ยาโกโบ 1 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ยาโกโบทาสของพระเจ้าและของพระเยซูคริสต์เจ้า คำนับมายังชาติยูดายสิบสองตระกูลที่กระจดกระจายอยู่นั้น 2 ดูก่อนพี่น้องของข้าพเจ้า. เมื่อท่านทั้งหลายตกอยู่ในการทดลองต่างๆ ก็จงมีความยินดีเถิด. 3 ท่านทั้งหลายรู้แล้วว่า การทดลองดูความเชื่อของท่านนั้นกระทำให้เกิดความเพียร. 4 และจงให้ความเพียรนั้นกระทำการจนสำเร็จ, เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นผู้สำเร็จครบถ้วน ไม่ขาดสิ่งใดเลย ถ้าขาดสติปัญญา, ก็ขอแต่พระเจ้า 5 แต่ว่าถ้าผู้ใดในพวกท่านขาดสติปัญญา. ก็ให้คนนั้นขอแต่พระเจ้า. ผู้ทรงโปรดประทานให้แก่คนทั้งปวงด้วยเต็มพระทัยและมิได้ทรงติว่า, แล้วก็จะได้ทรงประทานให้แก่ผู้นั้น. 6 แต่จงให้ผู้นั้นขอด้วยใจเชื่อ. อย่าให้มีใจสงสัยเลย เพราะว่าผู้ที่สงสัยนั้นเป็นเหมือนคลื่นแห่งทะเลซึ่งถูกลมพัดซัดไปซัดมา. 7 อย่าให้คนนั้นคิดว่าจะได้รับสิ่งใดจากพระเจ้าเลย 8 เขาเป็นคนสองใจไม่ยั่งยืนในบรรดาทางทั้งหลายที่ตนประพฤตินั้น 9 แต่ให้พี่น้องที่ยากจนต่ำต้อยจงชื่นชมยินดีในสภาพอันสูงของตน 10 และคนมั่งมีก็จงชื่นชมยินดีในเมื่อตนต้องตกต่ำลง เพราะว่าเขาจะต้องล่วงไปดุจดอกหญ้า. 11 ด้วยว่าครั้นตะวันขึ้นแล้ว, มีลมร้อนกล้ากระทำหญ้านั้นให้เหี่ยวแห้งไป และดอกหญ้าจึงร่วงโรย, และรูปพรรณสีสัณฐานอันงามของดอกหญ้านั้นก็เสียศูนย์ไป คนมั่งมีจะเสียศูนย์ไปตามทางทั้งหลายของเขาเช่นนั้น ความสุขย่อมมีแก่คนสู้ทนการทดลอง 12 ความสุขย่อมมีแก่คนนั้นที่สู้ทนการทดลอง เพราะเมื่อปรากฏว่าผู้นั้นทนได้แล้ว, เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิต, ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสัญญาไว้แล้วว่า จะทรงประทานให้แก่คนทั้งหลายที่รักพระองค์. 13 ถ้าผู้ใดถูกล่อลวงแล้ว, อย่าให้ผู้นั้นว่า, “พระเจ้าได้ทรงล่อลวงข้าพเจ้า” เพราะว่าความชั่วจะมาล่อลวงพระเจ้าไม่ได้, และพระองค์เองไม่ได้ทรงล่อลวงผู้ใดเลย 14 แต่ว่าทุกคนก็ถูกล่อลวงเมื่อตัณหาของตัวชักนำตนให้กระทำผิด, แล้วตัวก็กระทำตาม. 15 ครั้นตัณหาได้ปฏิสนธิแล้วจึงบังเกิดความผิด และความผิดนั้นเมื่อโตเต็มขนาดแล้วจึงเกิดความตาย 16 พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า, อย่าหลงเลย. 17 ของประทานอันดีทุกอย่างและของประทานอันเลิศทุกอย่างย่อมมาแต่เบื้องบน, และลงมาจากพระบิดาผู้ทรงบันดาลให้มีดวงสว่าง ในพระบิดานั้นไม่มีการแปรปรวนไป, หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงเช่นเงาที่ทอดออกไปด้วยอาการหมุนเวียน. 18 เมื่อพระองค์ทรงตั้งพระทัยแล้ว, พระองค์ก็ได้ทรงบันดาลให้เราทั้งหลายบังเกิดโดยคำตรัสอันสัตย์จริง, เพื่อเราทั้งหลายจะได้เป็นอย่างผลแรกแห่งสรรพสิ่งซึ่งพระองค์ทรงสร้างนั้น 19 ดูก่อนพี่น้องที่รักของข้าพเจ้า, ท่านรู้ข้อนี้แล้ว. แต่จงให้ทุกคนว่องไวในการฟัง, ช้าในการพูด, ช้าในการโกรธ 20 เพราะว่าความโกรธของมนุษย์ไม่ได้กระทำให้เกิดเป็นความชอบธรรมแห่งพระเจ้า. 21 เหตุฉะนั้จงถอดทิ้งการใสโครกทุกอย่าง และการชั่วร้ายอันเปี่ยมล้น, และจงน้อมใจรับคำของพระเจ้าที่ปลูกไว้แล้วนั้น, ซึ่งอาจช่วยจิตต์วิญญาณของท่านทั้งหลายให้รอดได้ จงรักษาตัวให้พ้นจากราคีแห่งโลก 22 แต่ท่านทั้งหลายจงเป็นคนประพฤติตามคำนั้น, ไม่ใช่เป็นแต่ผู้ฟังเท่านั้น, และล่อลวงตนเอง. 23 เพราะว่าถ้าผู้ใดฟังคำเท่านั้น, แต่ไม่ได้ประพฤติตาม, ผู้นั้นเป็นเหมือนคนที่ดูหน้าของตัวในกะจก 24 ด้วยว่าคนนั้นแลดูตัวเองแล้วไปเสีย ประเดี๋ยวก็ลืมว่าตัวเป็นอย่างไร. 25 ฝ่ายผู้ใดที่พิจารณาดูในพระบัญญัติแห่งเสรีภาพอันบริสุทธิ์, และจะตั้งอยู่ในพระบัญญัตินั้น, ผู้นั้นไม่ได้เป็นผู้ฟังแล้วหลงลืม, แต่เป็นคนประพฤติตาม คนนั้นจะได้ความสุขในการของตน 26 ถ้าคนใดในพวกท่านถือว่าตัวเป็นคนธรรม. และไม่ได้เหนี่ยวรั้งลิ้นของตนไว้, แต่ได้ล่อลวงใจของตัว, ธรรมของคนนั้นก็ไม่มีประโยชน์. 27 ธรรมอย่างบริสุทธิ์และอย่างที่ปราศจากมลทินฉะเพาะพระพักตรพระเจ้าพระบิดาของเรานั้น มีดังนี้คือ การเยี่ยมลูกกำพร้าและหญิงม่ายที่มีความทุกข์ร้อน, และการรักษาตัวของตนให้พ้นจากราคีแห่งโลก |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society