อิสยาห์ 38 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 อยู่มากษัตริย์ฮิศคียาทรงประชวรหนัก, และยะซายาศาสดาพยากรณ์บุตรของอาโมสได้มาเฝ้าพระองค์, และทูลว่า, “พระยะโฮวาได้ตรัสว่าดังนี้: ‘จงจัดแจงการบ้านการเมืองของท่านเสียให้เป็นระเบียบเรียบร้อย, เพราะว่าท่านจะต้องตาย, และจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป.’ ” 2 แล้วฮิศคียาจึงผินพระพักตรเข้าหากำแพง, 3 และอธิษฐานต่อพระยะโฮวาว่า, “ข้าแต่พระยะโฮวา, ข้าพเจ้าวิงวอนขอให้พระองค์ทรงระลึกว่าข้าพเจ้าได้เคยดำเนินในความสัตย์ธรรมและในความจงรักภักดีต่อพระพักตรของพระองค์, และข้าพเจ้าได้ประพฤติในทางซึ่งเป็นที่พอพระเนตรของพระองค์.” และกษัตริย์ฮิศคียาทรงกันแสงสอึกสอื้น. 4 แล้วพระยะโฮวาทรงมีพระดำรัสมายัง ยะซายาว่า, 5 “จงไปบอกฮิศคียา, ‘พระยะโฮวา, พระเจ้าของดาวิดราชบิดาของท่านว่า: “เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้าแล้ว, เราได้เห็นน้ำตาของเจ้าแล้ว; เราจะต่อชนมายุให้เจ้ายืนยาวไปอีกสิบห้าปี. 6 เราจะช่วยเจ้า-และกรุงนี้ให้พ้นจากเงื้อมมือของกษัตริย์อะซูระ, และจะยกโล่ห์ของเราขึ้นบ้องกันกรุงนี้ไว้.’ ” 7 แล้วยะซายาได้กราบทูลว่า, “นี้จะเป็นหมายสำคัญมาจากพระยะโฮวาประทานให้แก่พระองค์, เพื่อให้รู้ว่าพระยะโฮวาจะทรงกระทำการนี้ตามที่ได้ทรงสัญญาไว้: 8 นี่แน่ะ, เราจะหมุนนาฬิกาแดดของกษัตริย์อาฮาศให้ถอยหลังกลับไปอีกสิบขั้น.” เหตุฉะนั้นเงาของนาฬิกาแดดได้ถอยหลังกลับไปสิบขั้น 9 บทประพันธ์ของฮิศคียากษัตริย์ของประเทศยะฮูดาซึ่งได้ทรงประพันธ์เมื่อหายประชวรแล้ว: 10 ข้าพเจ้าว่า, “ข้าพเจ้าจะต้องตายในเมื่อมีอายุได้กลางคน, และผ่านเข้าประตูเมืองผี, เข้าไปอยู่ในนั้นตลอดอายุของข้าพเจ้าที่ยังเหลืออยู่.” 11 ข้าพเจ้าว่า, “ข้าพเจ้าจะไม่พบเห็นพระยะโฮวาในโลกมนุษย์อีกต่อไปแล้ว; ข้าพเจ้าจะไม่มองเห็นหน้ามนุษย์ในท่ามกลางชาวโลกอีกต่อไป.” 12 ที่อยู่ของข้าพเจ้าถูกรื้อถอนเอาไปเสียจากข้าพเจ้า, ทำนองเดียวกันกับกะโจมของผู้เลี้ยงแกะ; พระองค์ได้ทรงม้วนชีวิตของข้าพเจ้าเหมือนช่างทอผ้าม้วนผ้า, พระองค์ทรงตัดข้าพเจ้าออกจากหูก, พระองค์ได้ทรงทำให้ชีวิตของข้าพเจ้าสิ้นไปในระยะตั้งแต่รุ่งเช้าจนย่ำค่ำ. 13 ข้าพเจ้าถูกทรมานอยู่คืนยังรุ่งวันยังค่ำ, จนกะทั่งเวลาเช้าข้าพเจ้าร้องครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด, พระองค์ทรงหักกะดูกทุกท่อนของข้าพเจ้าราวกับสิงห์โตกระทำ, ข้าพเจ้าถูกทรมานอยู่คืนยังรุ่งวันยังค่ำ. 14 ข้าพเจ้าร้องเสียงเจี้ยวจ๊าวเหมือนอย่างนกนางแอ่นและนกยาง, ข้าพเจ้าพิลาปดังนกพิลาป, ตาของข้าพเจ้าแหงนขึ้นด้วยความร่วงโรย: โอ้พระยะโฮวาโปรดสดับฟังข้าพเจ้า, ขอทรงเป็นผู้ประกันภัยของข้าพเจ้า. 15 แต่ข้าพเจ้าจะพูดหรือกล่าวอะไรแก่พระองค์ได้, ในเมื่อพระองค์เองได้ทรงลงมือกระทำการนั้น? ข้าพเจ้าก็ต้องดำเนินไปด้วยความสงบเสงี่ยมตลอดชีวิตของข้าพเจ้า, เนื่องด้วยความขมขื่นในจิตต์ใจของข้าพเจ้า. 16 ข้าแต่พระยะโฮวา, มนุษย์มีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะการกระทำที่กล่าวมานั้น, และโดยเหตุเหล่านั้นชีวิตแห่งจิตต์วิญญาณของข้าพเจ้าจึงประทังอยู่ได้; ดังนั้นขอพระองค์ทรงบันดาลให้ข้าพเจ้าฟื้นขึ้นและมีชีวิตอย่างเก่า! 17 นี่แน่ะ, ที่ข้าพเจ้ามีความขมขื่นใหญ่หลวงก็เพื่อความสงบสุขของข้าพเจ้านั่นเอง; และพระองค์ได้ทรงฉุดข้าพเจ้าไว้ไม่ให้ตกลงไปในหลุมแห่งความพินาศ, เพราะพระองค์ได้ทรงเหวี่ยงบาปทั้งหมดของข้าพเจ้าไปข้างหลังพระองค์เสียแล้ว. 18 เมืองผีจะขอบพระคุณพระองค์ไม่ได้, และความตายก็สรรเสริญพระองค์ไม่ได้; และพวกเหล่านั้นที่ลงไปยังหลุมผีจะหวังความรักของพระองค์ไม่ได้. 19 คนเป็น, คนเป็นเท่านั้นจะได้ขอบพระคุณพระองค์เหมือนอย่างข้าพเจ้ากระทำอยู่ทุกวันนี้, บิดาจะได้สำแดงให้ลูกหลานรู้ถึงความสัตย์ซื่อของพระองค์. 20 โอ้พระยะโฮวา, ขอได้ทรงพระกรุณาช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น, และข้าพเจ้าทั้งหลายจะเล่นมะโหรีเครื่องสายหน้าวิหารแห่งพระยะโฮวาตลอดชีวิตของพวกข้าพเจ้าทั้งหลาย 21 ยะซายายังได้บอกดังนี้อีกด้วย, “จงทำขนมลูกมะเดื่อเทศ, แล้วเอามาปิดไว้บนผีเพื่อว่าพระองค์จะหายได้.” 22 แล้วกษัตริย์ฮิศคียาได้ตรัสว่า, “จะมีหมายสำคัญอะไรหรือที่จะให้เราขึ้นไปยังพระวิหารของพระเจ้า?” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society