ปฐมกาล 37 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ฝ่ายยาโคบได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินที่บิดาของท่านเป็นแขกเมืองนั้น, คือแผ่นดินคะนาอัน. 2 ทีนี้จะกล่าวด้วยเชื้อสายของยาโคบ. โยเซฟเมื่ออายุสิบเจ็ดปีได้เลี้ยงสัตว์อยู่กับพี่ชายของตน; เขาเป็นคนหนุ่มอยู่กับบุตรนางบีละฮาและบุตรนางซีละพาผู้เป็นภรรยาบิดาของตน: และโยเซฟได้มาบอกความผิดที่พี่ชายของตนกระทำนั้นให้บิดาฟัง. 3 ฝ่ายยิศราเอทได้รักโยเชฟมากกว่าบุตรทั้งปวง, เพราะโยเซฟบังเกิดเมื่อบิดาแก่แล้ว; จึงทำเสื้อยาวมีแขนให้แก่โยเซฟ. 4 เมื่อพี่ชายเห็นว่าบิดารักโยเซฟมากกว่าพี่ชายทั้งปวง. เขาก็ชังโยเซฟ หาพูดดีต่อโยเซฟไม่ 5 ฝ่ายโยเซฟได้นิมิตต์ฝันก็เล่าให้พี่ชายฟัง: เขาก็ยิ่งชังโยเซฟมากขึ้นกว่าแต่ก่อน. 6 โยเซฟได้บอกแก่พี่ชายว่า “ขอท่านทั้งหลายจงฟังความฝัน: 7 ฉันได้ฝันว่าเราทั้งหลายกำลังตัดฟ่อนข้าวอยู่ที่นา; และนี่แหละฟ่อนข้าวของฉันตั้งขึ้นยืนอยู่แต่ฟ่อนข้าวของพวกพี่มาแวดล้อมกราบไหว้ฟ่อนข้าวของฉัน.” 8 พวกพี่ชายจึงถามโยเซฟว่า, “เจ้าได้ครอบครองเราจริงหรือ?” เราทั้งหลายจะอยู่ในอำนาจของเจ้าจริงหรือ? พวกพี่ชายก็ยิ่งชังโยเซฟมากขึ้นอีกเพราะความฝัน, และเพราะคำที่เขากล่าวนั้น. 9 โยเซฟก็ได้ฝันอีก, จึงเล่าให้พี่ชายฟังว่า, “ฉันได้ฝันเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวสิบเอ็ดดวงได้กราบไหว้ฉัน.” 10 เมื่อเล่าให้บิดาและพวกพี่ชายฟัง, บิดาก็ห้ามโยเซฟเสียว่า. “ความฝันที่เจ้าได้ฝันนั้นเป็นอย่างไรเล่า? เรากับมารดาและพี่ชายทั้งหลายของเจ้าจะมาซบหน้าลงถึงดินกราบไหว้เจ้าจริงหรือ?” 11 พี่ชายทั้งหลายก็อิจฉาโยเซฟ; แต่ข้อความนั้นบิดาก็นิ่งตรองอยู่ในใจ 12 เวลาที่พี่ชายพากันไปเลี้ยงสัตว์ของบิดาที่เมืองเซเค็ม, 13 ยิศราเอลจึงพูดแก่โยเซฟว่า, “พี่ชายของเจ้าเลี้ยงฝูงสัตว์อยู่ที่เมืองเซเค็มมิใช่หรือ? พ่อจะใช้เจ้าไปหาพี่ชาย.” โยเซฟตอบว่า, “ฉันอยู่นี่จ้ะ.” 14 บิดาจึงสั่งว่า, “จงไปดูว่าพี่ชายของเจ้าและฝูงสัตว์สบายดีอยู่หรือไม่; แล้วจึงกลับมาบอกให้พ่อรู้.” บิดาจึงใช้ให้เขาไปจากที่ราบเฮ็บโรน ไปยังเมืองเซเค็ม. 15 มีคนหนึ่งได้พบโยเซฟเดินไปเดินมาตามนา, จึงถามว่า, “เจ้าหาอะไร?” 16 โยเซฟตอบว่า, “ฉันหาพี่ชายของฉัน: โปรดบอกฉันทีว่าเขาเลี้ยงสัตว์อยู่ที่ไหน.” 17 คนนั้นตอบว่า, “เขาไปเสียแล้ว; เราได้ยินเขาพูดกันว่าจะไปเมืองโดธาน.” โยเซฟก็ตามไป, และได้พบพวกพี่ชายที่เมืองนั้น 18 เมื่อพี่ชายเห็นโยเซฟแต่ไกล, ยังไม่ทันมาถึง, เขาก็พากันคิดปองร้ายจะฆ่าเสีย. 19 เขาจึงพูดกันว่า, “ดูเถิด, นักช่างฝันมาแล้ว. 20 ให้พวกเราฆ่ามันเสียทิ้งลงไว้ในบ่อ, และเราจะว่าสัตว์ร้ายกัดกินเสียแล้ว: เราจะดูว่าความฝันนั้นจะเป็นอย่างไร” 21 ฝ่ายรูเบ็นพอได้ยินดังนั้น, ก็ช่วยโยเซฟให้พ้นมือพวกพี่ชายเหล่านั้นและพูดว่า, “เราอย่าฆ่ามันเลย.” 22 รูเบ็นได้เตือนเขาอีกว่า, “อย่าทำให้เลือดตกเลย; จงทิ้งมันในบ่อที่ป่านี้; อย่าได้ลงมือทำร้ายน้องเลย:” รูเบ็นหมายจะช่วยน้องให้พ้นมือพี่ชาย, จะได้ส่งกลับไปยังบิดา 23 ครั้นเมื่อโยเซฟมาถึงพี่ชายก็ถอดเสื้อของโยเซฟออกเสีย, คือเสื้อยาวมีแขนที่ใส่อยู่นั้น; 24 เขาก็จับตัวทิ้งลงในบ่อ; บ่อนั้นแห้งไม่มีน้ำ 25 เมื่อเขานั่งกินขนมอยู่ก็เงยหน้าขึ้นเห็นพวกยิศมาเอลมาแต่เมืองฆิละอาด, มีฝูงอูฐบรรทุกกำยานยางไม้ และเครื่องหอมต่างๆ จะไปขาย ณะ เมืองอายฆุบโต. 26 ยูดาจึงเตือนพี่น้องว่า, “ซึ่งเราจะฆ่าน้องซ่อนเลือดไว้จะมีประโยชน์อันใดเล่า? 27 มาเถิด, จงให้เราขายน้องแก่พวกยิศมาเอล, แต่อย่าลงมือทำร้ายเขา, เพราะเขาก็เป็นน้องเป็นเลือดเนื้ออันเดียวกันกับเรา.” พี่ชายทั้งปวงก็เชื่อฟัง. 28 ขณะนั้นพวกพ่อค้าชาวมิดยานก็มาถึงที่นั่น; พี่ชายก็ฉุดโยเซฟขึ้นมาจากบ่อ, ขายให้แก่พวกยิศมาเอลได้เงินยี่สิบแผ่น. พ่อค้านั้นก็พาโยเซฟไปเมืองอายฆุบโต 29 ฝ่ายรูเบ็นเมื่อกลับมาถึงบ่อนั้น, แลดูไม่เห็นโยเซฟ ก็ฉีกเสื้อผ้าของตนเสีย; 30 แล้วไปหาน้องทั้งปวงบอกว่า, “เด็กนั้นหายไปแล้ว; เราจะกลับไปอย่างไรได้?” 31 เขาก็พากันฆ่าลูกแพะตัวผู้ตัวหนึ่ง, แล้วชุบเสื้อของโยเซฟลงในเลือดแพะนั้น, 32 ส่งเสื้อยาวมีแขนนั้นไปยังบิดา บอกว่า, “พวกข้าพเจ้าเก็บเสื้อนี้ได้: ท่านจงพิเคราะห์ดูว่าเป็น เสื้อของบุตรท่านหรือไม่ใช่.” 33 บิดาจำได้จึงว่า, “นี่เป็นเสื้อของบุตรเราแท้ ๆ; สัตว์ร้ายได้กัดกินโยเซฟบุตรเราย่อยยับเสียแล้วเป็นแน่.” 34 ยาโคบก็ฉีกเสื้อผ้าของตนเสีย, และนุ่งผ้าเนื้อหยาบ, ร้องไห้โศกเศร้าถึงบุตรอยู่หลายวัน. 35 ฝ่ายบุตรชายหญิงทั้งปวงก็พากันมาเล้าโลมบิดา; แต่ท่านกลั้นความโศกเศร้าไว้มิได้; จึงกล่าวว่า, “เราจะโศกเศร้าถึงบุตรของเรากว่าเราจะลงในที่ฝังศพตามกันไป;” แล้วก็ร้องไห้ไว้ทุกข์ถึงโยเซฟ. 36 พวกมิดยานก็พาโยเซฟไปขายไว้กับขุนนางผู้หนึ่งชื่อโพติฟา, ผู้บัญชาการทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ของกษัตริย์ฟาโรในเมืองอายฆุบโต |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society