ปฐมกาล 30 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 เมื่อนางราเฮ็ลเห็นว่าตนไม่มีบุตรกับยาโคบก็อิจฉาพี่สาวของตน, บอกยาโคบว่า, “ขอให้ฉันมีบุตรด้วย; ถ้าหาไม่ฉันจะตาย” 2 ยาโคบก็โกรธเคืองนางราเฮ็ลจึงว่า, “เราเป็นเหมือนพระเจ้าผู้ไม่ให้เจ้ามีบุตรหรือ?” 3 นางจึงบอกว่า, “นี่แหละ บีละฮาเป็นสาวใช้ของฉัน จงเข้าไปสมสู่อยู่กับเขาเถิด; เขาจะได้คลอดบุตรเลี้ยงไว้ที่ตักของฉัน, ฉันจะได้ตั้งวงศ์ด้วยหญิงคนนี้” 4 นางจึงยกบีละฮาสาวใช้ของตนให้เป็นอนุภรรยาของยาโคบ, ยาโคบก็ได้สมสู่อยู่กับนางนั้น; 5 บีละฮาก็มีครรภ์กับยาโคบและคลอดบุตร. 6 นางราเฮ็ลว่า, “พระเจ้าผู้ทรงพิพากษาชำระความข้าพเจ้าได้ทรงสลับฟังเสียงข้าพเจ้าทูลจึงให้มีบุตรชาย” เหตุฉะนี้นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าดาน (พิพากษา). 7 บีละฮาสาวใช้ของนางราเฮ็ลมีครรภ์กับยาโคบและคลอดบุตรชายอีกคนหนึ่ง; 8 ราเฮ็ลจึงว่า, “ข้าพเจ้าจะปล้ำต่อสู้กับพี่สาวของข้าพเจ้ามาก, และได้ชัยชะนะแล้ว:” นางจึงให้ชื่อบุตรนั้นว่า, นัฟธาลี (ปลา) 9 ฝ่ายนางเลอาเมื่อเห็นว่าตนไม่มีบุตรอีก, จึงยกซีละพาสาวใช้ของตนให้เป็นอนุภรรยาของยาโคบ. 10 ซีละพาสาวใช้ของเลอาก็มีบุตรชายกับยาโคบ. 11 นางเลอาว่า, “ได้ลาภดี.” จึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าฆาด (ลาภดี) 12 แล้วซีละพาสาวใช้ของเลอาคลอดบุตรชายอีกคนหนึ่ง; 13 เลอาก็ว่า, “ข้าพเจ้าได้ความสุข; พวกสตรีคงจะเรียกข้าพเจ้าว่าเป็นสุข” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าอาเซ็ร (สุข) 14 ครั้นถึงฤดูเกี่ยวข้าวสาลีรูเบนก็ออกไปที่นาเก็บผลต้นดูดาอิมมาให้นางเลอามารดา; ราเฮ็ลจึงพูดแก่เลอาว่า, “ขอผลดูดาอิมของบุตรของพี่ให้ฉันบ้าง.” 15 เลอาตอบว่า, “น้องได้แย่งสามีของฉันไปแล้ว, มิหนำซ้ำจะเอาผลดูดาอิมของบุตรน้อยด้วยหรือ?” ราเฮ็ลตอบว่า, “ถ้าให้ผลดูดาอิมแก่ฉันคืนวันนี้ฉันจะให้สามีไปอยู่กับพี่.” 16 ครั้นยาโคบกลับมาจากนาเวลาเย็น, เลอาก็ออกไปต้อนรับบอกว่า, “จงมาอยู่กับฉันเถิด, เพราะฉันให้ผลดูดาอิมของบุตรเป็นสินจ้างท่านแล้ว.” ในคืนวันนั้นยาโคบก็เข้าอยู่กับเขา. 17 พระเจ้าได้ทรงสดับฟังเลอาโปรดให้มีครรภ์กับยาโคบอีก และคลอดบุตรชายที่ห้า. 18 ฝ่ายเลอาว่า, “พระเจ้าทรงพระราชทานสินจ้างนั้นให้แก่ข้าพเจ้า, เพราะข้าพเจ้ายกหญิงใช้ให้สามี.” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่ายิซาคาร (สินจ้าง). 19 ต่อไปเลอาก็มีครรภ์กับยาโคบอีกและคลอดบุตรชายที่หก. 20 เลอาจึงว่า, “พระเจ้าทรงพระราชทานให้ข้าพเจ้ามีลาภผลอันดี; บัดนี้สามีคงจะอาศัยอยู่กับข้าพเจ้า, เพราะข้าพเจ้ามีบุตรชายด้วยกันหกคนแล้ว.” นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าซะบูโลน (อาศัย). 21 ต่อมาภายหลังนางก็คลอดบุตรอีกคนหนึ่ง, ตั้งชื่อว่าดีนา 22 พระเจ้าทรงระลึกถึงและสดับฟังราเฮ็ล, ทรงบันดาลให้นางมีครรภ์. 23 นางก็มีครรภ์คลอดบุตรชาย, จึงกล่าวว่า, “พระเจ้าได้ทรงโปรดยกความอดสูของข้าพเจ้าเสียแล้ว.” 24 นางจึงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าโยเซฟ (เพิ่ม): หมายว่า, “ขอให้พระยะโฮวาทรงโปรดเพิ่มบุตรชายอีกให้ข้าพเจ้า.” 25 ครั้นเมื่อนางราเฮ็ลคลอดโยเซฟบุตรนั้นแล้ว, ยาโคบก็บอกลาบานว่า, “ขออนุญาตให้ข้าพเจ้ากลับไปบ้านเกิดเมืองบิดรของข้าพเจ้าเถิด. 26 ขอปล่อยภรรยาซึ่งเป็นค่าจ้างกับบุตรให้ข้าพเจ้าพาไป; เพราะการที่ข้าพเจ้าได้รับใช้ท่านนั้น, ท่านก็ทราบอยู่แล้ว.” 27 ลาบานจึงตอบว่า, “ถ้าเจ้าพอใจในลุง, อย่าเพ่อไป: ด้วยลุงรู้ว่าพระยะโฮวาได้ทรงอวยพรเราเพราะเจ้า.” 28 ลาบานพูดต่อไปว่า, “เจ้าจะเรียกค่าจ้างเท่าไร? จงบอกเถิด; ลุงยอมให้.” 29 ยาโคบบอกว่า, “ฉันได้รับใช้ลุงและได้เลี้ยงสัตว์ของลุงอย่างไร, ลุงก็ทราบอยู่แล้ว. 30 ด้วยก่อนฉันมานั้นลุงมีแต่น้อย; บัดนี้ก็มีทวีขึ้นเป็นอันมาก; ตั้งแต่นั้นมาอยู่พระยะโฮวาได้ทรงอวยพรแก่ลุง, และฉันจะบำรุงครอบครัวของตนเองด้วยเมื่อไรเล่า?” 31 ลาบานจึงถามว่า, “ควรเราจะให้เจ้าเท่าไร?” ยาโคบตอบว่า, “ค่าจ้างนั้นไม่รับ, แต่หากว่าลุงจะตกลงกับฉันดังนี้, ฉันจะเลี้ยงระวังสัตว์ของลุงต่อไป. 32 วันนี้ฉันจะไปที่ฝูงสัตว์ของลุง, และจะเลือกคัดเอาโคที่สีลายสีด่างในฝูงนั้น และแกะที่สีดำในฝูงแกะและแพะที่สีลายและสีด่างในฝูงแพะ, ให้สัตว์สีเหล่านี้เป็นค่าจ้างของฉัน. 33 เมื่อทำดังนี้ความซื่อตรงของฉันจะได้ปรากฏในเวลาภายหน้า: คือเมื่อลุงจะมาตรวจดูค่าจ้างของฉันในฝูงแพะนั้น, ตัวไหนที่ไม่ลายไม่ด่างหรือในฝูงแกะที่ไม่ดำ, สัตว์เหล่านี้ให้ถือเสียว่าฉันยักยอกเอามา.” 34 ลาบานจึงตอบว่า, “ดีแล้ว, จงให้เป็นอย่างนั้นเถิด.” 35 ในวันนั้นเขาก็ได้เลือกคัดแพะตัวผู้ที่ลายด่างและแพะตัวเมียด่างดาวทุกตัวที่มีสีขาวหน่อยหนึ่ง, และแกะสีดำในฝูงแกะออกมามอบไว้กับบุตรชาย. 36 เขาได้แยกกันออกไปห่างไกลจากยาโคบเป็นระยะทางสามวัน: สัตว์ของลาบานที่เหลืออยู่นั้น ยาโคบก็ได้เลี้ยงไว้ 37 ฝ่ายยาโคบได้ตัดกิ่งไม้สดที่ตรงแต่ต้นปอปลาต้นอาลมอนและต้นเปลนมาลอกเปลือกให้ออกเป็นรอยขาว ๆ, 38 ไปวางไว้ในรางต่อหน้าฝูงสัตว์ที่มากินน้ำ; สัตว์ก็มีท้องในขณะที่มากินน้ำนั้น. 39 สัตว์ตัวเมียเมื่อมาสมจรตรงไม้นั้นก็ออกลูกเป็นสีด่างสีดาวลายต่างๆ. 40 ยาโคบก็ได้แยกลูกแกะออกจากฝูง, ให้ฝูงนั้นอยู่ตรงหน้าแกะที่มีสีด่างสีดำในฝูงของลาบาน: แต่ฝูงสัตว์ของตนนั้นให้อยู่ต่างหาก, ไม่ให้ปะปนกับฝูงสัตว์ของลาบาน. 41 อยู่มาเมื่อสัตว์ที่กำลังมากและอ้วนพีจะมีท้อง, ยาโคบก็จัดไม้ที่ลอกเปลือกนั้นไปวางไว้ที่รางน้ำ, ให้มันเห็นเมื่อมันจะมีท้อง. 42 ฝ่ายสัตว์ที่มีกำลังน้อยยาโคบก็ไม่ได้ใส่ไม้นั้นไว้: เหตุฉะนั้นสัตว์ที่มีกำลังน้อยจึงตกเป็นของลาบาน, แต่สัตว์ที่มีกำลังมากเป็นของยาโคบ. 43 ยาโคบก็มั่งมีมากขึ้น, มีฝูงโคและทาสชายหญิงและฝูงอูฐฝูงลา |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society