ยะเอศเคล 3 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 และพระองค์ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า, บุตรมนุษย์เอ๋ย, ที่ท่านพบนั้น, ท่านจงกินเสีย, จงกินหนังสือม้วนนี้, แล้วจงไปว่ากล่าวแก่เรือนยิศราเอลเถิด. 2 ข้าพเจ้าอ้าปาก, และพระองค์ให้ข้าพเจ้ากินหนังสือม้วนนั้น. 3 พระองค์ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า, บุตรมนุษย์เอ๋ย, จงให้ท้องของท่านกิน, และให้ท้องของท่านเต็มด้วยหนังสือม้วนนี้ที่เราให้แก่ท่าน, ข้าพเจ้าจึงได้กิน, และหนังสือนั้นหวานดังน้ำผึ้งอยู่ในปากข้าพเจ้า. 4 พระองค์ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า, บุตรมนุษย์เอ๋ย, ท่านจงลุกขึ้นไปยังเรือนยิศราเอล, และกล่าวถ้อยคำของเราแก่เขา. 5 เพราะท่านมิได้รับใช้ไปยังพวกประเทศที่พูดลึกซึ้งเป็นภาษาพูดยาก, แต่ไปยังเรือนยิศราเอล. 6 มิใช่ยังประเทศเป็นอันมาก, ที่พูดลึกเป็นภาษายากที่ท่านมิได้เข้าใจถ้อยคำของเขา. แท้จริง, ถ้าเราได้ใช้ท่านไปถึงเขา, เขาคงจะได้เชื่อฟังท่าน, 7 และเรือนยิศราเอลจะไม่ยอมเชื่อฟังท่าน, เพราะเขาไม่ยอมฟังเรา, เพราะเรือนยิศราเอลเป็นหน้าด้านใจแข็งทั้งนั้น. 8 นี่แน่ะ, เราทำหน้าของท่านให้แข็งอยู่ต่อหน้าของเขา, ทั้งหน้าผากของท่านให้แข็งต่อหน้าผากของเขา. 9 เราทำหน้าผากของท่านให้เป็นดังเพ็ชรที่แข็งกว่าหิน, ท่านอย่าได้กลัวเขา, และอย่าตกตะลึงเพราะหน้าเขา, ด้วยว่าเขาเป็นเรือนกบฏ. 10 และพระองค์ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า, บุตรมนุษย์เอ๋ย, คำทั้งปวงของเรา, ซึ่งเราจะตรัสแก่ท่าน, ท่านจงรับไว้ในใจของท่าน, และฟังไว้ด้วยหูของท่าน. 11 และท่านจงลุกขึ้นไปยังพวกชะเลย. คือยังลูกหลานพวกประเทศของท่าน, และพูดแก่เขาและว่าแก่เขาว่าพระยะโฮวาเจ้าตรัสดังนี้, ถึงเขาจะฟังหรือมิฟัง 12 พระวิญญาณจึงยกข้าพเจ้าขึ้น, และข้าพเจ้าได้ยินเสียงเอิกเกริกดังอยู่ข้างหลังข้าพเจ้าว่า, สวัสดิมงคลจงมีแก่รัศมีของพระองค์เจ้าแต่ที่สถิตของพระองค์เถิด. 13 และมีเสียงปีกแห่งสัตว์ที่มีชีวิตนั้นถูกต้องกันและกัน, และเสียงกงจักร เหนือสัตว์ที่มีชีวิตนั้น, คือเสียงอึงเอิกเกริกดัง. 14 และพระวิญญาณยกข้าพเจ้าขึ้นและพาข้าพเจ้าไป, และข้าพเจ้าไปด้วยทุกข์และใจเดือดร้อน, และพระหัตถ์แห่งพระยะโฮวาวางเหนือข้าพเจ้าเป็นกำลัง. 15 และข้าพเจ้ามาถึงพวกชะเลยซึ่งอยู่ในตำบลเธลาบีบ, ที่อาศัย ณ ฝั่งแม่น้ำคะบาระ. และข้าพเจ้านั่งที่เขานั่ง, และอยู่ในท่ามกลางเขาที่นั้นเจ็ดวันตกตะลึงไป. 16 และเป็นมาเมื่อเจ็ดวันนั้นล่วงไปแล้ว, คำแห่งพระยะโฮวามาถึงข้าพเจ้าว่า. 17 บุตรมนุษย์เอ๋ย, เราตั้งท่านเป็นผู้ตรวจตราดูแลสำหรับเรือนยิศรเอล, ท่านจะต้องฟังคำแต่ปากเรา, และว่ากล่าวตักเตือนเขาเพราะเรา. 18 เมื่อเราว่าแก่คนบาปว่า, เจ้าจะต้องตายเป็นแท้, และท่านมิได้ตักเตือนว่ากล่าวเขา, และมิได้ตักเตือนว่ากล่าวคนบาปจากทางชั่วของเขา, เพื่อจะให้ชีวิตเขารอด, คนบาปนั้นจะตายในความชั่วของเขา, และโลหิตของเขาจะเรียกเอาจากมือของท่าน. 19 และถ้าท่านได้ตักเตือนว่ากล่าวคน, แต่เขามิได้กลับจากความชั่วของเขา, และจากทางชั่วของเขา, เขาก็จะตายในความชั่วของเขา, แต่ท่านจะทำชีวิตของตนให้รอด. 20 อนึ่งเมื่อผู้ชอบธรรมกลับจากการชอบธรรมของเขาและทำการชั่ว, และเราตั้งที่สะดุดตรงหน้าเขา, เขาจะตายเพราะท่านมิได้ตักเตือนว่ากล่าวเขา, เขาจะตายในการบาปของเขา, และความชอบของเขาซึ่งเขาได้ทำมาจะไม่เป็นที่ระลึกเลย. แต่โลหิตเขาเราจะเรียกเอาจากมือของท่าน, 21 แต่ถ้าท่านตักเตือนว่ากล่าวคนชอบธรรม, เพื่อผู้ชอบธรรมนั้นจะมิได้ทำบาป, และเขามิได้ทำบาป, เขาคงจะมีชีวิตอยู่เป็นแท้, เพราะเขาได้ถูกต้องคำตักเตือนว่ากล่าว, และท่านได้ทำชีวิตของตนให้รอด 22 และพระหัตถ์แห่งพระยะโฮวาอยู่เหนือข้าพเจ้า ณ ที่นั่น, แลพระองค์ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า, จงลุกขึ้นออกไปยังที่แผ่นดินราบเสมอ, และเราจะพูดกับท่าน ณ ที่นั่น, 23 ข้าพเจ้าจึงได้ลุกขึ้นออกไปยังที่แผ่นดินราบเสมอนั้น, และนี่แน่ะ, รัศมีแห่งพระยะโฮวาสถิตอยู่ ณ ที่นั่น, เหมือนกับรัศมีที่ข้าพเจ้าได้เห็น ณ ฝั่งแม่น้ำคะบาระ, และข้าพเจ้าจะซบหน้าลงยังพื้นดิน. 24 พระวิญญาณจึงเข้าสถิตในข้าพเจ้า, และทำข้าพเจ้าให้ยืนด้วยเท้าของข้าพเจ้า, และตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า, จงไปปิดบังตนอยู่ ณ เรือนของท่าน, 25 แต่ท่าน, บุตรมนุษย์เอ๋ย, นี่แน่ะ, เขาจะใส่เครื่องพันธนาการในท่าน, และเขาจะผูกท่านด้วยเครื่องพันธนาการนั้น, เพื่อจะมิให้ท่านออกไปในท่ามกลางเขา. 26 และเราจะทำให้ลิ้นของท่านติดกับเพดานของท่าน. และท่านจะเป็นใบ้, และท่านจะมิได้เป็นผู้ว่ากล่าวห้ามปราม. เพราะเขาเป็นเรือนกบฏ. 27 แต่เมื่อเราพูดกับท่าน, เราจะเปิดปากของท่าน, และท่านจะว่าแก่เขาว่า, พระยะโฮวาเจ้าตรัสดังนี้ผู้ที่ฟังก็ให้เขาฟัง, และผู้ที่ไม่ฟังก็ให้มิให้ฟัง, เพราะเขาเป็นเรือนกบฏ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society