เอษรา 8 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 และฝ่ายคนทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้พาขึ้นไปจากเมืองบาบูโลน, เมื่อรัชชกาลกษัตริย์อะระาสัศธา, นามหัวหน้าในเชื้อวงศ์บิดาทั้งหลายที่มีชื่อและเชื้อสายเป็นลำดับกันดังต่อไปนี้. 2 คือพงศ์พันธุ์ของฟีนะฮาศ; มีท่านเฆระโซม: พงศ์พันธุ์อิธามาร; มีท่านดานิเอล: พงศ์พันธุ์ของดาวิด; มีท่านฮาตูศ. 3 พงศ์พันธุ์ของฟาโรศเชื้อสายซะคานะยา; มีท่านซะคาระยา: และพร้อมกับท่านนับแต่ผู้ชายในบัญชีสำมะโนครัวของเขาได้ร้อยห้าสิบคน. 4 พงศ์พันธุ์ของฟาฮัศโมอาบ; มีท่านเอ็ลยะโฮเอนายบุตรชายเซลาฮะยา, และพร้อมกับท่านนั้นนับแต่ผู้ชายได้สองร้อยคน. 5 พงศ์พันธุ์ซะคานะยา, มีคนหนึ่งบุตรชายของยาฮาซิเฮล, และพร้อมกับท่านนั้นนับแต่ผู้ชายได้สามร้อยคน. 6 พงศ์พันธุ์ของอาดีน; มีท่านเอเบ็ดบุตรชายของโยนาธาน, และพร้อมกับท่านนั้นนับแต่ผู้ชายได้ห้าสิบคน. 7 พงศ์พันธุ์ของเอลาม: มีท่านยะซายาบุตรชายของอะธัลยา, และพร้อมกับท่านนั้นนับแต่ผู้ชายได้เจ็ดสิบคน. 8 พงศ์พันธุ์ของซะฟัดยา; มีท่านซะบัดยาบุตรชายของมีคาเอ็ล, และพร้อมกับท่านนั้นนับแต่ผู้ชายได้แปดสิบคน. 9 พงศ์พันธุ์ของโยอาบ; มีท่านโอบัดยาบุตรชายของยะฮีเอ็ล, และพร้อมกับท่านนั้นนับแต่ผู้ชายได้สองร้อยสิบแปดคน. 10 พงศ์พันธุ์ของซะโลมีธ; มีคนหนึ่งบุตรชายของโยซิฟยา, และพร้อมกับท่านนั้นนับแต่ผู้ชายได้ร้อยหกสิบคน. 11 พงศ์พันธุ์ของเบบาย; มีท่านซะคาระยาบุตรชายของเบบาย, และพร้อมกับท่านนั้นนับแต่ผู้ชายได้ยี่สิบแปดคน. 12 พงศ์พันธุ์ของอัศฆาด: มีท่านเยฮานานบุตรชายของฮาตาตาน, และพร้อมกับท่านนั้นนับแต่ผู้ชายได้ร้อยสิบคน. 13 พงศ์พันธุ์ของอะโตนีคาม, มีท่านอะลีเฟเล็ต, ยะฮีเอ็ล, ชะมายา, และพร้อมกับท่านเหล่านั้น, นับแต่ผู้ชายได้หกสิบคน. 14 พงศ์พันธุ์ของบิฆวาย; มีท่านอูธี, และซาบบุด, และพร้อมกับท่านเหล่านั้นนับแต่ผู้ชายได้เจ็ดสิบคน 15 และข้าพเจ้าได้ให้คนทั้งปวงมาชุมนุมที่ฝั่งแม่น้ำที่ไหลไปข้างเมืองอาฮะวา; และเราทั้งหลายได้ตั้งกะท่อมทับอาศัยอยู่ที่นั้นถึงสามวัน: และข้าพเจ้าได้ตรวจไพร่พล, และพวกปุโรหิต, แล้วเห็นว่าคนในตระกูลเลวีไม่มีเลย. 16 ข้าพเจ้าจึงได้เรียกท่านอาระเอเซร, อะรีเอ็ล, ซะมายา, เอ็ลนาธาน, ยารีม, เอ็ลนาธาน, นาธาน, ซะคาระยา, และมะซุลาม, คนหัวหน้าให้มา; และได้เรียกโยยารีบ, เอ็ลนาธาน, ผู้ประกอบด้วยสติปัญญาให้มาด้วย. 17 และข้าพเจ้าได้ใช้คนเหล่านั้นให้ไปหาท่านอีโดผู้เป็นหัวหน้าที่ตำบลชื่อคาซิพยา, และข้าพเจ้าได้สั่งเขาให้กล่าวแก่ท่านอีโด, และพวกนะธีนิม, พวกพ้องของท่านที่ตำบลคาซิพยานั้นว่า, จงส่งคนสำหรับปรนนิบัติที่พระวิหารของพระองค์พระเจ้าของพวกเรามาให้บ้าง. 18 และโดยความเมตตากรุณาแห่งองค์พระเป็นเจ้าของพวกข้าพเจ้า, เขาจึงได้จัดคนๆ หนึ่งประกอบด้วยสติปัญญาส่งมา, ชื่อเซเร็บยา, เป็นบุตรชายของมาลี ๆ บุตรชายของเลวี ๆ บุตรชายของยิศราเอล; และท่านเซเร็บยากับบุตรชายและพวกพี่น้องของท่านทั้งหมดด้วยกันนับได้สิบแปดคน; 19 และเขาได้นำฮะซับยา, ยะซายาพงศ์พันธุ์ของมะรารีสองคน, และสองคนนั้นกับบุตรชายและพวกพี่น้องทั้งหมดด้วยกันนับยี่สิบคน: 20 และฝ่ายพวกนะธีนิม, คนที่ท่านดาวิดกับเจ้านายได้ตั้งไว้ให้เป็นพนักงานรับรองพวกเลวีคนในพวกนั้น, ที่เขาได้จดรายชื่อไว้พร้อมนับได้สองร้อยยี่สิบคน 21 และที่ตำบลใกล้แม่น้ำอาฮะวานั้น ข้าพเจ้าได้ประกาศให้คนทั้งปวงถือศีลอดอาหารให้เป็นการถ่อมใจลงต่อพระพักตรพระองค์, เพื่อพระองค์จะได้ทรงพระเมตตากรุณาและคุ้มครองพวกข้าพเจ้าและลูกอ่อน, และทรัพย์สิ่งของทั้งปวงของพวกข้าพเจ้าให้ปราศจากอันตรายตามทาง. 22 เหตุว่าครั้นข้าพเจ้าจะทูลแก่กษัตริย์ว่า, ขอท่านได้จัดทหารเดินเท้าและทหารม้าสำหรับคุ้มครองป้องกันศัตรูตามทาง, ข้าพเจ้าก็มีความละอาย, ด้วยว่าข้าพเจ้าได้ทูลแก่กษัตริย์แล้วว่า, พระหัตถ์ของพระองค์พระเจ้าของพวกข้าพเจ้าย่อมทรงสถิตอยู่แล้วคุ้มครองคนทั้งปวงที่แสวงหาพระองค์; แต่พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และความพิโรธของพระองค์ย่อมต่อสู้คนทั้งปวงที่ละทิ้งพระองค์เสีย. 23 ข้าพเจ้ากับคนทั้งปวงจึงได้ถือศีลอดอาหารและแสวงหาพระองค์พระเจ้าของพวกข้าพเจ้าและทูลขอดังนั้น: และพระองค์ได้ทรงเมตตากรุณาโปรด 24 ข้าพเจ้าจึงไว้เลือกคนหัวหน้าในพวกปุโรหิตสิบสองคนคือ, ท่านเซเร็บยาคนหนึ่ง, ฮะซับยาคนหนึ่ง, กับญาติพี่น้องของเขาอีกสิบคน, 25 และข้าพเจ้าได้เอาเงิน; ทองคำ, และถ้วยชามทั้งปวง, คือเครื่องบรรณาการที่ท่านกษัตริย์และพวกเสนาบดี, และเจ้านาย, และพวกยิศราเอลทั้งปวงได้ถวายสำหรับโบสถ์วิหารของพระองค์พระเจ้าของพวกข้าพเจ้าขึ้นชั่งแล้วได้มอบไว้กับคนเหล่านั้น. 26 และข้าพเจ้าได้ชั่งของมอบไว้ในมือคนเหล่านั้นเป็นเงินหกร้อยห้าสิบตะลันต์, และถ้วยชามทำด้วยเงินน้ำหนักร้อยตะลันต์, และทองคำน้ำหนักร้อยตะลันต์; 27 กับขันทำด้วยทองคำยี่สิบใบ ๆ หนึ่งมีน้ำหนักร้อยแกรม; กับขันทำด้วยทองแดงวิเศษสองใบ, มีราคาเท่าทองคำ. 28 และข้าพเจ้าได้กล่าวแก่คนเหล่านั้นว่า, เจ้าทั้งหลายเป็นคนบริสุทธิ์ถวายแก่พระยะโฮวาแล้ว; และถ้วยชามทั้งปวงนี้เป็นของบริสุทธิ์ด้วย; และเงินและทองคำทั้งหมดนี้เป็นบรรณาการถวายแก่พระยะโฮวาพระเจ้าแห่งเชื้อวงศ์บิดาทั้งหลายของตน. 29 เจ้าทั้งหลายจงเฝ้ารักษาสิ่งของทั้งปวงนี้, กว่าจะได้ขึ้นชั่งต่อหน้าปุโรหิตใหญ่และพวกเลวี, และบิดาใหญ่หัวหน้าในพวกยิศราเอล, ที่ห้องไว้ทรัพย์ในโบสถ์วิหารของพระยะโฮวาที่กรุงยะรูซาเลม. 30 พวกปุโรหิตและพวกเลวีจึงได้จดน้ำหนักเงิน, ทองคำ, และถ้วยชาม, รับของนั้นไว้เพื่อจะได้ส่งไปยังกรุงยะรูซาเลมยังโบสถ์วิหารของพระองค์พระเจ้าของพวกข้าพเจ้า 31 เราทั้งหลายจึงได้ลาไปจากที่ตำบลใกล้แม่น้ำอาฮะวานั้นเพื่อจะขึ้นไปยังกรุงยะรูซาเลม, ณ เดือนอ้ายวันขึ้นสิบสองค่ำ, และพระหัตถ์ของพระองค์พระเจ้าของพวกข้าพเจ้าได้ทรงสถิตอยู่ด้วย, และพระองค์ได้คุ้มครองป้องกันให้พวกข้าพเจ้าพ้นมือศัตรู, และคนทั้งปวงที่คอยคิดจะทำร้ายตามทาง. 32 และเมื่อข้าพเจ้าทั้งหลายได้เดินทางมาถึงกรุงยะรูซาเลม, และได้พักอาศัยอยู่ที่นั่นถึงสามวันแล้ว 33 ก็ในวันที่สี่นั้นเขาได้เอาเงินและทองคำและถ้วยชามทั้งปวงนั้นขึ้นชั่งในโบสถ์วิหารของพระองค์มอบไว้ในมือท่านมะเรโมธบุตรชายของอูรียาผู้ปุโรหิต; และพร้อมกับท่านนั้นมีท่านเอละอาซารบุตรชายของฟีนะฮาศ; และโยซาบาดบุตรชายของยะโฮซูอะ; และโนอัดยาบุตรชายของบีนุย, ล้วนเป็นคนในตระกูลเลวี; 34 เขาได้เอาของทั้งปวงนั้นขึ้นชั่ง: และทุกสิ่งมีน้ำหนักเท่าไรเขาก็จดไว้ในวันนั้น. 35 และพงศ์พันธุ์เหล่าคนที่ต้องกวาดเอาไปเป็นชะเลย, ที่ได้กลับขึ้นมาจากตำแหน่งเป็นชะเลยนั้น, จึงได้เอาเครื่องบูชาเพลิงถวายแก่พระองค์พระเจ้าของพวกยิศราเอล, สำหรับไถ่โทษพวกยิศราเอลเป็นโคตัวผู้สิบสองตัว, และแกะตัวผู้เก้าสิบตัว, และลูกแกะเจ็ดสิบตัว, และแพะตัวผู้สิบสองตัว, สัตว์ทั้งปวงนั้นเขาได้บูชาด้วยเพลิงถวายแก่พระยะโฮวา 36 และเขาได้เอาราชสาส์นนั้นมอบไว้แก่นายทหารหลวง, และแก่เจ้าเมืองทั้งปวงที่แม่น้ำฟากฝั่งข้างนี้: และคนเหล่านั้นจึงได้ทำนุบำรุงพลไพร่, และโบสถ์วิหารของพระองค์ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society