อิสยาห์ 2 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ถ้อยคำซึ่งยะซายาบุตรของอาโมสได้รับมาเกี่ยวข้องกับยะฮูดาและยะรูซาเลม เมื่อถึงสมัยสุดท้ายนั้น, ภูเขาอันเป็นที่ตั้งของโบสถ์แห่งพระยะโฮวานั้น, จะถูกสถาปนาขึ้นให้เท่าเทียมกับขุนเขาสูงทั้งหลาย, และจะถูกยกชูขึ้นให้สูงเยี่ยมเหนือภูเขาทั้งมวล; และประชาขนจะหลั่งไหลไปถึงที่นั่น. และประชาชาติเป็นอันมากจะพากันกล่าวว่า, “มาเถิดพวกเรา, ให้เราขึ้นไปยังภูเขาแห่งพระยะโฮวา, และยังโบสถ์ของพระเจ้าแห่งยาโคบ. พระองค์จะได้ทรงสอนเราให้รู้จักวิถีทางของพระองค์และเราจะได้เดินไปตามทางของพระองค์นั้น: ด้วยว่าพระบัญญัติจะออกไปจากท้องถิ่นซีโอน, และพระคำของพระยะโฮวาจะออกไปจากกรุงยะรูซาเลม.” และพระองค์จะทรงวินิจฉัยความระหว่างประชาชาติ, และจะทรงตัดสินเรื่องของมหาชน: และเขาทั้งหลายจะเอาดาบของเขาตีเป็นผาลไถนา, และเอาหอกตีเป็นขอสำหรับลิดแขนง; ประเทศต่อประเทศจะไม่ยกดาบขึ้นต่อสู้กัน, และเขาจะไม่ศึกษายุทธศาสตร์อีกต่อไป ดูกรตระกูลยาโคบ, มาเถิดท่านทั้งหลาย, และให้เราดำเนินในแสงสว่างของพระยะโฮวา. ด้วยพระองค์ได้ทรงละทิ้งพลเมืองของพระองค์คือตระกูลของยาโคบเสีย, เพราะเขานำประเพณีชาวตะวันออกมาแพร่ไว้เต็มบ้านเต็มเมือง, และคนทรงเจ้าเข้าผีอย่างชาวฟาเลเซ็ศ, เขาทั้งหลายคบค้าสมาคมกับคนต่างชาติ. และบ้านเมืองของเขาจึงบริบูรณ์ไปด้วยเงินและทอง, ทรัพย์สมบัติของเขามีมากมายเหลือคณนา; และบ้านเมืองของเขาบริบูรณ์ไปด้วยม้า, และรถรบของเขามีมากเหลือประมาณ. และเขาก็มีรูปเคารพเต็มบ้านเต็มเมืองด้วย; เขาได้นมัสการสิ่งซึ่งทำขึ้นด้วยมือของเขาเอง, และกราบไหว้สิ่งซึ่งนิ้วของเขาเองได้ประดิษฐ์ขึ้น. ดังนั้นมนุษย์ชาติจึงได้ลดฐานะของตัวเองลง, และคนแท้ๆ ก็ยังเหยียดตัวของตัวเองลง: เพราะฉะนั้นอย่าให้อภัยโทษเขาเลย จงมุดเข้าไปในซอกเขา, และซ่อนตัวเจ้าอยู่ในโพรงใต้ดิน, เพื่อจะได้พ้นจากความน่ากลัวแห่งพระยะโฮวาและรัศมีและเดชานุภาพของพระองค์. สายตาอันเย่อหยิ่งของมนุษย์จะต้องถูกหลบลง, และความจองหองของมนุษย์จะต้องถูกข่มให้ต่ำลง, และในวันนั้นพระยะโฮวาแต่องค์เดียวจะถูกเทอดให้สูงยิ่ง. เพราะพระยะโฮวาจอมพลโยธาทรงมีวันไว้สำหรับคนเย่อหยิ่งและคนจองหองและคนที่ยกตัวขึ้นที่จะต้องถูกเหยียดลง. และวันสำหรับต้นสนบนเขาละบาโนน, ที่เป็นต้นสูง, และวันสำหรับต้นโอ๊คทั้งหลายแห่งเมืองบาซาน, และวันสำหรับขุนเขาทั้งหลาย, และวันสำหรับภูเขาทั้งหลายที่สูงเยี่ยม; และวันสำหรับป้อมอันสูงทุกป้อม, และวันสำหรับกำแพงที่พร้อมสรรพด้วยเครื่องรบ. และวันสำหรับกำปั่นทั้งหลายแห่งเมืองธาระซิศ, พร้อมด้วยรูปสลักอันวิจิตร. และความใฝ่สูงของมนุษย์จะต้องถูกเหยียดลงมาต่ำ, และความเย่อหยิ่งของมนุษย์จะต้องถูกข่มให้ต่ำลง; และในวันนั้นพระยะโฮวาแต่องค์เดียวจะต้องถูกเทอดให้สูงยิ่ง. และรูปเคารพทั้งหลายจะต้องศูนย์หายไปสิ้น. เมื่อพระองค์จะทรงลุกขึ้นเขย่าโลกอย่างหนักยิ่ง, คนจะหนีเข้าไปซุกซ่อนในถ้ำเขา, และในโพรงดิน, เพื่อจะให้พ้นจากความน่ากลัวแห่งพระยะโฮวา, และรัศมีและเดชานุภาพของพระองค์. ในวันนั้นคนทั้งหลายจะทิ้งรูปเคารพที่ทำด้วยเงิน, และรูปเคารพที่ทำด้วยทอง, ซึ่งได้ทำไว้สำหรับกราบไหว้นั้น, ไปปะปนอยู่กับหนูผีและค้างคาว. ทิ้งลงไปยังถ้ำใหญ่ในภูเขา, ทิ้งลงไปในซอกหินชัน, ให้พ้นจากความน่ากลัวแห่งพระยะโฮวา, และรัศมีและเดชานุภาพของพระองค์, เมื่อพระองค์จะทรงลุกขึ้นเขย่าโลกอย่างหนักยิ่ง. จงหยุดการวางใจแก่มนุษย์, ที่มีลมหายใจทางจมูก, เพราะว่าจะไว้ใจเขาที่ไหนได้? 2 เมื่อถึงสมัยสุดท้ายนั้น, ภูเขาอันเป็นที่ตั้งของโบสถ์แห่งพระยะโฮวานั้น, จะถูกสถาปนาขึ้นให้เท่าเทียมกับขุนเขาสูงทั้งหลาย, และจะถูกยกชูขึ้นให้สูงเยี่ยมเหนือภูเขาทั้งมวล; และประชาขนจะหลั่งไหลไปถึงที่นั่น. 3 และประชาชาติเป็นอันมากจะพากันกล่าวว่า, “มาเถิดพวกเรา, ให้เราขึ้นไปยังภูเขาแห่งพระยะโฮวา, และยังโบสถ์ของพระเจ้าแห่งยาโคบ. พระองค์จะได้ทรงสอนเราให้รู้จักวิถีทางของพระองค์และเราจะได้เดินไปตามทางของพระองค์นั้น: ด้วยว่าพระบัญญัติจะออกไปจากท้องถิ่นซีโอน, และพระคำของพระยะโฮวาจะออกไปจากกรุงยะรูซาเลม.” 4 และพระองค์จะทรงวินิจฉัยความระหว่างประชาชาติ, และจะทรงตัดสินเรื่องของมหาชน: และเขาทั้งหลายจะเอาดาบของเขาตีเป็นผาลไถนา, และเอาหอกตีเป็นขอสำหรับลิดแขนง; ประเทศต่อประเทศจะไม่ยกดาบขึ้นต่อสู้กัน, และเขาจะไม่ศึกษายุทธศาสตร์อีกต่อไป 5 ดูกรตระกูลยาโคบ, มาเถิดท่านทั้งหลาย, และให้เราดำเนินในแสงสว่างของพระยะโฮวา. 6 ด้วยพระองค์ได้ทรงละทิ้งพลเมืองของพระองค์คือตระกูลของยาโคบเสีย, เพราะเขานำประเพณีชาวตะวันออกมาแพร่ไว้เต็มบ้านเต็มเมือง, และคนทรงเจ้าเข้าผีอย่างชาวฟาเลเซ็ศ, เขาทั้งหลายคบค้าสมาคมกับคนต่างชาติ. 7 และบ้านเมืองของเขาจึงบริบูรณ์ไปด้วยเงินและทอง, ทรัพย์สมบัติของเขามีมากมายเหลือคณนา; และบ้านเมืองของเขาบริบูรณ์ไปด้วยม้า, และรถรบของเขามีมากเหลือประมาณ. 8 และเขาก็มีรูปเคารพเต็มบ้านเต็มเมืองด้วย; เขาได้นมัสการสิ่งซึ่งทำขึ้นด้วยมือของเขาเอง, และกราบไหว้สิ่งซึ่งนิ้วของเขาเองได้ประดิษฐ์ขึ้น. 9 ดังนั้นมนุษย์ชาติจึงได้ลดฐานะของตัวเองลง, และคนแท้ๆ ก็ยังเหยียดตัวของตัวเองลง: เพราะฉะนั้นอย่าให้อภัยโทษเขาเลย 10 จงมุดเข้าไปในซอกเขา, และซ่อนตัวเจ้าอยู่ในโพรงใต้ดิน, เพื่อจะได้พ้นจากความน่ากลัวแห่งพระยะโฮวาและรัศมีและเดชานุภาพของพระองค์. 11 สายตาอันเย่อหยิ่งของมนุษย์จะต้องถูกหลบลง, และความจองหองของมนุษย์จะต้องถูกข่มให้ต่ำลง, และในวันนั้นพระยะโฮวาแต่องค์เดียวจะถูกเทอดให้สูงยิ่ง. 12 เพราะพระยะโฮวาจอมพลโยธาทรงมีวันไว้สำหรับคนเย่อหยิ่งและคนจองหองและคนที่ยกตัวขึ้นที่จะต้องถูกเหยียดลง. 13 และวันสำหรับต้นสนบนเขาละบาโนน, ที่เป็นต้นสูง, และวันสำหรับต้นโอ๊คทั้งหลายแห่งเมืองบาซาน, 14 และวันสำหรับขุนเขาทั้งหลาย, และวันสำหรับภูเขาทั้งหลายที่สูงเยี่ยม; 15 และวันสำหรับป้อมอันสูงทุกป้อม, และวันสำหรับกำแพงที่พร้อมสรรพด้วยเครื่องรบ. 16 และวันสำหรับกำปั่นทั้งหลายแห่งเมืองธาระซิศ, พร้อมด้วยรูปสลักอันวิจิตร. 17 และความใฝ่สูงของมนุษย์จะต้องถูกเหยียดลงมาต่ำ, และความเย่อหยิ่งของมนุษย์จะต้องถูกข่มให้ต่ำลง; และในวันนั้นพระยะโฮวาแต่องค์เดียวจะต้องถูกเทอดให้สูงยิ่ง. 18 และรูปเคารพทั้งหลายจะต้องศูนย์หายไปสิ้น. 19 เมื่อพระองค์จะทรงลุกขึ้นเขย่าโลกอย่างหนักยิ่ง, คนจะหนีเข้าไปซุกซ่อนในถ้ำเขา, และในโพรงดิน, เพื่อจะให้พ้นจากความน่ากลัวแห่งพระยะโฮวา, และรัศมีและเดชานุภาพของพระองค์. 20 ในวันนั้นคนทั้งหลายจะทิ้งรูปเคารพที่ทำด้วยเงิน, และรูปเคารพที่ทำด้วยทอง, ซึ่งได้ทำไว้สำหรับกราบไหว้นั้น, ไปปะปนอยู่กับหนูผีและค้างคาว. 21 ทิ้งลงไปยังถ้ำใหญ่ในภูเขา, ทิ้งลงไปในซอกหินชัน, ให้พ้นจากความน่ากลัวแห่งพระยะโฮวา, และรัศมีและเดชานุภาพของพระองค์, เมื่อพระองค์จะทรงลุกขึ้นเขย่าโลกอย่างหนักยิ่ง. 22 จงหยุดการวางใจแก่มนุษย์, ที่มีลมหายใจทางจมูก, เพราะว่าจะไว้ใจเขาที่ไหนได้? |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society