อิสยาห์ 1 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 นิมิตต์ซึ่งยะซายาบุตรของอาโมสได้เห็นเกี่ยวกับยะฮูดาและยะรูซาเลมในรัชชกาลของกษัตริย์อุซียา, กษัตริย์โยธาม, กษัตริย์อาฮาศ, และกษัตริย์ฮิศคียาผู้ครองประเทศยะฮูดา พระยะโฮวาได้ตรัสแล้วว่า, “โอฟ้าสวรรค์ทั้งหลาย, จงฟัง, โอ้แผ่นดินโลก, จงเงี่ยหูสดับเถิด; เราได้บำรุงเลี้ยงและได้ประคบประหงมบรรดาบุตรให้วัฒนาขึ้น, แต่บุตรเหล่านั้นได้ทรยศต่อเรา. โคผู้ยังรู้จักเจ้าของของมัน, และสัตว์ลายังรู้จักรางหญ้าของเจ้าของ: แต่พวกยิศราเอลนั้นหาได้รู้จักอย่างนั้นไม่, พลเมืองของเรานั้นมิได้ใช้ความคิดตรึกตรอง.” เออ, ประเทศที่เต็มไปด้วยบาป, พลเมืองที่เพียบไปด้วยอสัตย์อธรรม, เป็นว่านเครือของผู้กระทำชั่ว, เป็นลูกหลานที่ประกอบการคดโกง: เขาทั้งหลายเหล่านั้นได้ละทิ้งพระยะโฮวาเสีย, และได้หมิ่นประมาทองค์บริสุทธิ์ของพวกยิศราเอล, เขาทั้งหลายได้เหินห่างและก้าวถอยหลังไป. ทำไมเจ้าทั้งหลายยังขืนทรยศต่อไป? แล้วก็ต้องถูกเฆี่ยนตีมากขึ้น: ทั้งศีรษะก็เจ็บไปทั่ว, และทั้งใจก็ละเหี่ยม่อยไป. ตั้งแต่ฝ่าเท้าขึ้นไปตลอดกะทั่งศีรษะไม่มีที่ปกติเลย; มีแต่บาดแผลและรอยฟกช้ำ, และรอยแผลเฆี่ยน: แผลเหล่านั้นมิได้ปิดไว้, หรือมิได้พันไว้, หรือมิได้ใส่น้ำมันให้เนื้อนิ่มเลย. ประเทศของเจ้าก็ร้างเปล่า, นครของเจ้าก็ถูกเผาผลาญ: ส่วนดินแดนของเจ้านั้นคนต่างชาติก็กลืนกินเสียต่อหน้าเจ้า, และมันก็ร้างไป, เหมือนกับว่าคนต่างชาติ-ได้ทำลายมันเสีย. ส่วนลูกหญิงของกรุงซีโอนนั้นถูกละไว้เหมือนอย่างห้างสวนในสวนองุ่น, และเหมือนกับกะท่อมในไร่แตงกวา, และเหมือนกับเมืองที่ถูกล้อมไว้. ถ้าหากพระยะโฮวาจอมพลโยธามิไดละเว้นเราซึ่งเป็นหน่วยน้อยนั้นเสีย, เราก็จะเป็นเหมือนอย่างเมืองซะโดม, และเป็นเหมือนอย่างเมืองอะโมรา ดูกรท่านผู้ครองเมืองซะโดม, จงสดับฟังคำตรัสของพระยะโฮวา; ดูกรชนชาวอะโมรา, จงเอียงหูฟังพระบัญชาของพระเจ้าของพวกเราเถิด. พระยะโฮวาได้ตรัสว่า, “เครื่องบูชาเผามากมายก่ายกองของเจ้าจะเป็นประโยชน์อะไรแก่เรา? เราเบื่อเครื่องบูชาเผาแกะตัวผู้, และมันข้นแห่งสัตว์เลี้ยง; และมิได้ชื่นใจในโลหิตแห่งลูกโคผู้, หรือของลูกแกะ, หรือของแพะผู้. เมื่อเจ้ามาปรากฏตัวต่อหน้าเรานั้น, ใครได้ขอร้องให้เจ้าเหยียบเข้ามาในสำนักของเรา? อย่าได้นำเครื่องบูชาสัตว์อันขาดจิตต์เคารพมาอีกเลย; กลิ่นเครื่องบูชาจะเพิ่มความสะอิดสะเอียนแก่เรามากขึ้น; ในสมัยประชุมประจำเดือนแรกเดือนขึ้น, วันซะบาโตและสมัยประชุมประจำปี, เราไม่ชอบใจเลยแม้ถึงการที่ประชุมนมัสการอย่างพิเศษนั้น, ก็เป็นการอสัตย์อธรรม. วันถือเทศกาลแรกเดือนขึ้น, วันถือพิธีต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ของเจ้านั้นเราเกลียดชังนัก; ลัทธิเหล่านั้นเป็นภาระรุงรังแก่เรา, เราเบื่อหน่ายที่จะทนแบกต่อไปแล้ว. แลเมื่อเจ้าทั้งหลายชูมือกางขึ้น, เราจะเมินหน้าเสียจากพวกเจ้า: เออ, เมื่อเจ้าอธิษฐานมากมายหลายหน, เราจะไม่ฟัง: ด้วยมือของพวกเจ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิต. ล้างเสียเถอะ, จงชำระตัวเสียให้สะอาดหมดจด; เจ้าจงเลิกทำการชั่วและกำจัดมันเสียให้พ้นจากสายตาของเรา; จงงดกระทำชั่วเสียทีเดียว; จงฝึกหัดกระทำการดี; จงแสวงหาที่จะให้ความยุตติธรรม, จงขัดขวางการกระทำของผู้ข่มเหง, จงให้ความยุตติธรรมแก่ลูกกำพร้า, จงเป็นปากเสียงให้แก่หญิงม่าย.” พระยะโฮวาตรัสว่า, “มาเถิด, ให้เรามาหารือตกลงกันเสียให้เด็ดขาด: แม้บาปของเจ้าจะแดงเป็นเหมือนสีที่แดงก่ำบาปนั้นก็อาจจะกลับกลายเป็นสีขาวเหมือนอย่างหิมะ; แม้บาปของเจ้าจะแดงเป็นเหมือนสีที่แดงเข้ม, บาปนั้นก็อาจจะขาวเหมือนอย่างขนแกะ. ถ้าเจ้าสมัครใจเชื่อฟัง, เจ้าก็จะได้เก็บกินผลแห่งแผ่นดินอย่างบริบูรณ์: แต่ถ้าเจ้าไม่ยอม, และยังทรยศอยู่, เจ้าก็จะต้องเป็นเหยื่อแห่งคมดาบ:” เพราะพระโอษฐ์ของพระยะโฮวาได้ตรัสดังนั้น เมืองที่สัตย์ซื่อยังมากลายเป็นเมืองหญิงนอกใจไปได้! เมืองนั้นเคยเต็มด้วยความยุตติธรรม; ความชอบธรรมเคยได้ดำรงอยู่ในเมืองนั้น; แต่มาบัดนี้กลายเป็นเมืองของนักฆาตกรรม. เนื้อเงินก็กลายเป็นขี้เงินไปแล้ว, เหล้าองุ่นของเจ้านั้นก็ถูกปนด้วยน้ำท่า: ผู้ครองเมืองของเจ้าแต่หาครองตัวของเขาเองได้ไม่, และกลับไปเป็นมิตรของพวกโจร: ต่างก็ชอบกินสินบน, และเสาะหาสินจ้างเขาไม่ให้ความยุตติธรรมแก่ลูกกำพร้าและไม่นำพาต่อคดีของหญิงม่าย ดังนั้นพระยะโฮวาจอมพลโยธาทั้งหลาย, องค์ผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดของชาติยิศราเอลตรัสว่า, “อ้า, เราจะปลีกตัวออกจากศัตรูของเรา, และจะแก้แค้นปัจจามิตรของเรา. เราจะวางมือของเราลงบนเจ้า, และเราจะถลุงขี้แร่ออกจากเจ้าเสียให้บริสุทธิ์, และกำจัดการเจือปนของเจ้าออกเสียให้หมดสิ้นไป; เราจะกลับตั้งผู้พิพากษาของเจ้าให้คงตำแหน่งเดิมและตั้งคณะที่ปรึกษาของเจ้าไว้เหมือนแต่แรกแต่นั้นไปเจ้าจะถูกขนานนามว่าเป็นนครแห่งความชอบธรรม, และสัตย์ซื่อ. กรุงซีโอนจะถูกไถ่ออกมาด้วยความยุตติธรรม, และพลเมืองที่กลับใจนั้นจะรอดพ้นด้วยความชอบธรรม. ผู้ล่วงบัญญัติและคนบาปจะพินาศไปด้วยกับและเขาทั้งหลายที่ละทิ้งพระยะโฮวานั้นจะมอดม้วยไป. แล้วเขาจะอับอายขายหน้าเพราะต้นโอ๊คศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเขาเคยพึ่งใจมาแต่ก่อน, และเจ้าจะขวยเขินต่อหมู่ไม้ที่เจ้าเลือกไว้เคารพบูชา. เพราะเจ้าจะเป็นดุจต้นโอ๊คที่เหี่ยวแห้ง, และดุจหมู่ไม้ที่ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง. และผู้ที่เข้มแข็งก็จะเป็นเหมือนอย่างขุยป่านและรูปเคารพที่เขาทำขึ้นก็จะเปรียบเหมือนประกายไฟ, และทั้งสองอย่างก็จะเผาผลาญไปด้วยกัน, และไม่มีใครจะดับเสียได้ 2 พระยะโฮวาได้ตรัสแล้วว่า, “โอฟ้าสวรรค์ทั้งหลาย, จงฟัง, โอ้แผ่นดินโลก, จงเงี่ยหูสดับเถิด; เราได้บำรุงเลี้ยงและได้ประคบประหงมบรรดาบุตรให้วัฒนาขึ้น, แต่บุตรเหล่านั้นได้ทรยศต่อเรา. 3 โคผู้ยังรู้จักเจ้าของของมัน, และสัตว์ลายังรู้จักรางหญ้าของเจ้าของ: แต่พวกยิศราเอลนั้นหาได้รู้จักอย่างนั้นไม่, พลเมืองของเรานั้นมิได้ใช้ความคิดตรึกตรอง.” 4 เออ, ประเทศที่เต็มไปด้วยบาป, พลเมืองที่เพียบไปด้วยอสัตย์อธรรม, เป็นว่านเครือของผู้กระทำชั่ว, เป็นลูกหลานที่ประกอบการคดโกง: เขาทั้งหลายเหล่านั้นได้ละทิ้งพระยะโฮวาเสีย, และได้หมิ่นประมาทองค์บริสุทธิ์ของพวกยิศราเอล, เขาทั้งหลายได้เหินห่างและก้าวถอยหลังไป. 5 ทำไมเจ้าทั้งหลายยังขืนทรยศต่อไป? แล้วก็ต้องถูกเฆี่ยนตีมากขึ้น: ทั้งศีรษะก็เจ็บไปทั่ว, และทั้งใจก็ละเหี่ยม่อยไป. 6 ตั้งแต่ฝ่าเท้าขึ้นไปตลอดกะทั่งศีรษะไม่มีที่ปกติเลย; มีแต่บาดแผลและรอยฟกช้ำ, และรอยแผลเฆี่ยน: แผลเหล่านั้นมิได้ปิดไว้, หรือมิได้พันไว้, หรือมิได้ใส่น้ำมันให้เนื้อนิ่มเลย. 7 ประเทศของเจ้าก็ร้างเปล่า, นครของเจ้าก็ถูกเผาผลาญ: ส่วนดินแดนของเจ้านั้นคนต่างชาติก็กลืนกินเสียต่อหน้าเจ้า, และมันก็ร้างไป, เหมือนกับว่าคนต่างชาติ-ได้ทำลายมันเสีย. 8 ส่วนลูกหญิงของกรุงซีโอนนั้นถูกละไว้เหมือนอย่างห้างสวนในสวนองุ่น, และเหมือนกับกะท่อมในไร่แตงกวา, และเหมือนกับเมืองที่ถูกล้อมไว้. 9 ถ้าหากพระยะโฮวาจอมพลโยธามิไดละเว้นเราซึ่งเป็นหน่วยน้อยนั้นเสีย, เราก็จะเป็นเหมือนอย่างเมืองซะโดม, และเป็นเหมือนอย่างเมืองอะโมรา 10 ดูกรท่านผู้ครองเมืองซะโดม, จงสดับฟังคำตรัสของพระยะโฮวา; ดูกรชนชาวอะโมรา, จงเอียงหูฟังพระบัญชาของพระเจ้าของพวกเราเถิด. 11 พระยะโฮวาได้ตรัสว่า, “เครื่องบูชาเผามากมายก่ายกองของเจ้าจะเป็นประโยชน์อะไรแก่เรา? เราเบื่อเครื่องบูชาเผาแกะตัวผู้, และมันข้นแห่งสัตว์เลี้ยง; และมิได้ชื่นใจในโลหิตแห่งลูกโคผู้, หรือของลูกแกะ, หรือของแพะผู้. 12 เมื่อเจ้ามาปรากฏตัวต่อหน้าเรานั้น, ใครได้ขอร้องให้เจ้าเหยียบเข้ามาในสำนักของเรา? 13 อย่าได้นำเครื่องบูชาสัตว์อันขาดจิตต์เคารพมาอีกเลย; กลิ่นเครื่องบูชาจะเพิ่มความสะอิดสะเอียนแก่เรามากขึ้น; ในสมัยประชุมประจำเดือนแรกเดือนขึ้น, วันซะบาโตและสมัยประชุมประจำปี, เราไม่ชอบใจเลยแม้ถึงการที่ประชุมนมัสการอย่างพิเศษนั้น, ก็เป็นการอสัตย์อธรรม. 14 วันถือเทศกาลแรกเดือนขึ้น, วันถือพิธีต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ของเจ้านั้นเราเกลียดชังนัก; ลัทธิเหล่านั้นเป็นภาระรุงรังแก่เรา, เราเบื่อหน่ายที่จะทนแบกต่อไปแล้ว. 15 แลเมื่อเจ้าทั้งหลายชูมือกางขึ้น, เราจะเมินหน้าเสียจากพวกเจ้า: เออ, เมื่อเจ้าอธิษฐานมากมายหลายหน, เราจะไม่ฟัง: ด้วยมือของพวกเจ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิต. 16 ล้างเสียเถอะ, จงชำระตัวเสียให้สะอาดหมดจด; เจ้าจงเลิกทำการชั่วและกำจัดมันเสียให้พ้นจากสายตาของเรา; จงงดกระทำชั่วเสียทีเดียว; 17 จงฝึกหัดกระทำการดี; จงแสวงหาที่จะให้ความยุตติธรรม, จงขัดขวางการกระทำของผู้ข่มเหง, จงให้ความยุตติธรรมแก่ลูกกำพร้า, จงเป็นปากเสียงให้แก่หญิงม่าย.” 18 พระยะโฮวาตรัสว่า, “มาเถิด, ให้เรามาหารือตกลงกันเสียให้เด็ดขาด: แม้บาปของเจ้าจะแดงเป็นเหมือนสีที่แดงก่ำบาปนั้นก็อาจจะกลับกลายเป็นสีขาวเหมือนอย่างหิมะ; แม้บาปของเจ้าจะแดงเป็นเหมือนสีที่แดงเข้ม, บาปนั้นก็อาจจะขาวเหมือนอย่างขนแกะ. 19 ถ้าเจ้าสมัครใจเชื่อฟัง, เจ้าก็จะได้เก็บกินผลแห่งแผ่นดินอย่างบริบูรณ์: 20 แต่ถ้าเจ้าไม่ยอม, และยังทรยศอยู่, เจ้าก็จะต้องเป็นเหยื่อแห่งคมดาบ:” เพราะพระโอษฐ์ของพระยะโฮวาได้ตรัสดังนั้น 21 เมืองที่สัตย์ซื่อยังมากลายเป็นเมืองหญิงนอกใจไปได้! เมืองนั้นเคยเต็มด้วยความยุตติธรรม; ความชอบธรรมเคยได้ดำรงอยู่ในเมืองนั้น; แต่มาบัดนี้กลายเป็นเมืองของนักฆาตกรรม. 22 เนื้อเงินก็กลายเป็นขี้เงินไปแล้ว, เหล้าองุ่นของเจ้านั้นก็ถูกปนด้วยน้ำท่า: 23 ผู้ครองเมืองของเจ้าแต่หาครองตัวของเขาเองได้ไม่, และกลับไปเป็นมิตรของพวกโจร: ต่างก็ชอบกินสินบน, และเสาะหาสินจ้างเขาไม่ให้ความยุตติธรรมแก่ลูกกำพร้าและไม่นำพาต่อคดีของหญิงม่าย 24 ดังนั้นพระยะโฮวาจอมพลโยธาทั้งหลาย, องค์ผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุดของชาติยิศราเอลตรัสว่า, “อ้า, เราจะปลีกตัวออกจากศัตรูของเรา, และจะแก้แค้นปัจจามิตรของเรา. 25 เราจะวางมือของเราลงบนเจ้า, และเราจะถลุงขี้แร่ออกจากเจ้าเสียให้บริสุทธิ์, และกำจัดการเจือปนของเจ้าออกเสียให้หมดสิ้นไป; 26 เราจะกลับตั้งผู้พิพากษาของเจ้าให้คงตำแหน่งเดิมและตั้งคณะที่ปรึกษาของเจ้าไว้เหมือนแต่แรกแต่นั้นไปเจ้าจะถูกขนานนามว่าเป็นนครแห่งความชอบธรรม, และสัตย์ซื่อ. 27 กรุงซีโอนจะถูกไถ่ออกมาด้วยความยุตติธรรม, และพลเมืองที่กลับใจนั้นจะรอดพ้นด้วยความชอบธรรม. 28 ผู้ล่วงบัญญัติและคนบาปจะพินาศไปด้วยกับและเขาทั้งหลายที่ละทิ้งพระยะโฮวานั้นจะมอดม้วยไป. 29 แล้วเขาจะอับอายขายหน้าเพราะต้นโอ๊คศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเขาเคยพึ่งใจมาแต่ก่อน, และเจ้าจะขวยเขินต่อหมู่ไม้ที่เจ้าเลือกไว้เคารพบูชา. 30 เพราะเจ้าจะเป็นดุจต้นโอ๊คที่เหี่ยวแห้ง, และดุจหมู่ไม้ที่ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง. 31 และผู้ที่เข้มแข็งก็จะเป็นเหมือนอย่างขุยป่านและรูปเคารพที่เขาทำขึ้นก็จะเปรียบเหมือนประกายไฟ, และทั้งสองอย่างก็จะเผาผลาญไปด้วยกัน, และไม่มีใครจะดับเสียได้ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society