วินิจฉัย 1 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 อยู่มาเมื่อยะโฮซูอะสิ้นชีพแล้ว, บุตรยิศราเอลทูลถามพระยะโฮวาว่า, ใครจะนำหน้าข้าพเจ้าทั้งหลายยกไปสู้รบต่อชาวคะนาอันเล่า? 2 พระยะโฮวาทรงตรัสว่า, “จะให้ยูดาขึ้นไป: เราได้มอบแผ่นดินไว้ในมือเขาแล้ว.” 3 ยูดาจึงพูดแก่ซีโมนน้องของตนว่า, จงมาร่วมกันในงานของเรา, เราจะได้รบพุ่งต่อชาวคะนาอัน; และเราจะร่วมกันในเวนของเจ้าด้วย. ซีโมนก็ไปกับเขา. 4 ครั้นยูดาขึ้นไป; พระยะโฮวาทรงมอบชนชาติคะนาอันกับชาติฟะรีซีในมือของเขา; เขาก็ฆ่าฟันเสียที่เมืองเบเซ็คหมื่นคน. 5 เขาได้รบพุ่งต่อเจ้าเมืองเบเซ็ค ณ เมืองเบเซ็คนั้น: ได้ฆ่าฟันชาติคะนาอันกับชาติฟะรีซีเสียมากมาย. 6 เจ้าเมืองเบเซ็คก็หนีไป; เขาก็รีบตามไปจับตัวมา, ตัดหัวแม่มือและหัวแม่เท้าเสีย. 7 เจ้าเมืองเบเซ็คจึงว่า, เจ้าเมืองซึ่งหัวแม่มือแล้วแม่เท้าด้วนเจ็ดสิบองค์, เคยเก็บอาหารอยู่ใต้โต๊ะของเราเช่นกับที่เราเป็นอยู่นี้: พระเจ้าได้แก้แค้นแก่เราอย่างนั้น, เขาทั้งหลายก็คุมท่านไปยังยะรูซาเลมสำเร็จโทษเสียที่นั้น 8 ตระกูลยูดาได้ตีเมืองยะรูซาเลม, ได้ชัยชะนะแล้ว, ฆ่าฟันผู้คนเสีย, ด้วยคมดาบและเผาเมืองเสีย. 9 ภายหลังตระกูลยูดาได้ลงไปรบพุ่งต่อชาติคะนาอัน, ชาวเมืองที่อยู่ตามเขา, และเขตต์ทิศใต้และที่ดินลุ่ม. 10 พวกยูดาได้ไปต่อสู้ชาติคะนาอันที่อยู่ในเมืองเฮบโรน; แต่แรกเฮบโรนชื่อเมืองอาระบา: เขาได้ฆ่าฟันเซซัย, อะฮีมัน, และธาละมายเสีย 11 เขายกไปจากที่นั่นเพื่อต่อสู้ชาวดะเบียร์: เดิมชื่อเมืองเซฟัร: 12 คาเลบจึงว่า, ผู้ใดตีเมือเซฟัรได้ชัยชะนะแล้ว, เราจะยกอัคซาบุตรสาวของเราให้เป็นภรรยา. 13 ครั้นต่อมาอัธนีเอลบุตรคะนัศ, น้องชายคาเลบ, ก็ตีเมืองนั้นได้! คาเลบจึงยกบุตรสาวของตนให้เป็นภรรยา. 14 เมื่อแต่งงานกันแล้ว, นางจึงชวนสามีไปขอที่นาต่อบิดา: เมื่อเขาลงจากลาแล้ว, คาเลบก็ถามว่า, มาธุระอะไร? 15 นางตอบแก่บิดาว่า, ขออวยพรให้แก่ฉันด้วย; พ่อให้ที่ดินดอนแก่ฉันแล้ว; ขอแถมบ่อน้ำให้ด้วย. คาเลบก็ให้บ่อน้ำทั้งเหนือและใต้แก่บุตรสาว 16 เผ่าพันธุ์เคนี, พี่เขยของโมเซ, ออกจากเมืองตาลขึ้นไปหาพวกยูดา, ถึงป่าดอนเขตต์ยูดา, ทิศใต้เมืองอาราด; ได้อาศัยอยู่กับพลไพร่. 17 ยูดากับซีโมนน้องชาย, ก็พากันไปฆ่าฟันชาติคะนาอันที่อยู่ในเมืองซะฟาธ, ทำลายเมืองนั้นเสียสิ้น. ตั้งชื่อใหม่ว่า, ฮาระมา. 18 พวกยูดามีชัยชะนะได้เมืองฆาซาทั้งอาณาเขตต์, เมืองอัศคะโลนทั้งอาณาเขตต์, และเมืองเอ็ศโรนทั้งอาณาเขตต์ด้วย. 19 พระยะโฮวาทรงสถิตอยู่ด้วยพวกยูดา; จึงตีได้เขตต์ตามภูเขา; แต่ฝ่ายพวกที่อาศัยอยู่ตามหุบเขา, พวกยูดาไม่สามารกจะขับไล่ได้, ด้วยเขามีรถรบเหล็ก. 20 ชนทั้งหลายก็ยกเมืองเฮบโรนให้คาเลบ, ตามคำโมเซกล่าวไว้แล้ว: ท่านก็ขับไล่บุตรอะนาคสามคนออกจากที่นั่น. 21 ตระกูลเบ็นยามินมิได้ขับไล่พวกยะบูศชาวเมืองยะรูซาเลม; พวกยะบูศอาศัยอยู่ด้วยกันกับพวกเบ็นยามินในเมืองยะรูซาเลมจนทุกวันนี้ 22 อนึ่งตระกูลโยเซฟ, ยกทัพไปต่อสู้เมืองเบ็ธเอล: พระยะโฮวาทรงสถิตอยู่ด้วยเขา. 23 ตระกูลโยเซฟก็ใช้คนไปสอดแนมเมืองเบ็ธเอล. ชื่อเมืองนั้นแต่ก่อนว่าลูศ, 24 เมื่อพวกสอดแนมเห็นชายผู้หนึ่งมาจากเมือง, ก็บอกเขาว่า, จงชี้ให้เรารู้ทางเข้าเมือง, แล้วเราจะได้ปราณีแก่เจ้า. 25 ชายผู้นั้นก็ชี้ให้เขารู้ทางเข้าเมือง, เขาจึงชักดาบฆ่าฟันชาวเมืองนั้นเสีย; แต่ส่วนชายนั้นกับวงศ์ญาติของเขาก็งดเว้นไว้. 26 ชายนั้นก็ไปยังเขตต์พวกเฮธ, สร้างเมืองขึ้นตั้งชื่อว่าลูศ, มีชื่อดังนั้นมาจนทุกวันนี้ 27 ตระกูลมะนาเซมิได้ขับไล่ชาวเบธซานกับหมู่บ้านขึ้นแก่เมืองนั้น, หรือชาวเมืองธานาคกับหมู่บ้านขึ้นกับเมือง, หรือชาวโดระดับหมู่บ้านขึ้นกับเมือง, หรือชาวยิบลามกับหมู่บ้านขึ้นกับเมือง, หรือชาวมะฆีโดกับหมู่บ้านขึ้นกับเมือง: แต่ชาติคะนาอันขืนอาศัยอยู่ณะแผ่นดินนั้น. 28 ครั้นอยู่มา, พวกยิศราเอลมีกำลังแข็งแรงขึ้น, จึงเกณฑ์ให้พวกคะนาอันทำการหนัก, แต่หาได้ไล่ให้ไปเสียทีเดียวไม่ 29 ตระกูลเอ็ฟรายิมมิได้ขับไล่ชาติคะนาอันชาวเมืองฆาเซอร์; แต่พวกคะนาอันได้อาศัยอยู่ในท่ามกลางเขาในเมืองฆาเซอร์นั้น 30 ตระกูลซะบูโลนมิได้ขับไล่ชาวฆิดโรน, หรือชาวนาฮะโลล; ชนชาติคะนาอันได้อาศัยอยู่ในท่ามกลางเขา, แต่ต้องถูกเกณฑ์ทำการหนัก 31 ตระกูลอาเซอร์มิได้ขับไล่ชาวอาโค, หรือชาวซีโดน, หรืออัคลาม, หรืออัตซีบ, หรือเฮ็ลยา, หรืออะฟีต, หรือระโฮบ: 32 ฝ่ายพวกอาเซอร์ได้อาศัยอยู่ในท่ามกลางชนชาติคะนาอัน, ชาวแผ่นดินนั้น: ด้วยเขาหาได้ขับไล่พวกนั้นไปเสียไม่ 33 ตระกูลนัพธาลีมิได้ขับไล่ชาวเบธเซเม็ศ, หรือชาวเบธะนาธ; แต่เขาได้อาศัยอยู่ท่ามกลางชนชาติคะนาอัน, ชาวแผ่นดินนั้น: แต่ชาวเบธเซเม็ศกับชาวเบธะนาธต้องถูกเกณฑ์ทำการหนัก 34 พวกอะโมรีขับไล่ตระกูลดานไปยังเขตต์ที่มีภูเขา: ไม่ยอมให้เขาลงมาที่ดินราบเลย: 35 พวกอะโมรีขืนอาศัยอยู่ที่เขาเฮเร็ศที่เมืองอายาโลน, และเมืองซาละบิม: แต่ตระกูลโยเซฟได้ชัยชะนะ, เกณฑ์เขาให้ทำการหนัก. 36 เขตต์อะโมรีมตั้งแต่ทางขึ้นไปยังอัคราบีม, แต่ศิลานั้นต่อขึ้นไปอีก |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society