อิสยาห์ 22 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 เรื่องราวอันน่าหนักใจเกี่ยวกับหุบเขาแห่งแนวนิมิตต์ฝัน นี่เป็นเรื่องอะไรกัน, เจ้าจึงได้ขึ้นไปบนดาดฟ้าหลังคาบ้านกันหมด? 2 เจ้าเป็นเมืองที่อึกกะทึกครึกโครม, เป็นกรุงที่กู่ก้องกาหล; คนตายของเจ้าไม่ได้ตายด้วยคมดาบ, หรือตายในการสงคราม. 3 ผู้ครอบครองของเจ้าทั้งหลายต่างหนีไปหมดแล้วแต่ถูกกองทหารธนูจับไว้ได้; ชายฉกรรจ์ของเจ้าก็ได้ถูกจับด้วยกันหมด, ถึงแม้ได้หนีไปไกลแล้ว. 4 เพราะฉะนั้นข้าฯจึงได้ว่า, “ขอเบือนหน้าไปเสียจากข้าฯ, ข้าจะได้หลั่งน้ำตาอย่างสะใจ, อย่าพยายามมาเล่าโลมข้าฯเลย, เนื่องด้วยความพินาศฉิบหายแห่งบุตรีของพลเมืองของข้าฯ!” 5 ด้วยว่าพระยะโฮวาพระเจ้าจอมพลโยธาทรงให้มีวันหนึ่ง, เป็นวันจลาจล, และวันบุกบั่นประจัญบาน, และวันโกลาหลในหุบเขาแห่งแนวนิมิตต์ฝัน; มีการทำลายกำแพงเมือง, และมีเสียงร้องก้องถึงภูเขา 6 พวกเอลามหยิบแล่งธนูขึ้นและเตรียมตัว, พวกอารามก็ขี่ม้ามา, และพวกคีระก็เผยโล่ห์ออก. 7 มีรถรบเต็มหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์ของเจ้า, และทหารม้าก็ตั้งแถวจะตีเข้าไปทางประตูเมือง. 8 และแหล่งป้องกันเมืองของยะฮูดาก็ประจักษ์แจ้งแก่ข้าศึก ในวันนั้นเจ้าได้มองหมายพึ่งเครื่องศาสตราวุธซึ่งสะสมไว้ในคลังชื่อว่าบ้านป่า, 9 และเจ้าได้สนใจไปปิดบรรดาช่องโหว่ที่กำแพงเมืองดาวิด, และเจ้าก็ได้เก็บน้ำจากบ่อเบื้องล่างมาสะสมไว้. 10 นอกนั้นเจ้ายังได้กะประมาณบ้านเรือนในกรุงยะรูซาเลมด้วย, แล้วรื้อเสียบ้าง, เอามาซ่อมแซมกำแพงหอรบ; 11 และเจ้าก็ได้ทำที่เก็บน้ำไว้ในระหว่างกำแพงสองชั้นสำหรับขังน้ำที่นำมาจากสระเก่า, แต่เจ้าไม่ได้มองหมายพึ่งท่านซึ่งทรงนำให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหรือมิได้สนใจให้ท่านผู้ได้กะการอันไว้นานมาแล้ว 12 วันนั้นพระยะโฮวาพระเจ้าจอมพลโยธาได้ทรงเรียกร้องให้เจ้าร้องไห้เละคร่ำครวญ, และให้โกนศีรษะ, และนุ่งผ้าเนื้อหยาบ; 13 แต่ดูเถอะ, เห็นมีแต่ความร่าเริงและยินดี, การฆ่าวัวและม้าแกะ, กินเนื้อสัตว์, และดื่มเหล้าองุ่น; และกล่าวว่า: “พวกเราจงมากินและดื่มให้สำราญ, เพราะพรุ่งนี้เราก็จะตายไป.” 14 พระยะโฮวาพระเจ้าจอมพลโยธาได้ทรงสำแดงพระองค์เองให้ปรากฏแก่โสตรประสาทของข้าฯว่า, “เจ้าจะไม่มีโอกาสทำพิธีแก้บาปอันนี้ได้จนตลอดชีวิตของเจ้าเป็นแน่.” พระยะโฮวาเจ้าจอมพลโยธาได้ตรัสไว้อย่างนั้น. 15 พระยะโฮวาเจ้าจอมพลโยธาได้ตรัสดังนี้ว่า, “จงไปหาเจ้าพนักงานวัง, คือเซ็บนาซึ่งดูแลวัง, แล้วถามเขาว่า 16 ‘เจ้ามาทำอะไรอยู่ที่นี่? เจ้ามามีญาติอะไรอยู่ที่นี่, เจ้าจึงได้มาเจาะหินทำอุโมงค์ที่นี่? เจาะหินทำอุโมงค์ไว้สำหรับตนในที่สูง, และทะลวงศิลาทำที่อยู่สำหรับตน? 17 นี่แน่ะ, โอเจ้าคนเก่ง, พระยะโฮวาจะเหวี่ยงเจ้าให้กะเด็นไป; เออ, พระยะโฮวาจะจับเจ้าไว้แน่น; 18 และควงเจ้าไปรอบๆ, และขว้างเจ้าเหมือนอย่างลูกขลุบลงไปยังแดนไกล. เจ้าก็จะไปตายที่นั่น, และรถรบอันสง่าผ่าเผยของเจ้าก็จะไปปรากฏนั่นด้วยซี, โอเจ้าผู้ทำให้เจ้านายของเจ้าได้รับความอัปยศ!’ 19 เราจะผลักเจ้าออกจากหน้าที่, และกะชากเจ้าลงมาจากตำแหน่ง. 20 และในวันนั้น, เราจะเรียกผู้รับใช้ของเราคือเอ็ลยาคิมบุตรของฮิลคียา; 21 และเราจะเอาเสื้อยศของเจ้ามาสวมให้เขา, และจะเอาผ้าเจียระบาดของเจ้าไปคาดพุงให้เขา; เรามอบอาชญาสิทธิ์ให้เขา, และเขาจะกลับเป็นพ่อเมืองของประชาชนแห่งกรุงยะรูซาเลม, และแห่งตระกูลยะฮูดา; 22 และเราจะวางกุญแจสิทธิแห่งตระกูลดาวิดไว้บนบ่าของเขา; และเมื่อเขาเปิดแล้ว, ไม่มีใครอาจจะปิด, และเมื่อเขาปิดไว้, ไม่มีใครจะเปิด. 23 และเราจะแต่งตั้งเขาไว้ดุจตรึงตะปูในที่อันมั่นคง; และเขาจะเป็นเหมือนพระที่นั่งอันสูงศักดิ์แก่ตระกูลแห่งบิดาของเขา. 24 แล้วภาระทั้งสิ้นของครอบครัวบิดาของเขาก็จะถูกนำมาแขวนไว้ที่เขา, คือเชื้อแถวและวงศ์กะเสนกะสาย, เปรียบได้กะทั่งภาชนะอันต่ำต้อยที่สุด, ตั้งแต่ถ้วยขึ้นไปจนถึงเต้าน้ำ.” 25 พระยะโฮวาจอมพลโยธาได้ตรัสว่า, “ในวันนั้นเหล็กตะปูที่ได้ตรึงไว้มั่นคงนั้นก็จะหลวมหลุดถอนหัวตกลงมา, และภาระที่ห้อยแขวนอยู่ ณ ที่นั้นก็จะตกตามลงมาด้วย.” เพราะพระยะโฮวาได้ตรัสไว้อย่างนั้น |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society