อิสยาห์ 51 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 “เจ้าทั้งหลายที่ขวนขวายหาความรอด, เจ้าทั้งหลายที่เสาะหาพระยะโฮวา, จงฟังข้าพเจ้าเถอะ! จงมองดูแท่งหินแท่งที่ได้สะกดให้เกิดเป็นตัวเจ้าออกมา, และจงดูบ่อหินบ่อที่ได้ถูกขุดเอาตัวเจ้าขึ้นมา! 2 จงดูอับราฮามบิดาของเจ้า, และนางซาราที่คลอดเจ้า! ด้วยเราได้เรียกอับราฮามมาแต่ผู้เดียว, เราได้อวยพรให้เขามีเผ่าพันธุ์ทวีมากขึ้น. 3 ดังนั้นพระยะโฮวาจึงจะเข้าโลมกรุงซีโอน, พระองค์จะปลอบโยนบรรดาที่ชำรุดทรุดโทรม; พระองค์จะกระทำให้ป่าดงกลายเป็นสวนเอเด็น, ป่าทรายกลายเป็นอุทธยานของพระยะโฮวา; จะพากันมีความชื่นชมยินดี, ขอบคุณและร้องเพลงบรรเลงในกรุงนั้น 4 “โอ้ประชาชนทั้งหลาย, จงฟังเรา! โอ้ประชาชาติทั้งปวง, จงเงี่ยหูสดับฟังเรา! เพราะจะมีคำสั่งสอนออกไปจากเรา, และความจริงของเราจะเป็นดังแสงสว่างแก่ประชาชน. 5 อีกประเดี๋ยวเดียวความรอดของเราก็จะเข้ามาใกล้, ความรอดของเรามาอยู่ตามทางแล้ว, แขนของเราจะครอบครองประชาชน, หมู่เกาะทั้งหลายจะคอยท่าเรา, และเขาทั้งหลายจะไว้วางใจในอ้อมแขนของเรา. 6 จงเงี่ยหน้าแหงนตาดูท้องฟ้า, และก้มลงมองดูแผ่นดินเบื้องต่ำ; ด้วยว่าท้องฟ้าจะศูนย์หายไปเหมือนดังควัน, และแผ่นดินโลกจะขาดวิ่นไปเหมือนดังเสื้อผ้า, ส่วนชาวโลกก็จะตายไปเหมือนกัน; แต่ความรอดของเราจะดำรงอยู่เป็นนิจ, และความมีชัยชำนะของเราจะไม่รู้สิ้นสุดเลย 7 “เจ้าทั้งหลายที่รู้จักว่าอะไรเป็นความชอบธรรม, เจ้าทั้งหลายที่เก็บคำสอนของเราไว้ในใจของเจ้า, จงฟังเรา! อย่ากลัวคำถากถางของมนุษย์, หรืออย่าท้อใจในคำข้อนขอดของเขา; 8 ด้วยว่าตัวขมวนจะกัดกินเขาเหมือนอย่างกัดกินเสื้อผ้า, และหนอนจะกัดกินเขาเหมือนกัดกินผ้าสักหลาด, แต่ความมีชัยชำนะของเราจะยั่งยืนถาวร, และความรอดของเราจะอยู่ทุกชั่วอายุคน 9 “โอ้หัตถ์ของพระยะโฮวา, จงตื่นขึ้นเถอะ, จงสวมใส่กำลังวังชา! จงตื่นขึ้นให้เหมือนดังสมัยโบราณ, ให้เหมือนดังสมัยของคนที่ล่วงมาแล้ว! ไม่ใช่หัตถ์ของพระองค์ที่ทำลายราฮาบลงย่อยยับ, และแทงนาคราชจนทะลุรึ? 10 ไม่ใช่หัตถ์ของพระองค์รึที่ทำให้น้ำทะเลแห้ง, คือน้ำในทะเลลึก, และเอาท้องทะเลทำเป็นทางให้คนที่ทรงไถไว้นั้นเดินข้ามไป? 11 ดังนั้นคนที่พระยะโฮวาทรงเสียค่าไถ่ไว้แล้วจะกลับมาเดินทางนั้น, และจะเดินร้องเพลงมายังกรุงซีโอน, และเขาจะมีความยินดีอันถาวรอยู่ในใจของเขา, และเขาจะมีความชื่นบานสำราญใจ, แต่ความโศกเศร้าและการสะท้อนถอนใจจะอันตรธานไป 12 “เรา, เราเองนะ, เป็นผู้เล้าโลมของเจ้า; ทำไมเจ้าจะไปกลัวมนุษย์ที่ตายคือมฤตชนซึ่งตายเหมือนกับหญ้า? 13 ทำไมเจ้าไปลืมพระยะโฮวาพระผู้สร้างของเจ้า, ซึ่งกางท้องฟ้าออก, และวางรากโลกพิภพไว้เสีย, จนเจ้าจะหวาดกลัวความเกรี้ยวโกรธของผู้ข่มเหงอยู่ร่ำไป, เมื่อเขาเจาะจงจะทำลายเจ้าเสีย? ความเกรี้ยวกราดของผู้ข่มขี่นั้นอยู่ที่ไหน? 14 ในไม่ช้าชะเลยศึกที่เคยหมอบราบนั้นจะได้หลุดเป็นไทย; เขาจะไม่ต้องลงไปตายในหลุมผี, หรือเขาจะไม่ขาดข้าวปลาอาหารเลย. 15 ด้วยว่าเรายะโฮวา, เป็นพระเจ้าของเจ้า, ซึ่งกวนทะเลเพื่อให้มันมีคลื่นคนอง, พระนามของพระองค์คือพระยะโฮวาจอมพลโยธา. 16 เราได้เอาถ้อยคำทั้งปวงของเราใส่ลงในปากของเจ้า, และเอาเจ้าบังไว้ภายใต้ร่มมือของเรา, ในขณะเมื่อเราได้กางท้องฟ้าออก, และได้วางรากฐานแห่งพิภพโลกไว้, และได้กล่าวแก่กรุงซีโอนว่า, ‘เจ้าเป็นพลเมืองของเรา.’ ” 17 ตื่นขึ้นเถอะๆ, โอกรุงยะรูซาเลม, กรุงที่ได้ดื่มจอกแห่งความเกรี้ยวโกรธจากหัตถ์ของพระยะโฮวา, และได้ดื่มน้ำเมาจนเกลี้ยงถ้วย, จงลุกขึ้นเถอะ! 18 ในบรรดาบุตรชายที่นางได้คลอดมาไม่มีใครสักคนเดียวที่จะนำนาไป, และในบรรดาบุตรชายทั้งหมดที่นางเลี้ยงดูมาไม่มีสักคนเดียวจะจูงนางเดิน. 19 เหตุการณ์สองสิ่งนี้เกิดขึ้นแก่เจ้าแล้ว, ใครเล่าจะเล้าโลมเจ้า? ความพินาศและหายนะ, คือทุพภิกขภัยและอาวุธภัย, ใครจะปลอบโยนเจ้า? 20 ลูกชายทั้งหลายของเจ้าได้นอนหิวโหยอยู่ตามหัวถนนทั้งปวง, เหมือนอย่างอีเก้งติดบ่วง, ด้วยต้องประสพความเกรี้ยวกราดของพระยะโฮวาเต็มขนาด, และถูกพระเจ้าของเจ้าทรงตำหนิ. 21 เพราะฉะนั้นเจ้าผู้ทนทุกข์ยากและเมาไป, แต่หาได้เมาด้วยเหล้าองุ่นไม่นั้น, จงฟังข้อความเหล่านี้เถอ! 22 พระยะโฮวาเจ้า, คือพระเจ้าของเจ้าที่บ้องกันพลเมืองของพระองค์, ตรัสดังต่อไปนี้: “นี่แน่ะ, เราได้เอาจอกแห่งความมึนเมาไปจากมือของเจ้าแล้ว, และเจ้าจะไม่ต้องดื่มจอกแห่งความพิโรธของเราต่อไปอีกเลย. 23 เราจะเอาจอกนั้นไปใส่ลงในมือของผู้ที่ทรมานเจ้า, คือผู้ที่ได้กล่าวแก่เจ้าว่า, ‘จงหมอบตัวลงให้เราเดินข้ามไป!’ และเจ้าก็ได้เอาตัวของเจ้านอนราบกับพื้นดิน, เหมือนดังถนนให้คนเดินข้ามไป.” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society