วินิจฉัย 2 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ฝ่ายทูตพระยะโฮวาขึ้นไปจากฆีละฆาลถึงตำบลโบคีม, จึงตรัสว่า, เรานำเจ้าทั้งหลายออกมาจากแผ่นดินอายฆุบโต, ให้เข้ามายังแผ่นดินซึ่งเราได้ปฏิญาณไว้แก่ปู่ย่าตายายของเจ้า; เราได้สัญญาไว้แล้วว่า, คำสัญญาไมตรีของเรากับเจ้าเราจะไม่หักเสียสืบๆ ไปชั่วนิรันดร์. 2 ส่วนเจ้าทั้งปวงอย่าทำสัญญาไมตรีกับชาวแผ่นดินนี้; แท่นบูชาของเขาเหล่านั้นจงทำลายเสีย: แต่เจ้ามิไดฟังเสียงของเรา: เจ้าทำอย่างนี้ทำไมเล่า? 3 อนึ่งเราได้กล่าวไว้ว่า, เราจะไม่ขับไล่เขาเหล่านั้นออกไปต่อหน้าเจ้า; แต่เขาจะเป็น (ดุจเสี้ยนหนาม) อยู่รอบข้างของเจ้า, พระของเขาจะเป็นดังบ่วงแร้วดักเจ้า. 4 อยู่มา, เมื่อทูตพระยะโฮวาตรัสคำเหล่านี้แก่บรรดาพวกยิศราเอลแล้ว, ชนทั้งหลายก็แผดเสียงและร้องไห้. 5 เขาจึงได้เรียกชื่อตำบลนี้ว่า, โบคีม (ร้องไห้): เขาได้นำเครื่องบูชายัญมาถวายพระยะโฮวาที่นั่น 6 เมื่อยะโฮซูอะปล่อยให้พวกนั้นไปเสียแล้ว, พวกยิศราเอลทุกๆ คนจึงไปอาศัยอยู่ในที่ดินของตน. 7 หมู่ชนทั้งหลายได้ปฏิบัติพระยะโฮวาตลอดชั่วอายุของยะโฮซูอะ, และทั้งชั่วอายุผู้เฒ่าผู้แก่ที่ได้เห็นการอัศจรรย์ใหญ่ต่างๆ ของพระยะโฮวา, ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำแก่พวกยิศราเอลนั้น. 8 ยะโฮซูอะบุตรนูน, ผู้ปฏิบัติพระยะโฮวา, อายุได้ร้อยสิบปีก็สิ้นชีพ. 9 เขาทั้งหลายฝังศพท่านไว้ที่เขตต์ส่วนที่ของท่านที่ธิมนาธเฮเร็ศ, เขตต์ภูเขาเอ็ฟรายิม, อยู่ทิศเหนือภูเขาฆาอัศ. 10 ครั้นชนคราวอายุนั้นตายไปตามปู่ย่าตายายสิ้นแล้ว: ภายหลังมีชนรุ่นใหม่เกิดขึ้น, ไม่รู้จักพระยะโฮวา; หรือการอัศจรรย์ซึ่งพระองค์ทรงกระทำแก่พวกยิศราเอล 11 พวกยิศราเอลกระทำผิดในคลองพระเนตรพระยะโฮวา, คือปฏิบัติพระบะอาลิม: 12 เขาทั้งหลายได้ละทิ้งยะโฮวาพระเจ้าของปู่ย่าตายาย, ผู้ทรงนำเขาทั้งปวงออกจากแผ่นดินอายฆุบโต, เขาทั้งปวงไปนับถือพระอื่นๆ, คือพระของชาวประเทศที่มีอยู่โดยรอบนั้น, กราบไหว้แก่พระเหล่านั้น, กระทำให้พระยะโฮวาทรงพระพิโรธ. 13 เขาทั้งหลายได้ละทิ้งพระยะโฮวาเสีย, ไปปฏิบัติบาละและอัศธะโรธ, 14 พระพิโรธแห่งพระยะโฮวาก็กำเริบขึ้นต่อพวกยิศราเอล, พระองค์จึงทรงมอบเขาไว้ในมือพวกปล้น, ให้ปล้นเขากับมอบเขาไว้ในมือพวกข้าศึกอันอยู่ล้อมรอบด้วย, เขาอดทนอยู่ต่อไปกับพวกข้าศึกไม่ได้. 15 ในบรรดากิจการของเขา, พระยะโฮวาได้ลงพระหัตถ์ให้เขาอัปราชัย, ตามที่พระยะโฮวาทรงตรัสและได้ทรงปฏิญาณไว้แก่เขาทั้งหลายแล้ว: ความทุกข์ร้อนก็บังเกิดแก่เขาเหล่านั้นยิ่งขึ้น. 16 พระยะโฮวาทรงตั้งผู้วินิจฉัย, ให้ช่วยเขาเหล่านั้นให้พ้นจากอำนาจผู้ที่ข่มเหงปล้นเขา. 17 เขายังไม่ฟังผู้วินิจฉัยของเขา, เขาได้ล่วงประเวณีลัทธิพระอื่นๆ, และหมอบยอบตัวลงไหว้พระเหล่านั้น: เขาเร่งหลีกจากทางที่ปู่ย่าตายายของเขาได้ปฏิบัติเชื่อฟังคำโอวาทของพระยะโฮวา; เขาหาประพฤติดังนั้นไม่. 18 พระยะโฮวาทรงตั้งผู้วินิจฉัยขึ้นให้เขาเหล่านั้นเมื่อไร, พระยะโฮวาสถิตอยู่ด้วยผู้วินิจฉัยนั้น, ทรงช่วยเขาเหล่านั้นให้พ้นมือศัตรู: จนสิ้นชีพผู้วินิจฉัยนั้น, พระยะโฮวาทรงหวนพระทัยโดยเสียงครางของเขา, เพราะเหตุพวกข่มเหงเบียดเบียฬ. 19 อยู่มา, เมื่อผู้วินิจฉัยสิ้นชีพแล้ว, เขาพากันกลับประพฤติชั่วยิ่งกว่าปู่ย่าตายายของเขา, คือไปถือพระอื่นๆ กราบไหว้ปฏิบัติ; เขามิได้งดเว้นการชั่ว, และกิริยาดื้อดึงของเขาเลย. 20 พระยะโฮวาทรงพิโรธแก่พวกยิศราเอล; ตรัสว่า, “เพราะประชาชนเหล่านี้ล่วงละเมิดต่อคำสัญญาไมตรีของเรา, ซึ่งเราได้ปฏิญาณไว้แก่ปู่ย่าตายายของเขา, เขาไม่เชื่อฟังคำโอวาทของเรา: 21 ชนชาติใดที่ยังเหลืออยู่เมื่อสิ้นชีพของยะโฮซูอะแล้ว เราจะไม่ขับไล่ต่อหน้าเขาทั้งหลายอีกเลย: 22 เพื่อจะให้เขาเหล่านั้นลองใจพวกยิศราเอลว่า, พวกนี้จะรักษาทางประพฤติของพระยะโฮวา, ดุจปู่ย่าตายายของเขารักษาไว้นั้น, หรือไม่.” 23 เพราะเหตุฉะนั้นพระยะโฮวาจึงให้ชนเหล่านั้นเหลืออยู่, ไม่ขับเขาเสียโดยเร็ว: ทั้งไม่ทรงมอบเขาไว้ในมือยะโฮซูอะ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society