ปฐมกาล 25 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 อับราฮามมีภรรยาอีกคนหนึ่งชื่อคะตูรา. 2 นางคนนี้มีบุตรกับอับราฮามชื่อซิมรานยัคซาน, มาดาน, มิดยาน, ยิศบาค, และซูฮา. 3 ยัคซานมีบุตรชายชื่อซะบาและดะดาน; บุตรชายของดะดานชื่ออาซูริม, ละตูชีมและละอูมิม. 4 บุตรชายของมิดยานชื่อเอฟา, เอเฟร, ฮะโนค, อะปิดา, และเอลดาลา. คนเหล่านี้เป็นบุตรหลานนางคะตูรา. 5 อับราฮามก็ได้มอบทรัพย์มรดกทั้งสิ้นให้ยิศฮาค. 6 ส่วนบุตรชายทั้งหลายของภรรยาน้อยของอับราฮาม, อับราฮามก็แบ่งปันทรัพย์สิ่งของให้บ้าง; และให้ไปเสียจากยิศฮาคบุตรชายของตนยังตำบลเมืองข้างทิศตะวันออกเมื่ออับราฮามยังมีชีวิตอยู่ 7 คำนวนอายุอับราฮามได้ร้อยเจ็ดสิบห้าปี. 8 อับราฮามมีอายุบริบูรณ์จนแก่ชะราลงมาก แล้วก็สิ้นชีวิตร่วมอยู่กับบรรพบุรุษของตน. 9 ส่วนยิศฮาคกับยิศมาเอลบุตรชายได้ฝังศพของอับราฮามบิดาไว้ที่ถ้ำมักเพลาอยู่ตรงตำบลมัมเรที่นาของเอฟโรนบุตรชายของโซฮัรชาติเฮธ, 10 เป็นนาที่อับราฮามได้ซื้อไว้จากพวกเฮธ, จึงได้ฝังศพ ท่านไว้ที่นั่นกับนางซาราผู้เป็นภรรยา. 11 ภายหลังเมื่ออับราฮามได้ตายแล้ว พระเจ้าทรงอวยพรให้ยิศฮาคบุตรชาย, และยิศฮาคได้ตั้งบ้านอยู่ริมบ่อน้ำชื่อลาฮายรอยนั้น 12 ลำดับนี้จะกล่าวด้วยวงศ์วานของยิศมาเอลบุตรชายของอับราฮาม, ที่นางฮาฆารชาติอายฆุบโตผู้เป็นทาสีของนางซาราได้มีกับอับราฮามนั้น. 13 บุตรชายของยิศมาเอลลำดับตามชื่อตามชั่วอายุมีชื่อดังนี้, คือนะบาโยธบุตรหัวปี, เคดาร, อัดเบล, มิบซาม, 14 มิศมา, ดูมา, มาซา, 15 ฮะดัด, เธมา, ยะตูระ, นาฟัศ, และเคดะมา: 16 คนเหล่านี้เป็นบุตรชายยิศมาเอล, ได้ชื่อตามหมู่บ้าน, และตามค่ายของเขา; สิบสองท่านนั้นเป็นเจ้านายสิบสองตระกูล. 17 เมื่อยิศมาเอลมีอายุได้ร้อยสามสิบเจ็ดปีแล้ว, ก็สิ้นชีวิตไปร่วมอยู่กับบรรพบุรุษ. 18 พวกยิศมาเอลได้อาศัยอยู่ตั้งแต่เมืองฮะวิลาจนถึงเมืองซูระ, ตรงกันกับอายฆุบโตตามทางที่ไปยังแผ่นดินอาซูระ; ยิศมาเอลได้ตั้งอยู่ตรงหน้าพี่น้องทั้งหลายของตน 19 ลำดับนี้จะกล่าวถึงวงศ์วานยิศฮาคบุตรชายของอับราฮาม: อับราฮามมีบุตรชายชื่อยิศฮาค: 20 พออายุยิศฮาคได้สี่สิบปีก็ได้นางริบะคาบุตรสาวบะธูเอลชาวเมืองซุเรียอยู่บ้านพาดันอะรำ คือน้องสาวของลาบานชาวเมืองซุเรียมาเป็นภรรยา. 21 เมื่อยิศฮาคได้อธิษฐานทูลพระยะโฮวาเพื่อภรรยาเพราะเป็นหมัน, พระยะโฮวาทรงโปรดสดับฟังคำอธิษฐานนั้น; นางริบะคาภรรยาของยิศฮาคจึงมีครรภ์. 22 เมื่อลูกแฝดในท้องของนางนั้นเบียดเสียดกัน, นางจึงคิดว่า, “เหตุไรเราจึงเป็นเช่นนี้?” นางก็ไปทูลถามพระยะโฮวา. 23 พระยะโฮวาตรัสแก่นางว่า, “ในครรภ์ของเจ้ามีอยู่สองชาติ; จะมีสองชาติคลอดออกจากท้องของเจ้า; ฝ่ายชาติหนึ่งจะมีกำลังมากกว่าอีกชาติหนึ่ง; พี่จะปรนนิบัติน้อง.” 24 เมื่อถึงเวลาคลอดบุตรก็เห็นว่าเป็นลูกแฝดอยู่ในครรภ์. 25 คนที่คลอดมาก่อนผิวเนื้อแดง, มีขนดุจเสื้อผ้าขนสัตว์ทั้งตัว; เขาเรียกชื่อว่าเอซาว. 26 ส่วนคนที่คลอดมาทีหลังมือก็จับซ่นเท้าของเอซาวไว้; เขาเรียกชื่อว่ายาโคบ. เมื่อนางริบะคาคลอดบุตรแฝดนั้นอายุยิศฮาคได้หกสิบปี 27 กุมารทั้งสองนี้ได้เจริญใหญ่ขึ้น: เอซาวเป็นพรานชำนาญป่า; ยาโคบเป็นคนหงิม, อยู่แต่ในทับอาศัย. 28 ฝ่ายยิศฮาคได้รักเอซาว, เพราะเคยรับประทานแกงเนื้อสัตว์ของเขา: แต่นางริบะคารักยาโคบ. 29 เมื่อยาโคบกำลังต้มผักอยู่, เอซาวกลับมาจากป่ามีความหิวโหยมาก, 30 จึงพูดกับยาโคบว่า, “ขอผักแดงนั้นให้พี่รับประทานบ้างเถิด, ด้วยพี่หิวโหยเต็มทนแล้ว” เหตุฉะนี้เขาจึงเรียกชื่อเอซาวว่า อะโดม (แดง). 31 ยาโคบตอบว่า, “วันนี้พี่จงขายสิทธิมรดกสำหรับบุตรหัวปีให้น้องเถิด.” 32 เอซาวก็พูดว่า, “นี่แหละ, เราจวนจะตายแล้ว; สิทธิมรดกสำหรับบุตรหัวปีนั้นจะเป็นประโยชน์อะไรแก่เราเล่า?” 33 ยาโคบว่า, “วันนี้พี่จงสาบาลให้น้องเถิด” เอซาวจึงสาบาลตัวขายสิทธิมรดกสำหรับบุตรหัวปีให้แก่ยาโคบ. 34 ยาโคบจึงส่งขนมและผักถั่วที่ต้มแล้วให้แก่เอซาว; เอซาวก็รับประทานและดื่ม, แล้วก็ลุกขึ้นไป; ดังนี้เอซาวได้ดูถูกสิทธิมรดกสำหรับบุตรหัวปีนั้น |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society