เอษรา 10 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 อนึ่งเมื่อท่านเอษราได้อ้อนวอน, และได้สารภาพผิดด้วยการร้องไห้แล้ว, และกำลังเกลือกกลิ้งตัวลงต่อหน้าโบสถ์วิหารของพระองค์, มีทั้งชายหญิงและเด็กในพวกยิศราเอลมากหลายด้วยกันพากันมาหาท่าน, ด้วยว่าฝูงคนเป็นทุกข์ร้องไห้ยิ่งนัก. 2 และท่านซะคานะยาบุตรชายของยะฮีเอ็ล, ผู้เป็นพงศ์พันธุ์ของท่านเอลาม, ได้กล่าวตอบแก่ท่านเอษราว่า, พวกข้าพเจ้าได้หลงกระทำผิดต่อพระเจ้าของพวกข้าพเจ้าแล้ว, และได้รับบุตรหญิงแห่งชาวชนที่แผ่นดินนี้ไว้เป็นภรรยาของตนจริง: แต่ถึงกระนั้นในสิ่งเหล่านี้พวกยิศราเอลก็ยังมีช่องที่จะรอดได้. 3 เหตุฉะนั้น, บัดนี้ให้เราทั้งหลายทำคำสัตย์สาบานไว้ต่อพระองค์พระเจ้าของเราทั้งหลายว่า, จะอย่าเมียทั้งปวงนั้นให้เขากับลูกทั้งปวงที่เกิดด้วยเขาไปเสีย, ตามคำโอวาทของท่าน, และตามคำตักเตือนแห่งคนทั้งปวงที่กลัวเกรงต่อคำโอวาทของพระองค์พระเจ้าแห่งข้าพเจ้าทั้งหลาย: กระทำให้ถูกต้องตามพระบัญญัตินั้นทุกประการ. 4 จงลุกขึ้นเถิด; ด้วยว่าสิ่งเหล่านี้เป็นธุระของท่าน: และเราทั้งหลายนี้จะอยู่ฝ่ายท่าน ๆ จงมีน้ำใจกล้าขึ้นและกระทำเถิด. 5 ท่านเอษราจึงได้ลุกขึ้น, และได้บังคับคนหัวหน้าในพวกปุโรหิต, ในพวกเลวี, ในบรรดาพวกยิศราเอล, ให้กระทำสัตย์สาบานไว้ว่า, จะประพฤติตามคำเหล่านั้นทุกประการและคนทั้งปวงได้ให้คำสัตย์สาบานไว้ 6 ท่านเอษราจึงได้ลุกขึ้นจากที่ต่อหน้าโบสถ์วิหารของพระเจ้านั้น, เดินเข้าไปในห้องของท่านโยฮานานบุตรชายของเอ็ลยาซีพ: และเมื่อเข้าไปแล้ว, ท่านไม่ได้รับประทานอาหารและไม่ได้ดื่มน้ำ: ด้วยว่าท่านกำลังโศกเศร้าเพราะความหลงผิดแห่งคนทั้งปวงที่ต้องถูกกวาดเอาไปเป็นชะเลยนั้น. 7 และเขาทั้งหลายได้มีหมายประกาศทั่วแผ่นดินยะฮูดา, กรุงยะรูซาเลม. ประกาศแก่พงศ์พันธุ์แห่งคนทั้งปวง, ที่ต้องถูกกวาดเอาไปเป็นชะเลยนั้น, ให้ไปชุมนุมกันที่กรุงยะรูซาเลม. 8 และถ้าผู้หนึ่งผู้ใดไม่มาภายในกำหนดสามวันตามหมายประกาศแห่งเจ้านายและผู้เฒ่าผู้แก่ทั้งปวงแล้ว, ทรัพย์สิ่งของ ๆ ผู้นั้นจะริบเอาเป็นของหลวง, และผู้นั้นจะต้องตัดขาดจากพรรคพวกคนที่ต้องถูกกวาดเอาไปเป็นชะเลยนั้น 9 ชายทุกคนที่แผ่นดินยะฮูดาและที่แผ่นดินเบ็นยามินจึงได้ไปชุมนุมกันที่กรุงยะรูซาเลมภายในกำหนดสามวันนั้นคือในเดือนเก้า ณ วันที่ยี่สิบ; และฝูงคนทั้งปวงได้นั่งลงตามถนนตรงหน้าโบสถ์วิหารของพระองค์ด้วยความสะดุ้งหวาดหวั่นเพราะเหตุการณ์หลงผิดนั้น, และเพราะเหตุมีฝนตกหนักด้วย. 10 และท่านเอษราปุโรหิตได้ยืนขึ้น, และได้ประกาศแก่คนทั้งปวงว่า, เจ้าทั้งหลายได้หลงผิด, และได้รับผู้หญิงต่างประเทศมาเป็นภรรยา กระทำให้การหลงผิดแห่งพวกยิศราเอลมากทวีขึ้น. 11 เหตุฉะนั้น, บัดนี้จึงรับสารภาพผิดต่อพระยะโฮวาพระเจ้าแห่งเชื้อวงศ์บิดาทั้งหลายของตน, ประพฤติให้เป็นที่ชอบพระทัยพระองค์, แล้วจงแยกตัวออกห่างจากชาวชนแผ่นดินนี้, และจากภรรยาที่เป็นคนต่างด้าวทั้งปวงนั้น. 12 ฝูงคนทั้งปวงจึงได้ร้องตอบเป็นเสียงอันดังว่า, ท่านว่าอย่างไร ข้าพเจ้าทั้งหลายจำเป็นจะต้องทำตาม. 13 แต่พวกชุมนุมนี้เป็นคนมากหลายด้วยกัน, และทั้งเป็นเวลาฝนตกจะยืนที่ถนนไม่ได้, และการนี้ไม่ใช่การวันหนึ่งหรือสองวัน, ด้วยว่าคนที่หลงผิดในข้อนี้มีเป็นอันมาก. 14 บัดนี้ให้เจ้านายทั้งปวงอยู่แทนบรรดาพวกยิศราเอลและให้คนในเมืองทั้งปวงของข้าพเจ้าที่ได้รับเมียต่างประเทศนั้นมาเป็นหมู่ ๆ ตามเวลากำหนด, และให้ผู้เฒ่าผู้แก่และตุลาการทั้งปวงที่เมืองนั้นๆ ทุกเมืองขึ้นมาด้วย, กว่าความพิโรธแห่งพระองค์พระเจ้าของพวกข้าพเจ้าที่ได้พลุ่งขึ้นเพราะเหตุการณ์หลงนี้จะได้หันคลายไปจากพวกข้าพเจ้า 15 มีแต่โยนาธารบุตรชายของอาซาเอ็ลและยะฮีซียาบุตรชายของธิควาต่อสู้ขัดขวางในข้อนี้: และมะซุลามและซับธายคนในพวกเลวีได้ร้องหนุนเขา. 16 แต่ถึงกระนั้นพงศ์พันธุ์แห่งคนทั้งปวงที่ต้องกวาดเอาไปเป็นชะเลยนั้นได้ยอมทำและท่านเอษราผู้ปุโรหิต, กับคนหัวหน้าในบิดาใหญ่ทั้งปวงทุกคนตามเชื้อวงศ์บิดาทั้งหลายของตน, ตามที่เขาได้จดชื่อตั้งไว้นั้นในเดือนสิบวันค่ำหนึ่งได้ชุมนุมนั่งลงเพื่อจะพิพากษาเรื่องความนี้. 17 และฝ่ายคนทั้งปวงที่ได้รับเมียต่างประเทศนั้นเขาได้ชำระทุกคนจบลง ณ เดือนสี่วันค่ำหนึ่ง 18 และเมื่อชำระตามพงศ์พันธุ์ของพวกปุโรหิตจึงเห็นว่าคนที่ได้รับเมียต่างด้าวนั้นมีดังนี้: คือในพวกพงศ์พันธุ์ของท่านยะโฮซูอะบุตรชายของโยซาดาก, กับญาติพี่น้องของท่านนั้น: มีมะอาซะยา, อะลิเอเซร, ยาเร็บ, และฆะดัลยา. 19 และคนเหล่านั้นได้ลงมือปฏิญาณตัวว่าจะหย่าภรรยาทั้งหลายของเขานั้น; และเพราะเหตุความหลงผิด เขาจึงไว้เอาแกะตัวผู้มาบูชาถวายเป็นที่ไถ่ความหลงผิดของเขา. 20 และฝ่ายพงศ์พันธุ์ของอิเมร; มีฮะนานี, และซะบัดยา. 21 และฝ่ายพงศ์พันธุ์ของฮาริม; มีมะอาซายา, เอลิยา, ซะมายา, ยะฮีเอ็ล, และอุซิยา. 22 และฝ่ายพงศ์พันธุ์ของฟัศฮูร; มีเอ็ลโยเอนาย, มะอาซะยา, ยิศมาเอ็ล, นะธันเอ็ล. โยซาบาด, และเอลาซา. 23 และฝ่ายพวกเลวี: มีโยซาบาด, ซิมอี, เคลาย, ตะลีตา, ฟะธะยา, ยะฮูดา, และอะลีเซร. 24 และฝ่ายพวกขับเพลง; มีเอ็ลยาซีพ, และฝ่ายพวกเฝ้าประตู; มีซาลุม, เตเล็ม, และอูรี. 25 และส่วนบรรดาพวกยิศราเอล: ฝ่ายพงศ์พันธุ์ของฟาโรศ; มียะมายา, ยะซายา, มัลคิยา, มิยามีน, เอลอาซาร, มัลคิยา, และบะนายา. 26 และฝ่ายพงศ์พันธุ์ของเอลาม; มีมาธันยา, ซะคาระยา, ยะฮีเอ็ล, อับดี, ยะรีโมธ, และเอลิยา. 27 และฝ่ายพงศ์พันธุ์ของซาธู; มีเอ็ลโยเอนาย, เอ็ลยาซีพ, มาธันยา, ยกรีโมธ, ซาบาด, และอะซีซา. 28 และฝ่ายพงศ์พันธุ์ของเบบาย; มียะโฮฮานาน, ฮะนันยา, ชาบาย, และอัธลาย. 29 และฝ่ายพงศ์พันธุ์ของบานี; มีมะซุลาม, มาลูค, อะดายา, ยะซูบ, ซะอาล, และราโมธ. 30 และฝ่ายพงศ์พันธุ์ฟาฮัธโมอาบ; มีอัดนา, คะลาล, บะนายา, มะอาซะยา, บะซาเลล, บีนนูและมะนาเซ. 31 และฝ่ายพงศ์พันธุ์ของฮารีม; มีอาละเอเซร, ยิศฮียา, มัลคิยา, ซะมายา, และซีมีโอน, 32 เบ็นยามิน, มาลูค, และซะมันยา. 33 และฝ่ายพงศ์พันธุ์ของอาซุม; มีมาธะนาย, มาธาธา, ซาบาด, อะลีเฟเล็ต, ยะริมาย, มะนาเซ, และซิมอี. 34 และฝ่ายพงศ์พันธุ์ของบานี; มีมาอะดาย, อัมราม, และอูเอ็ล, 35 บะนายา, เบดะยา, คะลู, 36 วันยา, มะเรโมธ, เอ็ลยาซิพ, 37 มัธนายา, มาธะนาย, ยะฮาเซา, 38 บานี, และบีนุยและซิมอี, 39 และเซเล็มยา, และนาธาร, และอะดายา, 40 และมัคนาดีบาย, ซาซาย, ซาราย, 41 อะซัรเอ็ล, เซเล็มยา, ซะมันยา, 42 ซาลุม, อะมาระยา, โยเซฟ. 43 ฝ่ายพงศ์พันธุ์ของนะโบนา; แลยาเดาแลโยเอ็ลแลบะบายา 44 คนทั้งปวงนั้นได้เอาหญิงต่างประเทศมาเป็นภรรยา แลลางคนได้เกิดบุตรด้วยหญิงต่างประเทศเหล่านั้น |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society