อิสยาห์ 37 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 พอกษัตริย์ฮิศคียาได้กินข้อความนั้น, พระองค์ก็ทรงฉีกฉลองพระองค์. และได้ทรงสวมฉลองพระองค์ด้วยผ้าเนื้อหยาบ; และเสด็จเข้าไปในพระวิหารแห่งพระยะโฮวา, 2 และท่านได้รับสั่งใช้เอละยาคีมกรมวัง, และเซ็บนาพระอาลักษณ์, และเหล่าปุโรหิตผู้มีอาวุโส, ต่างคนต่างสวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบให้ไปหายะซายาบุตรของอาโมส. 3 และเขาทั้งหลายบอกแก่ยะซายาว่า, กษัตริย์ฮิศคียาตรัสดังนี้ว่า: ‘วันนี้เป็นวันแห่งความทุกข์, ถูกถากกางและถูกสพประมาท, เพราะทารกถึงกำหนดจะคลอดแล้ว, แต่ไม่มีกำลังลมเบ่ง, 4 ชะรอยพระยะโฮวาพระเจ้าของท่าน, คงได้ยินข้อความของแม่ทัพรับซาเค, ซึ่งกษัตริย์ประเทศอะซูระนายของเขาได้ใช้ให้มาดูหมิ่นดูถูกพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่, และจะได้ทรงคัดง้างถ้อยคำทั้งหลายซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าของท่านทรงได้ยินนั้น; เหตุฉะนั้นขอให้ท่านได้อธิษฐานทูลขึ้นไปขอเผื่อชาติยิศราเอลที่ยังเหลืออยู่นั้น!’ ” 5 และเมื่อราชบริพารของกษัตริย์ฮิศคียาได้มาถึงยะซายา, ยะซายาได้กล่าวกับเขาว่า, 6 “พวกท่านจงไปทูลเจ้านายของท่านว่า, ‘พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า: “อย่าหวาดกลัวต่อถ้อยคำที่ท่านได้ยิน, ซึ่งบ่าวไพร่ของกษัตริย์ประเทศอะซูระมาหยาบหยามเรา. 7 นี่แน่ะ, เราจะทำให้เขาเกิดความรู้สึกขึ้นอย่างหนึ่ง, คือพอเขาได้ยินข่าวโจทย์กันเรื่องหนึ่ง, เขาก็จะกลับไปยังบ้านเมืองของเขาเองและเราจะบันดาลให้เขาถูกฆ่าด้วยคมดาบในบ้านเมืองของเขาเอง.’ ” 8 ฝ่ายแม่ทัพรับซาเคก็ได้กลับไปและได้พบกษัตริย์อะซูระกำลังทำสงครามอยู่กับเมืองลิบนา; เพราะแม่ทัพได้ยินว่ากษัตริย์อะซูระไปจากเมืองลาคิศแล้ว. 9 แต่กษัตริย์อะซูระได้ยินข่าวอันเกี่ยวกับธิระฮักกากษัตริย์ประเทศอายธิโอบว่าท่านได้ยกทัพออกมาต่อสู้กับพระองค์, เมื่อพระองค์ได้ยินดังนั้นแล้วจึงใช้ทูตไปเฝ้ากษัตริย์ฮิศคียา, และสั่งทูตนั้นว่า, 10 “เจ้าจงไปทูลฮิศคียากษัตริย์ประเทศยะฮูดาดังนี้ว่า, ‘อย่าให้พระเจ้าของท่านที่ท่านหมายพึ่งนั้นลวงท่าน, โดยตรัสว่า, “กรุงยะรูซาเลมจะไม่ถูกมอบไว้ในเงื้อมมือของประเทศอะซูระ.” 11 นี่แน่ะ, ท่านคงได้ยินแล้วเป็นแน่นอนว่ากษัตริย์ประเทศอะซูระได้ทำลายบรรดาประเทศอื่นๆ เสียย่อยยับทีเดียวแล้วอย่างไร, แล้วท่านจะพ้นมือได้หรือ? 12 บรรดาพระแห่งประเทศต่างๆ, ซึ่งพระราชบิดาของเราได้ทำลายเสียแล้วนั้น, ได้ช่วยเขาไว้หรือ, คือเมืองโฆซัน, ฮาราน, และเรเซฟ, และชาวเมืองเอเด็น, ซึ่งอยู่ในเมืองธลาซัร? 13 กษัตริย์ของเมืองซะฟันวายิม, กษัตริย์ของเมืองเฮนา, และกษัตริย์ของเมืองอีวานั้นอยู่ที่ไหนเล่า? ’ ” 14 ฝ่ายกษัตริย์ฮิศคียาเมื่อรับสาส์นจากมือของทูตจึงอ่าน, แล้วกษัตริย์ฮิศคียาก็ขึ้นไปพระวิหารแห่งพระยะโฮวา, และคลี่หนังสือนั้นออกต่อพระพักตรพระยะโฮวา. 15 และกษัตริย์ฮิศคียาได้อธิษฐานต่อพระยะโฮวาว่า, 16 “ข้าแต่พระยะโฮวาจอมพลโยธา, พระเจ้าของชนชาติยิศราเอล, ผู้ทรงประทับอยู่เหนือคะรูบิม, พระองค์เป็นพระเจ้าแต่พระองค์เดียว, เป็นพระเจ้าเหนืออาณาจักรทั้งหมดแห่งพิภพโลก; พระองค์ได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และพิภพโลก. 17 ข้าแต่พระยะโฮวา, ขอเงี่ยพระโสตสดับฟัง; ข้าแต่พระยะโฮวา, ขอทรงทอดพระเนตรดูและสดับฟังถ้อยคำทั้งปวงของกษัตริย์ซันเฮริบซึ่งท่านได้ฝากมาสพประมาทพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่. 18 ข้าแต่พระยะโฮวา, เป็นความจริงที่กษัตริย์ทั้งหลายแห่งประเทศอะซูระได้กระทำให้ประเทศทั้งหมดเริดร้าง, และดินแดนของเขาให้ยับเยินไป, 19 และได้โยนพระทั้งหลายของเขาทั้งหลายลงในไฟเสียแล้ว, เพราะรูปเหล่านั้นไม่ใช่เป็นพระเที่ยงแท้, แต่เป็นพระทำด้วยไม้บ้าง, หินบ้าง, ซึ่งเป็นเพียงฝีมือมนุษย์; เพราะเหตุฉะนั้นเขาทั้งหลายจึงทำลายพระเหล่านั้นเลยได้. 20 แต่บัดนี้, ข้าแต่พระยะโฮวา, พระเจ้าของพวกข้าพเจ้า, ขอทรงโปรดช่วยพวกข้าพเจ้าให้พ้นจากเงื้อมมือของกษัตริย์ซันเฮริบเถิด, เพื่ออาณาจักรทั้งปวงแห่งแผ่นดินโลกจะได้รู้ว่าพระองค์เป็นพระยะโฮวาพระเจ้าแต่องค์เดียว.” 21 แล้วยะซายาบุตรของอาโมสจึงใช้คนไปทูลกษัตริย์ฮิศคียาว่า, “พระยะโฮวาพระเจ้าของชนชาติยิศราเอลได้ตรัสว่าดังนี้: ‘เพราะท่านได้อธิษฐานขอเราเกี่ยวกับเรื่องซันเฮริบกษัตริย์ประเทศอะซูระนั้น, 22 นี่คือข้อความซึ่งพระยะโฮวาได้ตรัสถึงกษัตริย์นั้น: “บุตรีสาวแห่งกรุงซีโอนได้ดูหมิ่นเจ้าและหัวเราะเยาะเจ้า! บุตรีแห่งกรุงยะรูซาเลมได้ยกคอให้แก่เจ้า! 23 เจ้าได้สพประมาทและหยาบหยามกับผู้ใด? เจ้าได้ส่งเสียงอึกทึกและเลิกตาให้สูงเอากับใคร? ก็ทำกับองค์บริสุทธิ์แห่งชนชาติยิศราเอลซิ! 24 เจ้าได้ประมาทพระยะโฮวาโดยทางผู้รับใช้ทั้งหลายของเจ้า, แล้วได้กล่าวว่า, ‘เราได้ขึ้นไปยังยอดภูเขายอดแย้แห่งละบาโนน, ด้วยราชรถมากมายของเราแล้ว; และเราได้ตัดต้นสนสีดาร์สูงที่สุดและต้นสนเฟอร์อย่างดีที่สุดแล้ว; เราได้เข้าไปในป่าลึกกะทั่งป่าทึบที่สุด. 25 เราได้ขุดบ่อและดื่มน้ำในที่ต่างประเทศ; และด้วยฝ่าเท้าของเราเราจะกวาดน้ำในบรรดาแม่น้ำอายฆุบโตเสียให้แห้ง.’ 26 เจ้าไม่ได้ยินหรือว่าเราได้ตระเตรียมการเช่นนี้มานานแล้ว, เราได้กะการนี้ไว้แต่ดึกดำบรรพ์, ว่าเจ้าจะทำลายเมืองที่มีป้อมคูประตูหอรบลงเป็นกองอิฐกองหิน, บัดนี้ก็สำเร็จลงแล้ว. 27 ส่วนชาวเมืองทั้งหลายกำลังวังชาของเขาก็หมดไปสิ้น, เกิดทุกข์ท้อใจและยุ่งเหยิง, กลายไปเป็นดังหญ้าในทุ่ง, ดั่งหญ้าเขียวอ่อน, ดั่งหญ้าบนดาดฟ้าหลังคาตึกซึ่งเหี่ยวเสียก่อนที่จะโตขึ้น. 28 อาการลุกอาการนั่งของเจ้า, อาการไปอาการมาของเจ้า, และอาการเดือดดาลของเจ้าต่อเรานั้น, เราก็รู้แล้ว. 29 เพราะเจ้าได้เดือดดาลต่อเรา, และความหยิ่งยะโสของเจ้าได้ยินขึ้นมาถึงหูของเรา, เราจึงจะสนสะพายจมูกของเจ้า, และเอาบังเหียนผ่าปากของเจ้า, แล้วเราจะชักเจ้าใหกลับไปในทางซึ่งเจ้ามานั้น.” 30 “นี่แหละจะเป็นหมายสำคัญสำหรับเจ้า: ในปีที่หนึ่งเจ้าจะกินพืชผลที่งอกขึ้นเอง, และปีที่สองเจ้าจะได้กินพืชผลที่เกิดจากพืชผลนั้น, แต่ในปีที่สามจงถือหว่านและเกี่ยว, ทำสวนองุ่นและกินผลของมัน. 31 และชนชาติยะฮูดาที่เหลืออยู่ซึ่งหนีพ้นไปได้นั้น, จะหยั่งรากลงในดินและบังเกิดผล. 32 ด้วยว่าพวกยะฮูดาที่เหลืออยู่นั้นจะออกไปจากกรุงยะรูซาเลม, และพวกที่รอดพ้นภัยจะออกไปจากภูเขาซีโอน, ความอุสสาหะแห่งพระยะโฮวาจอมพลโยธาจะกระทำให้การนี้สำเร็จ.” 33 “เพราะฉะนั้น, พระยะโฮวาได้ตรัสข้อความอันเกี่ยวกับกษัตริย์ประเทศอะซูระไว้ดังนี้ว่า, ‘ท่านจะไมได้เข้ามาในกรุงนี้, หรือยิงธนูได้แม้แต่ลูกเดียว, หรือท่านจะได้ถือโล่ห์มาหน้าเมืองก็หาไม่, หรือท่านจะได้พูนดินประชิดกำแพงก็เหลว, 34 ท่านมาทางไหน, ท่านก็จะต้องกลับไปทางนั้น, แต่ท่านจะไม่ได้เข้ามาในกรุงนี้’ พระยะโฮวาได้ตรัสไว้ดังนั้นแหละ. 35 ‘ด้วยเราจะบ้องกันและช่วยกรุงนี้ไว้ให้รอดเพราะเห็นแก่เราเอง, และเพื่อเห็นแก่ผู้รับใช้ของเราคือกษัตริย์ดาวิด.’ ” 36 แล้วทูตของพระยะโฮวาก็ออกไปประหารทหารหนึ่งแสนแปดหมื่นห้าพันคนที่อยู่ในกองทัพอะซูระ; และพอคนตื่นขึ้นในเวลาเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น, ทหารเหล่านั้นก็เป็นศพไปหมดแล้ว 37 ฝ่ายซันเฮริบกษัตริย์ประเทศอะซูระก็เลิกทัพกลับไปเมือง, ประทัพอยู่ที่เมืองนีนะเว. 38 อยู่มาเมื่อพระองค์ได้อยู่ในวิหารทรงกำลังนมัสการพระนิศโรคซึ่งเป็นพระของพระองค์, อัดรามเลดและซันเฮเซนราชโอรสของพระองค์ได้สำเร็จโทษพระองค์เสียด้วยดาบ, แล้วพากันหนีไปอยู่ประเทศอะราราศ, และเอซันฮาโดนราชโอรสของท่านได้เป็นกษัตริย์เสวยราชย์แทน |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society