายเป็นอันมาก, จนถึงช่องประตูเมือง 41 อะบีเมเล็คก็พักอยู่ที่อะรูมา: ฝ่ายซะบูลก็ไล่ขับฆาอัลกับพี่น้อง, ไม่ให้อยู่เมืองเซเค็ม. 42 วันพรุ่งนี้, ฝูงคนพาเจ้าไปที่ทุ่งนา; แจ้งความให้อะบีเมเล็ครู้. 43 อะบีเมเล็คก็รวมเขาไว้, แยกออกเป็นสามกอง, ยกมาซุ่มซ่อนไว้ที่ทุ่งนา, ให้คอยดู, เห็นหมู่ชนออกจากเมือง; แล้วให้รุกเข้าตี. 44 อะบีเมเล็ค, กับกองที่อยู่ด้วยท่าน, ยกเข้าไปตรงประตูเมือง: อีกสองกองก็เข้าตีคนทั้งหลายตามทุ่งนา. 45 อะบีเมเล็คได้ตีเมืองวันยังค่ำ; จึงมีชัยชะนะได้เมืองแล้ว, ฆ่าชาวเมืองเสีย, ทั้งทำลายเมืองเสียด้วย, แล้วเอาเกลือโปรยลงไป 46 เมื่อบรรดาชนที่อยู่บนหอรบในเซเค็ม, ได้ยินก็หนีไปอยู่ที่กำบังแน่นหนาในโบสถ์พระบารีธ. 47 มีผู้มาแจ้งแก่อะบีเมเล็คว่า, บรรดาพวกที่อยู่บนหอรบในเซเค็มรวมกันหมดแล้ว. 48 อะบีเมเล็คก็ยกบรรดากองทหารขึ้นเขาซะละโมน; จึงถือขวานตัดกิ่งไม้วางบ่าของตน, แล้วบอกพรรคพวกว่า, เจ้าทั้งหลายเห็นเราทำอย่างไร, ให้เร่งทำตามเถิด. 49 คนทั้งปวงก็ตัดกิ่งไม้คนละอัน, ตามอะบีเมเล็คไปวางไว้ต่อที่กำบังแล้วจุดไฟเผาที่กำบังนั้นได้ล้างผลาญผู้คน; ที่บนหอรบเซเค็มตายทั้งชายหญิงสักพันคน 50 อะบีเมเล็คจึงไปยังเมืองเธเบศ, ตั้งทัพยกเข้าตีก็ได้เมืองเธเบศ. 51 แต่กลางเมืองนี้มีหอรบมั่นคง, พวกชายหญิงชาวเมืองพากันหนีไปอยู่ที่นั่น, ปิดประตูไว้, ขึ้นไปอยู่บนหลังคาหอรบ. 52 อะบีเมเล็คก็มาตีถึงหอนั้น, เข้าไปชิดประตูหวังจะเผาไฟเสีย. 53 หญิงผู้หนึ่งเอาหินโม่แป้งก้อนหนึ่งทิ้งลงถูกศีรษะอะบีเมเล็ค, กระหม่อมแตก. 54 ท่านก็รีบเรียกชายหนุ่มที่ถืออาวุธของท่านมา, สั่งว่า, จงถอดกระบี่, ฆ่าเราเสียเถิด, เขาจะไม่ได้ขึ้นชื่อลือว่าผู้หญิงฆ่าเราตาย. ชายหนุ่มก็แทงเธอให้สิ้นพระชนม์. 55 พอพวกยิศราเอลเห็นว่าอะบีเมเล็คสิ้นชีพแล้ว, ต่างคนต่างก็กลับไปบ้าน. 56 การชั่วร้ายซึ่งอะบีเมเล็คได้กระทำแก่บิดา, คือได้ฆ่าพี่น้องเจ็ดสิบคนเสียนั้น, พระเจ้าทรงตอบแทนให้กลับถูกตนเอง: 57 ทั้งความชั่วร้ายของชาวเมืองเซเค็มนั้นด้วย พระเจ้าทรงบันดาลให้ตกถูกศีรษะของเขาเอง: และข้อแช่งของโยธามบุตรยะรูบาละนั้นก็สำเร็จถูกเขาทั้งหมด |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society