วินิจฉัย 21 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 พวกยิศราเอลได้ทำสัตย์ไว้ที่มิศพาแล้ว, ว่า, เราจะไม่ยกบุตรสาวของเราให้เป็นภรรยาพวกเบ็นยามินสักคนเดียว. 2 ชนทั้งหลายก็ไปยังเบธเอล, และเฝ้าอยู่ฉะเพาะพระพักตรพระเจ้าจนเย็นด้วยเสียงร้องครวญครางอันดัง; 3 ทูลถามว่า, ข้าแต่พระยะโฮวาพระเจ้าของพวกยิศราเอล, เหตุไฉนการนี้จึงบังเกิดขึ้นในพวกยิศราเอลตระกูลหนึ่งจะต้องขาดจากพวกยิศราเอลในกาลวันนี้? 4 ครั้นรุ่งขึ้น, คนทั้งหลายก็ตื่นขึ้นก่อแท่นที่นั่นแต่เช้าแล้ว, นำเครื่องบูชายัญกับเครื่องบูชาเพื่อความสุขสำราญมาถวาย. 5 พวกยิศราเอลก็ถามกันทั่วบรรดาตระกูลยิศราเอลว่า, มีใครบ้างที่ไม่ได้ขึ้นมาในการประชุมเฝ้าพระยะโฮวา? ด้วยเขาทั้งหลายได้ทำสัตย์สาบานไว้อย่างแข็งแรงว่า, ผู้ใดไม่ขึ้นไปเฝ้าพระยะโฮวาที่มิศพาจะต้องตายเป็นแน่. 6 ยิศราเอลมีความเสียใจเพราะพวกเบ็นยามินพี่น้องตนว่า, วันนี้ตระกูลหนึ่งต้องตัดขาดจากพวกยิศราเอล. 7 เราจะทำอย่างไรจึงจะให้พวกที่เหลืออยู่นั้นมีภรรยาได้, ด้วยพวกเราทำสัตย์ไว้ต่อพระยะโฮวาว่าจะไม่ยกบุตรสาวของตนให้เป็นภรรยาเขา? 8 เขาจึงพูดกันว่า, ในพวกยิศราเอลมีวงศ์ไหนที่มิได้ขึ้นไปเฝ้าพระยะโฮวาทีมิศพา? จึงเห็นว่าชาวเมืองยาเบศฆีละอาดไม่ขึ้นมาประชุมที่กองทัพสักคนเดียว. 9 ด้วยเวลาเมื่อตรวจดูพลทหาร, ก็เห็นว่า, หามีชาวเมืองยาเบศฆีละอาดมาที่นั่นสักคนเดียวไม่. 10 พวกชุมนุมจึงเลือกทหารฉกรรจ์อย่างยิ่งหมื่นสองพันคน, สั่งให้ไปที่นั่นว่า, จงชักดาบฟันฆ่าชาวยาเบศฆีละอาดเสียทั้งหญิงและเด็ก. 11 จงทำอย่างนี้แก่ชายทุกคนและหญิงที่ร่วมรู้กับชายแล้วนั้นให้ผลาญเสียทั้งหมด. 12 เขาทั้งหลายจึงตรวจหาหญิงสาวชาวเมืองยาเบศฆีละอาดที่ยังไม่ร่วมรู้กับชายสี่ร้อยคน. จึงพามายังกองทัพที่เมืองซีโลในแผ่นดินคะนาอัน 13 ชนทั้งปวงจึงใช้ทูตให้ไปประกาศแก่พวกเบ็นยามินที่อยู่ ณ ศิลาริมโมนว่าให้เป็นไมตรีกันเถิด. 14 คราวนั้นพวกเบ็นยามินก็กลับมา; คนทั้งหลายจึงยกหญิงชาวยาเบศฆีละอาดซึ่งรอดจากตาย: ให้เป็นภรรยาพวกเหล่านั้นแต่ยังไม่พอ. 15 เขาทั้งหลายพากันอาลัยถึงพวกเบ็นยามิน, ด้วยพระยะโฮวาทรงทำให้พวกยิศราเอลขาดตระกูลไปหนึ่งตระกูล, 16 ผู้เฒ่าแก่ในกองประชุมหารือกันว่า, เราจะทำอย่างไรจึงจะให้พวกที่เหลืออยู่ได้ภรรยา, ด้วยหญิงตระกูลเบ็นยามินทั้งหลายต้องผลาญเสียแล้ว? 17 เขาทั้งหลายจึงพูดกันว่า, จำต้องมีส่วนที่สำหรับชนเบ็นยามินที่เหลืออยู่, อย่าให้ตระกูลหนึ่งหายขาดจากพวกยิศราเอลไป. 18 ส่วนเราจะยกบุตรสาวของเราให้เป็นภรรยาเขาไม่ได้: ด้วยพวกยิศราเอลได้ทำสัตย์ไว้ว่า, ถ้าผู้ใดยอมเป็นภรรยาตระกูลเบ็นยามินผู้นั้นต้องแช่งสาป. 19 เขาจึงหารือกันว่า, ดูเถิดมีการเลี้ยงไหว้พระยะโฮวา ณ ซีโลทิศเหนือเบธเอล; ข้างทิศตะวันออกของทางหลวงขึ้นไปจากเบธเอลถึงเซเค็ม, และข้างทิศใต้ละโบนาทุกๆ ปี. 20 เขาจึงสั่งพวกเบ็นยามินว่า, จงไปซุ่มซ่อนอยู่ที่สวนองุ่น; 21 ให้คอยดูอยู่, ถ้าเห็นบุตรสาวชาวเมืองซีโลออกมาจะเล่นเต้นโลด, ท่านทั้งหลายจงออกจากสวนองุ่น, จับบุตรสาวชาวเมืองซีโลเป็นภรรยาคนละคน, แล้วก็ไปเข้าเขตต์เบ็นยามินเสีย. 22 เมื่อบิดาหรือพี่น้องของเขาจะมาว่ากล่าวแก่เราๆ จะตอบเขาว่า, ขอโปรดยินยอมเพราะเห็นแก่เราด้วย: ในเวลาการศึกเราทั้งหลายมิได้ละเว้นภรรยาของทุกๆ คน: ทั้งท่านก็ไม่ยอมยกให้เขาอีกแต่ลำพัง, ถ้าเช่นนั้นจะเป็นโทษ. 23 พวกเบ็นยามินก็ทำตาม, จึงจับพวกที่มาเล่นโลดเต้นไปเป็นภรรยาทั่วทุกคน, แล้วกลับไปยังส่วนที่ของตนสร้างเมืองต่างๆ ขึ้นอาศัยอยู่ที่นั่น. 24 ครั้งนั้นพวกยิศราเอลกลับจากที่นั่นไปอยู่ตามตระกูลและพงศ์พันธุ์ของตนทุกคน 25 ขณะนั้นพวกยิศราเอลไม่มีกษัตริย์: ต่างคนต่างก็ทำตามลำพังใจตนเอง |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society