กาลาเทีย 4 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940ทรงใช้พระวิญญาณเข้ามาในใจท่าน 1 ข้าพเจ้าจึงพูดดังนี้ว่า, ตราบใดเมื่อทายาทยังเป็นเด็กอยู่. ถึงเขาเป็นเจ้าของสิ่งสารพัตร. 2 แต่เขาก็ไม่ต่างอะไรกันกับทาสคนหนึ่งเลย. แต่เขาอยู่ใต้บังคับผู้ปกครองและผู้ดูแลทรัพย์ จนถึงเวลาที่บิดาได้กำหนดไว้. 3 ฝ่ายเราก็เหมือนกัน เมื่อเป็นเด็กอยู่. เราก็เป็นทาสอยู่ใต้บังคับโลกธรรม 4 แต่เมื่อครบกำหนดแล้ว, พระเจ้าจึงทรงใช้พระบุตรของพระองค์มา. ให้ประสูติแต่สตรีและบังเกิดใต้พระบัญญัติ, 5 เพื่อจะทรงไถ่คนเหล่านั้นซึ่งอยู่ใต้พระบัญญัติ เพื่อเราจะได้กลับคืนเข้าตำแหน่งเป็นบุตร. 6 และเพราะท่านทั้งหลายเป็นบุตรแล้ว. พระเจ้าจึงทรงใช้พระวิญญาณแห่งพระบุตรของพระองค์เข้ามาในใจท่านทั้งหลาย ร้องว่า, “อาบา” คือพระบิดา. 7 เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจึงไม่ได้เป็นทาสต่อไป. แต่เป็นบุตร. ถ้าเป็นบุตรแล้ว, ท่านจึงเป็นทายาทโดยอาศัยพระเจ้า 8 แต่ครั้งเมื่อท่านทั้งหลายยังไม่รู้จักพระเจ้า, ท่านจึงได้เป็นทาสของอะไรๆ ซึ่งตามธรรมดาไม่ใช่เป็นพระเลย. 9 แต่บัดนี้ครั้นท่านทั้งหลายรู้จักพระเจ้าแล้ว. หรือพูดให้ถูกกว่า ก็ว่าพระเจ้าทรงรู้จักท่านทั้งหลาย, เป็นไฉนท่านจึงจะกลับไปหาโลกธรรมอันอ่อนแอและอนาถา, และอยากเป็นทาสสิ่งเหล่านั้นอีก? 10 ท่านก็ถือวัน เดือน ฤดู และปี. 11 ข้าพเจ้าวิตกถึงท่านทั้งหลาย, เกรงว่าที่ข้าพเจ้าได้กระทำการให้ท่านแล้วนั้นจะไร้ประโยชน์ พระคริสต์ได้ก่อกำเนิดขึ้นในตัวท่าน 12 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย. ข้าพเจ้าขอให้ท่านเป็นอย่างข้าพเจ้า, เพราะว่าข้าพเจ้าก็เคยเป็นอย่างท่าน, ท่านทั้งหลายไม่ได้ทำผิดสิ่งใดต่อข้าพเจ้าเลย. 13 แต่ท่านทั้งหลายรู้แล้วว่า ครั้งก่อนนั้นข้าพเจ้าได้ประกาศกิตติคุณแก่ท่านเพราะอ่อนกายอ่อนกำลัง 14 และการที่น่าจะเป็นที่ลองใจแก่ท่านเนื่องจากเนื้อหนังของข้าพเจ้า, ท่านทั้งหลายไม่ได้ประมาทหมิ่นหรือไม่ได้รังเกียจ แต่ได้ต้อนรับข้าพเจ้าไว้เหมือนเป็นเทวทูตของพระเจ้า, หรือเทียมองค์พระเยซูคริสต์ทีเดียว. 15 เหตุฉะนั้นความปลื้มใจของท่านไปไหนเสีย? เพราะว่าข้าพเจ้าเป็นพะยานให้ท่านทั้งหลายได้ว่า, ถ้าทำได้, ท่านก็คงได้ควักตาของท่านเองออกให้แก่ข้าพเจ้า. 16 ถ้าดังนั้นข้าพเจ้ากลับเป็นศัตรูของท่าน เพราะข้าพเจ้าได้ทำตรงไปตรงมากับท่านหรือ 17 คนเหล่านั้นมีใจร้อนรนไปมาหาสู่ท่านทั้งหลายมิใช่อย่างสุจริต, แต่เขาอยากจะกดกันพวกท่านเสียต่างหาก, เพื่อท่านจะได้ไปมาหาสู่พวกเขา. 18 การที่เขามีใจร้อนรนไปมาหาสู่ท่านทั้งหลายในทางดีทุกเวลาก็ดีอยู่แล้ว, ไม่ใช่แต่เมื่อข้าพเจ้าอยู่กับพวกท่านเท่านั้น. 19 ดูก่อนลูกเล็กๆ ที่รักของข้าพเจ้า, ข้าพเจ้าก็เจ็บปวดเพราะท่านทั้งหลายอีก, จนกว่าพระคริสต์จะได้ก่อกำเนิดขึ้นในทัวท่าน. 20 แต่ข้าพเจ้ากำลังใคร่จะอยู่กับพวกท่านเดี๋ยวนี้. ‘และเปลี่ยนเสียงพูดของข้าพเจ้า เพราะว่าข้าพเจ้าคิดฉงนพวกท่านนัก 21 ท่านทั้งหลายที่ใคร่อยู่ใต้พระบัญญัติ, ท่านไม่ได้ฟังพระบัญญัติหรือ จงบอกข้าพเจ้าเถิด. 22 เพราะมีคำเขียนไว้แล้วว่า, อับราฮามมีบุตรสองคน, คนหนึ่งบังเกิดแต่หญิงทาสี, คนหนึ่งบังเกิดแต่หญิงที่เป็นไทย. 23 แต่บุตรที่เกิดแต่หญิงทาสีนั้นก็บังเกิดตามเนื้อหนัง ฝ่ายบุตรที่เกิดแต่หญิงที่เป็นไทยนั้นบังเกิดตามคำสัญญา. 24 ข้อความนั้นเป็นปริศนา เพราะผู้หญิงทั้งสองนั้นได้แก่คำสัญญาสองอย่าง อย่างหนึ่งมีมาแต่ภูเขาซีนาย, ซึ่งเกิดลูกเป็นทาส, คือนางฮาฆาร. 25 นางฮาฆารนั้นได้แก่ภูเขาซีนายในประเทศอะราเบีย, ตรงกับกรุงยะรูซาเลมซึ่งมีอยู่เดี๋ยวนี้ เพราะกรุงนี้กับพลเมืองเป็นทาสอยู่. 26 แต่ว่าฆะรูซาเลมซึ่งอยู่เมืองบนนั้นเป็นไทย, คือเป็นมารดาของเราทั้งหลาย. 27 เพราะมีคำเขียนไว้แล้วว่า, โอหญิงหมันผู้ไม่บังเกิดลูก, จงยินดีเถิดหญิงที่ไม่เจ็บปวดคลอดลูก, “จงเปล่งสำเนียง. เพราะว่าลูกของหญิงซึ่งผัวร้างนั้น มากกว่าลูกของหญิงที่อยู่กับผัว. 28 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย, เราเป็นบุตรแห่งคำสัญญาเหมือนอย่างยิศฮาค. 29 แต่ผู้ที่บังเกิดตามเนื้อหนังได้ข่มเหงผู้ที่บังเกิดตามพระวิญญาณครั้งนั้นฉันใด, บัจจุบันนี้ก็เหมือนกันฉันนั้น. 30 แต่พระคัมภร์ว่าอย่างไร? ก็ว่า, “จงไล่หญิงทาสีนั้นทั้งบุตรชายของเขาไปเสีย เพราะว่าบุตรของหญิงทาสีนั้น จะแบ่งมฤดกกับบุตรของหญิงที่เป็นไทยไม่ได้.” 31 เหตุฉะนั้นดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย, เราไม่เป็นบุตรของหญิงทาสี, แต่เป็นบุตรของหญิงที่เป็นไทย |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society