อิสยาห์ 5 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ขอให้ข้าพเจ้าร้องเพลงให้ผู้ที่ข้าพเจ้ารักยิ่งฟัง. กล่าวถึงสวนองุ่นอันเป็นที่โปรดปรานของท่าน. ผู้ที่เคารพรักใคร่ของข้าพเจ้ามีสวนองุ่นไว้บนเขาอันอุดมยิ่ง: 2 และท่านได้พรวนดิน, และเก็บก้อนหินออกเสีย, และได้คัดเถาองุ่นอย่างดีที่สุดมาปลูกไว้ในนั้น, และได้สร้างห้างสวนไว้ท่ามกลาง, และได้สร้างเครื่องบีบน้ำองุ่นไว้ด้วย, และท่านหวังว่าจะได้ผลองุ่นสวน, แต่-มันกลับออกผลกลายเป็นองุ่นป่า 3 โอพลเมืองแห่งกรุงยะรูซาเลม, และชนชาติยะฮูดา, เราขอให้พวกเจ้าวินิจฉัย, ความระหว่างเราและสวนองุ่นของเรา. 4 เราควรจะได้กระทำอะไรอีกแก่สวนองุ่นของเราที่เราละเลยมิได้กระทำ? เป็นไฉนเมื่อเรามุ่งหมายจะให้สวนออกผลเป็นองุ่นสวน, มันจึงออกผลกลายเป็นองุ่นป่า? 5 และนี่แน่ะ, เราจะบอกให้เจ้ารู้ว่า, เราจะทำประการใดกับสวนองุ่นของเรา: เราจะรื้อรั้วออกเสีย, และจะปล่อยให้เจ้าถูกทำลายเสียไป; เราจะหักพังกำแพงสวนออกเสีย, และสวนนั้นจะถูกเหยียบย่ำทำลายลง: 6 และเราจะปล่อยให้มันเสียไปตามเรื่อง; จะไม่มีใครลิดแขนงหรือพรวนดิน; แต่จะมีต้นหนามเล็กและหนามใหญ่งอกขึ้นมาแทน; และเราจะสั่งไม่ให้เมฆเป็นฝนตกรดสวนนั้นอีกต่อไป. 7 เพราะสวนองุ่นของพระยะโฮวาแห่งพลโยธาได้กับวงศ์วานของยิศราเอล, และวงศ์วานของยะฮูดาได้กับต้นองุ่นที่ดีของพระองค์: และทรงมุ่งหมายจะได้เห็นความยุตติธรรม, แต่ดูเถอะ, กลับได้เห็นการเบียดเบียนข่มเหง; ทรงมุ่งหมายจะได้เป็นความชอบธรรมชื่นใจ, แต่ดูเถอะ, กลับได้เห็นการคร่ำครวญ 8 วิบัติแก่เจ้าทั้งหลายที่ปลูกบ้านติดต่อกันไปและจองนาติดๆ กันไปเป็นพืด, จนไม่มีที่ว่าง, เพื่อเจ้าจะได้อยู่ในย่านกลางพื้นดินฉะเพาะลำพัง, 9 ข้าพเจ้าได้ยินพระยะโฮวาแห่งพลโยธาตรัสสาปแช่งกับหูของข้าพเจ้าเองว่า, “เป็นความจริงบ้านเรือนมากมายจะร้างเปล่า, ถึงแม้ว่าจะเป็นบ้านใหญ่และงดงามสักปานใดก็จะไม่มีคนอยู่. 10 เพราะว่าสวนองุ่นยี่สิบห้าไร่จะบีบน้ำองุ่นได้ยี่สิบห้าลิตร, และหว่านพืชสิบถังจะได้เกี่ยวเก็บเพียงถังเดียว!” 11 วิบัติแก่คนที่ลุกขึ้นแต่เช้ามืด, เพื่อจะไปดื่มเหล้าอีกต่อไป, แล้วก็นั่งเฉื่อยแฉะอยู่จนดึกดื่น, จนเขาเมาหยำเปไป! 12 และมีพิณ, ขลุย, ฉาบ, ปี่, และเหล้าองุ่นประกอบไปในการเลี้ยงของเขา; แต่เขาทั้งหลายไม่เอาใจใส่ต่อกิจการของพระยะโฮวา, หรือมิได้พิจารณาถึงการกระทำแห่งพระหัตถ์ของพระองค์ 13 เพราะฉะนั้นพลเมืองของเราก็ถูกกวาดไปเป็นชะเลย, เพราะขาดสติปัญญา; และพวกขุนนางก็พากันอิดโรยโหยหิว, และประชาชนก็ปากแห้งหิวกระหาย. 14 เพราะฉะนั้นเมืองผีก็เกิดความหิวกระหายมากขึ้น, และอ้าปากออกกว้างเหลือประมาณ; พวกคนชั้นสูงและพวกคนชั้นต่ำ, คนเย่อหยิ่งจองหองและผู้ที่นิยมชมชื่นไปกับเขาก็ดิ่งลงไปในเมืองผี. 15 ดังนั้นมนุษย์ชาติจึงได้ลดฐานะของตัวเองลง, และคนแท้ๆ ก็ยังเหยียดตัวของตัวเองลง, และสายตาของคนเย่อหยิ่งจะต้องถูกหลบลง: 16 แต่พระยะโฮวาแห่งพลโยธาจะต้องถูกเทอดเพราะความยุตติธรรมของพระองค์, และพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ทรงสำแดงพระอุปนิสัยของพระองค์ให้ปรากฏโดยความชอบธรรม. 17 แล้วลูกแกะจะเที่ยวหากินเหมือนกับหากินในทุ่งหญ้าที่เขียวสดของมัน, และลูกแพะที่อ้วนพีจะเที่ยวหากินตามที่สลักหักพัง 18 วิบัติแก่ผู้ซึ่งใช้ความเท็จเทียมเป็นเชือกลากอาชญาตามหลังเข้าไป, และใช้ความผิดบาปเป็นเชือกล่ามเกวียนลากโทษทัณฑ์ตามหลังเขาไป! 19 เป็นผู้ที่กล่าวว่า, “ให้พระองค์ทรงด่วนกระทำเร็วเข้าเถอะ, เราจะได้เห็นกับตา; และให้พระประสงค์ขององค์ผู้บริสุทธิ์แห่งชาติยิศราเอลใกล้เข้ามาจนถึงเถอะ, เพื่อเราจะได้รู้แจ้งเห็นจริง.” 20 วิบัติแก่คนที่เห็นชั่วเป็นดี, และเห็นดีเป็นชั่ว; และถือเอาว่ามืดเป็นสว่าง, และสว่างเป็นมืด; และถือว่าขมเป็นหวาน, และหวานเป็นขม! 21 วิบัติแก่ผู้เหล่านั้นที่เห็นว่าตัวฉลาดในสายตาของตัวเอง, และเป็นการเฉียบแหลมในความเห็นของเขาเอง! 22 วิบัติแก่คนที่เก่งกล้าในการดื่มเหล้า, และพวกผู้ที่อวดเก่งในการผสมเหล้าอย่างแรง; 23 และแก่พวกที่รับสินบนปล่อยคนชั่ว, และรับสิทธิไปเสียจากคนชอบธรรม. 24 ดังนั้นเปลวไฟไหม้ตอข้าวและหญ้าแห้งให้วอดวายไปฉันใด,รากของพวกเหล่านั้นก็จะเน่าผุไปและดอกของเขาก็จะป่นเป็นละอองวอดวายไปฉันนั้น; เพราะเขาได้ละทิ้งคำสั่งสอนของพระยะโฮวาแห่งพลโยธา, และได้หมิ่นประมาทถ้อยคำขององค์บริสุทธิ์แห่งชาติยศราเอล. 25 ดังนั้นพระพิโรธของพระยะโฮวาก็พลุ่งโพลงขึ้นต่อพลเมืองของพระองค์, และพระองค์ได้ทรงยื่นพระหัตถ์ของพระองค์ออกต่อสู้เขา, และประหารเขาเสีย; และภูเขาทั้งหลายก็สั่นสะท้าน, และซากศพของเขาก็เปรียบเหมือนหยากเยื่อท่ามกลางถนน, แต่ถึงกระนั้นก็ดีความพิโรธของพระองค์หาได้หันเหไปเสียไม่, แต่พระหัตถ์ของพระองค์ยังทรงยืนต่อสู้เขาอยู่ 26 พระองค์จะทรงยกธงให้อาณัติสัญญาแก่ประเทศชาติที่อยู่ไกล, และจะทรงผิวปากเรียกเขามาจากปลายแดนโลก, และนี่แน่ะ, เขาจะรีบเร่งมาโดยเร็ว. 27 และจะไม่มีใครในพวกเขาอ่อนเปลี้ย, หรือซวดเซ; เขาจะไม่ง่วงเหงาหาวนอนหรือหลับไป; และผ้าคาดพุงของเขาจะไม่หลุดลุ่ยและสายรัดรองเท้าของเขาจะไม่ขาดออก: 28 ลูกธนูของเขาก็แหลม, และคันธนูของเขาก็โก่งไว้พร้อม; และกีบม้าของเขาก็แข็งเหมือนกับหินเหล็กไฟ. 29 และล้อรถของเขาก็ผันเร็วดุจลมหอบ, เสียงโห่ร้องของเขาจะเป็นเหมือนเสียงแม่สิงห์คำราม, เขาจะโห่ร้องออกมาเหมือนเสียงสิงห์โตหนุ่ม; เออเขาจะคำรนร้องและตะครุบเหยื่อ, และเอาไปได้ตามสบายและจะไม่มีใครมาช่วยให้พ้นได้เลย. 30 และในกาลนั้นศัตรูจะโห่ร้องประจัญบานกับเขาดุจเสียงครื้นเครงแห่งทะเล: และถ้าใครจะมองไปที่แผ่นดิน, ก็นี่แน่ะ, จะเห็นความมืดและมหันตทุกข์; และแสงสว่างก็จะถูกเมฆบดบังเสีย |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society