ยะเอศเคล 17 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 คำของพระยะโฮวามายังข้าพเจ้าว่า, 2 บุตรมนุษย์เอ๋ย, จงพูดเป็นคำปริศนาและกล่าวเป็นคำสุภาษิตแก่เรือนยิศราเอล. 3 และจงว่าพระยะโฮวาเจ้าตรัสดังนี้ว่า, นกอินทรีตัวใหญ่นั้นมีปีกอันใหญ่และขนปีกก็ใหญ่, บริบูรณ์ด้วยขนสีลายต่างๆ, ได้มาถึงภูเขาละบาโนนและจิกยอดต้นสน. 4 มันจิกกิ่งยอดสนนั้น, และนำยอดไปถึงแผ่นดินที่ค้าขายวางไว้ในหัวเมืองแห่งพ่อค้าทั้งหลาย. 5 มันเอาเมล็ดตกดินนั้นไปด้วย, แล้วปลูกไว้ในที่สวนดินดี, มันนำไปที่ฝั่งแม่น้ำใหญ่ทั้งหลาย, วางมันไว้ดุจต้นลำภู. 6 มันได้งอกขึ้นและเจริญขึ้นดุจเถาองุ่นที่ต่ำทอดยอดออกไป, กิ่งทั้งหลายแห่งเถานั้นมันทอดไปถึงตัวนกอินทรีและรากทั้งหลายอยู่ใต้ตัวนกนั้นก็ได้เป็นเถาองุ่นเกิดกิ่งขึ้นและแตกกิ่งมีใบ. 7 มีนกอินทรีใหญ่ตัวอื่นมีปีกอันใหญ่และขนก็มาก, นี่แน่ะเถาองุ่นนี้มันชอนรากมาตรงตัวนกนี้, ยอดของมันก็โอนโน้มมาถึงนกนั้นเพื่อนกจะได้รดเถานั้นที่ร่องสวนของมันขึ้นนั้น. 8 เถานั้นต้องปลูกในสวนที่ดินดีริมท่อน้ำบริบูรณ์. เพื่อจะให้แตกกิ่งและเกิดผล, จึงจะได้เป็นเถาอันใหญ่ดี. 9 ท่านจงว่า, พระยะโฮวาเจ้าตรัสดังนี้ว่า, เถานั้นจะเจริญขึ้นได้หรือ, นกนั้นจะมิถอนเถามันเสียทั้งรากและตัดผลของ มันเสีย, เพื่อให้มันเหี่ยวหรือ, และเพื่อให้ใบอ่อนของมันแห้งไป, ก็ไม่ต้องมีกำลังและพลไพร่มากเพื่อจะถอนมันเสียทั้งมูลราก. 10 นี่แน่ะ, ถึงปลูกแล้วมันจะได้เจริญขึ้นหรือ, เมื่อลมทิศตะวันออกถูกต้องมันเข้าแล้วมันจะมิเหี่ยวระย่อไปทั้งนั้นหรือ, มันจะเหี่ยวอยู่ที่หลังร่องที่เกิดขึ้นแห่งมันนั้น. 11 อนึ่งคำของพระยะโฮวามายังข้าพเจ้าว่า, 12 แน่ะท่านจงว่าแก่เรือนกบฎว่า, ท่านทั้งหลายไม่รู้ว่าข้อความทั้งปวงนี้เป็นอย่างไรหรือจงว่าแก่เขาว่า, นี่แน่ะกษัตริย์บาบูโลนมาถึงยะรูซาเลม, และกวาดเอาทั้งกษัตริย์และเจ้าทั้งหลายแห่งยะรูซาเลมพาไปกับท่านถึงเมืองบาบูโลน, 13 และท่านเลือกเอาแต่เชื้อกษัตริย์ไป, และกระทำไมตรีแก่เชื้อกษัตริย์นั้น, และให้เขาตั้งสัตย์สาบานและท่านได้นำเสนามาตย์ที่มีฤทธิ์มากแห่งแผ่นดินไปเสีย. 14 เพื่อแผ่นดินนั้นจะได้ซุดต่ำหวังจะมิให้ตั้งตัวขึ้น, เพื่อจะได้รักษาไว้ซึ่งไมตรีของท่าน, และตั้งไว้ให้มั่นยั่งยืนไป. 15 แต่ (กษัตริย์ยะรูซาเลม) คิดกบฏแก่ท่านนั้น, ในที่ได้ให้พวกทูตไปยังเมืองอายฆุบโต, หวังพวกอายฆุบโตจะให้ม้าและคนแก่ท่านเป็นอันมาก, เขาจะเจริญขึ้นหรือ, ผู้ที่กระทำเช่นนี้เขาจะหนีพ้นได้หรือ, เขาจะหักไมตรีและยังจะหนีพ้นได้หรือ, 16 พระยะโฮวาเจ้าตรัสว่า, เรามีชีวิตอยู่ฉันใด, ผู้ที่ได้ดูหมิ่นคำสาบานและกำจัดเสียซึ่งความไมตรีแห่งกษัตริย์นั้น, ท่านก็จะตายไปด้วย กษัตริย์ในท่ามกลางบาบูโลน, ที่ตำบลแห่งกษัตริย์อันได้ดำรงตนขึ้นเป็นกษัตริย์ฉันนั้น. 17 ฟาโรประกอบด้วยพลโยธาอันใหญ่และมีคนเป็นอันมากจะมิได้ทำอะไรสำหรับท่านในการสงคราม, ด้วยการทำเชิงเทินและการก่อหอรบเพื่อจะตัดเสียซึ่งชีวิตคนเป็นอันมาก. 18 เพราะท่านได้ดูหมิ่นคำสาบานเพื่อจะผิดเสียซึ่งความไมตรี, และนี่แน่ะท่านได้ให้พระหัตถ์ของท่านและยังได้กระทำสิ่งทั้งปวงเหล่านี้, ท่านจะหนีไปพ้นมิได้, 19 เหตุฉะนี้พระยะโฮวาเจ้าตรัสดังนี้ว่า, เราเป็นอยู่ฉันใด, คำสาบานของเราที่ท่านได้ดูหมิ่นและไมตรีของเราที่ท่านได้ทำลายเสียเราจะให้คำนั้นเป็นไปเหนือศีรษะของท่านฉันนั้น. 20 และเราทอดอวนของเราเหนือท่านและท่านจะต้องติดในบ่วงแร้วของเราและเราจะนำท่านไปยังเมืองบาบูโลนแลจะคิดพิพากษาโทษด้วยท่านในที่นั่นเพราะการอสัตย์ของท่านที่ท่านได้ผิดต่อเรานั้น. 21 แต่บรรดาคนที่อพยพกับด้วยกระบวนทัพทั้งปวงแห่งท่านจะตกด้วยกะบี่, พวกที่เหลืออยู่นั้นจะกระจัดกระจายไปสู่ลม ทิศานุทิศ, และเจ้าทั้งหลายจะได้รู้ว่าเราคือยะโฮวาได้ตรัสนั้น 22 พระยะโฮวาเจ้าตรัสดังนี้ว่า, เราจะเอาแต่ยอดต้นสนที่สูงและตั้งไว้, เราจะหักแต่ยอดอ่อนแห่งกิ่งมันอันหนึ่ง, แล้วจะปลูกไว้บนภูเขาอันสูงเป็นที่ยิ่ง, 23 เราจะปลูกมันไว้บนภูเขาอันสูงแห่งยิศราเอล, มันจะยื่นกิ่งสูงขึ้นและเกิดผล, จะเป็นต้นสนอันงดงามประเสริฐ, และนกมีปีกทั้งปวงทุกอย่างจะอยู่ใต้ต้นไม้นั้น. มันจะอาศัยในร่มกิ่งทั้งปวงแห่งต้นไม้นั้น, 24 และบรรดาต้นไม้ในป่านั้นจะได้รู้ว่าเราคือยะโฮวายังต้นไม้ที่สูงให้ต่ำลง, ยังต้นที่ต่ำให้สูงขึ้น, กระทำให้ต้นที่สดนั้นแห้งไป, และให้ต้นแห้งนั้นสดเจริญขึ้น, เราคือยะโฮวาได้ตรัสและกระทำแล้ว |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society