วินิจฉัย 5 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ขณะนั้นดะโบรากับบาราคบุตรอะมีโนอัมก็ร้องเพลงว่า, 2 จงสรรเสริญพระยะโฮวา, ด้วยพลไพร่มีใจสมัคร. ด้วยผู้หัวหน้านำหน้าพวกยิศราเอล, 3 ข้าแต่กษัตริย์; ขอสดับหูฟังทุกองค์, ท่านเจ้านายขอเงี่ยหูฟังเถิด; ข้าพเจ้าๆ เอง, จะร้องเพลงถวายพระยะโฮวา; ข้าพเจ้าจะร้องยกย่องยะโฮวาพระเจ้าของยิศราเอล. 4 ข้าแต่พระยะโฮวา, เมื่อพระองค์เสด็จออกจากเซอีร, เมื่อพระองค์ทรงแห่ไปจากแผ่นดินอะโดม, แผ่นดินก็หวาดหวั่นไหว, ทั้งฟ้าก็ตก. ฝนก็ลงมาแต่เมฆดำด้วย. 5 ภูเขาก็ไหวสะท้านไปฉะเพาะพระพักตรพระยะโฮวา, ทั้งภูเขาซีนัยด้วย, ฉะเพาะยะโฮวาพระเจ้าของยิศราเอล. 6 ในคราวซัมฆารบุตรอะนาธ, คราวยาเอล, ทางหลวงก็ร้างเปล่าอยู่, ผู้สัญจรไปมาก็หลีกตามตรอกอ้อมลัดไป, 7 ผู้ปกครองพวกยิศราเอลก็ขาดอยู่. เขาก็ขาดอยู่, จนถึงเวลาข้าพเจ้าดะโบราเจริญขึ้น, ข้าพเจ้าเจริญขึ้น, เป็นมารดาแห่งพวกยิศราเอล. 8 เขาก็เลือกสรรนับถือพระใหม่; ขณะนั้นเกิดการศึกประชิดเข้ามาถึงประตูเมือง: โล่ห์เขนหอกสักอันหนึ่งเห็นมีอยู่ ในกองทัพยิศราเอลทั้งสี่หมื่นคนหรือ? 9 ข้าพเจ้ามีใจชอบนิยมต่อผู้ปกครองยิศราเอล, พลไพร่ทั้งหลายที่มีใจสมัคร, จงพากันสรรเสริญพระยะโฮวา, 10 ท่านผู้ขี่ลาเผือก, ท่านผู้นั่งพิพากษา, ทั้งเดินไปตามทาง, จงประกาศด้วยบทเพลงเถิด, 11 ในที่ตักน้ำห่างไกลจากเสียงยิงธนู, ที่นั่นเขาจะกล่าวถึงความชอบธรรมแห่งพระยะโฮวา, เพราะทรงปกครองยิศราเอลโดยยุตติธรรม, คราวนั้นไพร่พลของพระยะโฮวาก็ลงไปยังประตูเมืองของข้าศึก, 12 ดะโบราเอ๋ย, จงตื่นขึ้นๆ เถิด, ตื่นขึ้นร้องเพลงถวาย, บาราคเอ๋ย, จงลุกขึ้นเถิด: บุตรอะบีโนอัมเอ๋ย, จงคุมพวกชะเลยไปเถิด. 13 ครั้งนั้นผู้ที่เหลืออยู่ยกไปสู้ผู้มีกำลัง, ไพร่พลของพระยะโฮวา; รับอาสาฝ่ายข้าพเจ้ายกมาต่อสู้ผู้ฉกรรจ์. 14 ชนชาติอะมาเล็คมาจากเขตต์เอ็ฟรายิม; ตามเบ็นยามินมาพร้อมกันกับพงศ์พันธุ์ของท่าน; พวกผู้ปกครองก็ยกมาแต่มาฆีร, พวกอาลักษณ์ก็มาแต่ซะบูโลน. 15 เจ้านายยิซาคารตามดะโบรามา; (ตระกูล) ยิซาคารดับบาราคก็ปรองดองกัน; เขาจึงวิ่งตรูตามท่านไปยังที่ลาดหว่างภูเขา. ริมลำธารรูเบ็นก็มีความเจตนาตั้งใจอย่างยิ่ง. 16 เป็นไฉนท่านจึงนั่งอยู่กลางคอกแกะ, คอยฟังเสียง (ผู้เลี้ยง) แกะเป่าปี่? ริมลำธารรูเบ็นกำลังตั้งใจตรึกตรองการใหญ่. 17 ชาวฆีละอาดอาศัยอยู่ฝั่งยาระเดนฟากข้างโน้น: ส่วนดานอาศัยอยู่ในกำปั่นทำไมเล่า? อาเซอร์ตั้งอยู่ที่ชายทะเล, อาศัยอยู่ตามอ่าวของตน. 18 ฝ่ายตระกูลซะบูโลนสู้เสียชีวิตของตน, ทั้งนัพธาลีที่ตำบลสูงของสนามรบ. 19 กษัตริย์หลายองค์ยกมารบพุ่ง, ขณะนั้นกษัตริย์คะนาอันก็ต่อสู้, ณ ธานาคริมแม่น้ำมะฆีโด; โดยมิได้เอาเงินกันเลย. 20 ดวงดาวก็รบพุ่งแต่สวรรค์; ได้ต่อสู้ซีซะราจากที่อันสูง. 21 แม่น้ำคีโซนก็กวาดพัดเขาไป, คีโซนนั้นเป็นแม่น้ำโบราณ. ใจของข้าพเจ้าให้ย่ำเท้าไปอย่างแข็งแรง. 22 ขณะนั้นกีบม้าก็แตกหัก, โดยวิ่งควบ, เป็นการหนีของผู้มีกำลัง. 23 ฝ่ายทูตพระยะโฮวากล่าวว่า จงแช่งสาปเมโรศเถิด, จงแช่งสาปชาวเมืองนั้นอย่างยิ่ง: เพราะเขาไม่สมัครเข้าทำการของพระยะโฮวา, ไม่ได้เข้าส่วนในการพระยะโฮวาต่อสู้ข้าศึกอันฉกรรจ์. 24 จงสรรเสริญยาเอลให้มากกว่าหญิงทั้งหลาย, คือภรรยาของเฮเบอร์ชาวเมืองเคนี, จงสรรเสริญให้ยิ่งกว่าหญิงทั้งปวงที่อาศัยกะโจมอยู่. 25 เมื่อขอแต่น้ำ, นางส่งน้ำนมให้; นางถวายทั้งน้ำนมข้นใส่ภาชนะพิเศษ. 26 นางเอื้อมมือหยิบหลักกะโจม, มือขวาหยิบค้อนใหญ่; นางต่อยซีซะรา, ด้วยค้อนศีรษะทะลุ ขมับทะลุ. 27 เขาก็หมอบล้มลงนอนริมเท้านาง, ที่เท้านาง เขาก็หมอบล้มลง: เขาถึงแก่พินาศ: ณ ที่ซึ่งเขาหมอบนั้นเอง. 28 นางก็มองดูร้องตามช่องแกล, คือมารดาของซีซะราร้องตามตาตราง, ว่า, เป็นไฉนรถเขาจึงมาช้า? ทำไมลูกล้อจึงหมุนช้าไปเล่า? 29 สตรีผู้มีปรีชาตอบนายหญิง, ส่วนนางนึกตอบตนเองเหมือนกันว่า, 30 เขาพบแล้ว, แบ่งของที่ริบมาให้กันมิใช่หรือ? ยกให้ทหารคนละสตรีสองสตรี; ส่วนของซีซะราได้เสื้อผ้าย้อมสีต่างๆ เสื้อผ้าสีต่างๆ ทั้งเย็บปักร้อย, เสื้อสีต่าง, ที่เย็บปักร้อยทั้งสองข้าง, มาประดับคอด้วยของที่ริบมานั้น. 31 ข้าแต่พระยะโฮวา: ขอให้ศัตรูของพระองค์พินาศเสื่อมสูนย์ไปเช่นนั้นทั้งสิ้น, แต่โปรดให้ผู้ที่รักพระองค์เป็นดุจดวงอาทิตย์อันส่องอย่างกล้าแล้ว, แผ่นดินก็สงบเงียบอยู่สี่สิบปี |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society