เอ็กโซโด 21 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 “เหล่าข้อปฏิบัติที่ตั้งไว้ต่อไปนี้, เจ้าต้องประกาศให้เขาทั้งหลายรับรู้ไว้:” “ถ้าเจ้าจะซื้อชนชาติเฮ็บรายไว้เป็นทาส, เขาจะต้องปรนนิบัติเจ้าในเวลากำหนดหกปี: แต่ปีที่เจ็ดนั้นจงปล่อยเขาไปเป็นไทยเป็นอันหมดค่าตัว. ทาสซึ่งได้เข้ามาแต่ผู้เดียว, จงปล่อยเขาไปแต่ผู้เดียว: ถ้าเขามีภรรยา, ต้องปล่อยภรรยาของเขาไปด้วย. ถ้านายได้หาภรรยาให้เขา, และภรรยานั้นได้เกิดลูกชายหญิงด้วยกัน, ภรรยากับลูกนั้นจะเป็นคนของนาย, เขาจะออกไปเป็นไทยได้แต่ผู้เดียว. ถ้าทาสนั้นมากล่าวเป็นที่เข้าใจชัดเจนว่า, ข้าพเจ้ายังรักนายและลูกเมียของข้าพเจ้าอยู่; ข้าพเจ้าไม่อยากออกไปเป็นไทย: ให้นายพาทาสนั้นไปหาตุลาการ, พาเขาไปถึงประตู, หรือถึงเสาแม่ประตู, แล้วให้นายเจาะหูเขาด้วยเหล็กหมาด; แล้วเขาก็จะปรนนิบัตินายต่อไปจนชีวิตหาไม่.” “ถ้าแม้คนใดจะขายบุตรให้เป็นทาสี, หญิงนั้นจะมิได้หลุดพ้นเป็นไทยเหมือนทาสา. ถ้านายที่ได้ช่วยเขาไว้ไม่พอใจรับหญิงนั้นเป็นภรรยา, ต้องยอมให้คนอื่นนำเงินมาไถ่เขาไป: แต่ไม่มีอำนาจขายหญิงนั้นให้แก่ชาวต่างประเทศ, เพราะได้ทำผิดฐานหลอกลวงหญิงนั้นแล้ว. ถ้าแม้นายจะยกหญิงนั้นให้เป็นภรรยาลูกชายของตน, ก็ให้เขาอีกคนหนึ่งแสดงกิริยาต่อหญิงนั้นดุจเป็นบุตรสาวของตน. ถ้าเขาได้หาหญิงอื่นมาเป็นภรรยา; อย่าให้เขาขาดบำรุงเรื่องอาหารการกิน, เสื้อผ้า, และประเพณีผัวเมียกับคนเก่า. ถ้าเขามิได้บำรุงหญิงเก่านั้นทั้งสามประการนี้, หญิงนั้นจะไปเสียเฉยๆ ได้, โดยไม่ต้องเสียเงินไถ่ค่าตัวเลย.” “ผู้ใดทุบตีคนหนึ่งให้ตาย, ผู้นั้นจำต้องรับโทษถึงตายเหมือนกัน. ถ้าผู้ใดมิได้เจตนาจะทำเขาให้ตาย, แต่เขาตายเนื่องด้วยอุปัทวะเหตุซึ่งพระเจ้าทรงปล่อยให้เกิดขึ้นด้วยมือของเขา, เราจะตั้งตำบลไว้แห่งหนึ่งให้เขาหนีไปที่นั่น. แต่ถ้าผู้ใดจงใจเจตนากระทำแก่เพื่อนบ้านให้เขาตาย, หากผู้นั้นจะหนีไปถึงแท่นบูชาของเรา, ก็ให้ลากเขาไปทำโทษจนถึงตาย.” “ผู้ใดทุบตีบิดามารดาของตน, ผู้นั้นจะต้องถูกปรับโทษถึงตายเป็นแน่.” “ผู้ใดลักคนไปขายก็ดี, หรือมีผู้พบคนที่ถูกลักไปอยู่ในมือของผู้นั้นก็ดี, ผู้ลักนั้นจะต้องถูกปรับโทษถึงตายเป็นแน่.” “ผู้ใดด่าแช่งบิดามารดาของตน, ผู้นั้นต้องถูกปรับโทษถึงตายเป็นแน่.” “ถ้ามีผู้วิวาทกัน, และฝ่ายหนึ่งเอาหินขว้างหรือชก, แต่อีกฝ่ายหนึ่งนั้นไม่ถึงแก่ความตาย, เป็นแต่เจ็บป่วยต้องนอนอยู่: ถ้าผู้ที่ถูกเจ็บนั้นลุกขึ้นถือไม้เท้าเดินได้อีก, ผู้ตีนั้นก็พ้นโทษ: แต่เขาจะต้องเสียค่าป่วยการ, และค่ารักษาบาดแผลจนหายเป็นปกติ.” “ถ้าผู้ใดทุบตีทาสชายหญิงด้วยไม้จนตายคามือของตน, ผู้นั้นต้องถูกปรับโทษเป็นแน่. หากว่าทาสนั้นมีชีวิตต่อไปได้วันหนึ่งหรือสองวันจึงตาย, นายก็พ้นโทษ: เพราะค่าของทาสนั้นเป็นเงินของนาย.” “ถ้ามีผู้ตีกันและบังเอิญไปถูกหญิงมีครรภ์ทำให้แท้งลูก, แต่หญิงนั้นไม่เป็นอันตรายต้องปรับผู้นั้นตามแต่สามีของหญิงนั้นจะเรียกร้องเอาจากเขา, และตามตุลาการจะตัดสินให้เสียเท่าไร. ถ้าหากว่าเป็นเหตุให้เกิดอันตรายประการใด, ก็ให้วินิจฉัยดังนี้คือชีวิตแทนชีวิต, ตาแทนตา, ฟันแทนฟัน, มือแทนมือ, เท้าแทนเท้า, ไหม้แทนไหม้, แผลแทนแผล, รอยตีแทนรอยตี.” “ถ้าผู้ใดตีตาของทาสชายหญิงให้บอดไป, จงให้เขาปล่อยทาสผู้นั้นเป็นไทยเนื่องด้วยตาของเขา. ถ้าผู้ใดทำฟันทาสชายหญิงให้หลุดไป, จงให้เขาปล่อยทาสนั้นไปเป็นไทยเนื่องด้วยฟันของเขา.” “ถ้าโคผู้ขวิดชายหญิงถึงตาย, จึงเอาหินขว้างโคนั้นให้ตาย, และเนื้อของมันอย่ากินเลย; แต่เจ้าของโคนั้นไม่มีโทษ. แต่หากว่าโคนั้นเคยขวิดคนมาแต่ก่อน และมีผู้มาแจ้งความให้เจ้าของทราบ, แล้วแต่เจ้าของมิได้กักขังมันไว้, มันจึงได้ขวิดชายหญิงถึงตาย; จงเอาหินขว้างโคนั้นเสีย, และจงลงโทษให้เจ้าของตายตกไปตามกันด้วย, แต่ถ้าจะปรับเอาเงินแทนชีวิตของผู้นั้น, เขาต้องเสียให้ตามกำหนด, ตามแต่ตุลาการจะตัดสิน. หากโคนั้นจะขวิดบุตรชายหรือบุตรหญิง, ก็จงปรับโทษตามกฎหมายข้อนี้ดุจกัน. ถ้าโคนั้นขวิดทาสชายหญิงของผู้ใด, เจ้าของโคต้องให้เงินแก่นายของทาสนั้นสี่สิบบาท, แล้วต้องเอาหินขว้างโคนั้นให้ตายเสียด้วย.” “ถ้าผู้ใดเปิดบ่อหรือขุดบ่อมิได้ปิดไว้, แล้วมีโคหรือลาตกลงไปตายในบ่อนั้น, เจ้าของบ่อต้องเสียเงินค่าสัตว์นั้นๆ ให้แก่เจ้าของ; และซากสัตว์ที่ตายนั้นจะเป็นของเจ้าของบ่อ.” “ถ้าโคของผู้ใดขวิดโคของผู้อื่นให้ตาย, เจ้าของต้องขายโคที่เป็นอยู่แบ่งราคากัน; และโคที่ตายนั้นให้แบ่งกันด้วย หรือถ้ารู้แล้วว่าโคนั้นเคยขวิด, แต่เจ้าของมิได้กักขังไว้; เจ้าของต้องใช้โคแทนโคที่ตาย, และโคที่ตายนั้นก็ต้องเป็นของตน.” 2 “ถ้าเจ้าจะซื้อชนชาติเฮ็บรายไว้เป็นทาส, เขาจะต้องปรนนิบัติเจ้าในเวลากำหนดหกปี: แต่ปีที่เจ็ดนั้นจงปล่อยเขาไปเป็นไทยเป็นอันหมดค่าตัว. 3 ทาสซึ่งได้เข้ามาแต่ผู้เดียว, จงปล่อยเขาไปแต่ผู้เดียว: ถ้าเขามีภรรยา, ต้องปล่อยภรรยาของเขาไปด้วย. 4 ถ้านายได้หาภรรยาให้เขา, และภรรยานั้นได้เกิดลูกชายหญิงด้วยกัน, ภรรยากับลูกนั้นจะเป็นคนของนาย, เขาจะออกไปเป็นไทยได้แต่ผู้เดียว. 5 ถ้าทาสนั้นมากล่าวเป็นที่เข้าใจชัดเจนว่า, ข้าพเจ้ายังรักนายและลูกเมียของข้าพเจ้าอยู่; ข้าพเจ้าไม่อยากออกไปเป็นไทย: 6 ให้นายพาทาสนั้นไปหาตุลาการ, พาเขาไปถึงประตู, หรือถึงเสาแม่ประตู, แล้วให้นายเจาะหูเขาด้วยเหล็กหมาด; แล้วเขาก็จะปรนนิบัตินายต่อไปจนชีวิตหาไม่.” 7 “ถ้าแม้คนใดจะขายบุตรให้เป็นทาสี, หญิงนั้นจะมิได้หลุดพ้นเป็นไทยเหมือนทาสา. 8 ถ้านายที่ได้ช่วยเขาไว้ไม่พอใจรับหญิงนั้นเป็นภรรยา, ต้องยอมให้คนอื่นนำเงินมาไถ่เขาไป: แต่ไม่มีอำนาจขายหญิงนั้นให้แก่ชาวต่างประเทศ, เพราะได้ทำผิดฐานหลอกลวงหญิงนั้นแล้ว. 9 ถ้าแม้นายจะยกหญิงนั้นให้เป็นภรรยาลูกชายของตน, ก็ให้เขาอีกคนหนึ่งแสดงกิริยาต่อหญิงนั้นดุจเป็นบุตรสาวของตน. 10 ถ้าเขาได้หาหญิงอื่นมาเป็นภรรยา; อย่าให้เขาขาดบำรุงเรื่องอาหารการกิน, เสื้อผ้า, และประเพณีผัวเมียกับคนเก่า. 11 ถ้าเขามิได้บำรุงหญิงเก่านั้นทั้งสามประการนี้, หญิงนั้นจะไปเสียเฉยๆ ได้, โดยไม่ต้องเสียเงินไถ่ค่าตัวเลย.” 12 “ผู้ใดทุบตีคนหนึ่งให้ตาย, ผู้นั้นจำต้องรับโทษถึงตายเหมือนกัน. 13 ถ้าผู้ใดมิได้เจตนาจะทำเขาให้ตาย, แต่เขาตายเนื่องด้วยอุปัทวะเหตุซึ่งพระเจ้าทรงปล่อยให้เกิดขึ้นด้วยมือของเขา, เราจะตั้งตำบลไว้แห่งหนึ่งให้เขาหนีไปที่นั่น. 14 แต่ถ้าผู้ใดจงใจเจตนากระทำแก่เพื่อนบ้านให้เขาตาย, หากผู้นั้นจะหนีไปถึงแท่นบูชาของเรา, ก็ให้ลากเขาไปทำโทษจนถึงตาย.” 15 “ผู้ใดทุบตีบิดามารดาของตน, ผู้นั้นจะต้องถูกปรับโทษถึงตายเป็นแน่.” 16 “ผู้ใดลักคนไปขายก็ดี, หรือมีผู้พบคนที่ถูกลักไปอยู่ในมือของผู้นั้นก็ดี, ผู้ลักนั้นจะต้องถูกปรับโทษถึงตายเป็นแน่.” 17 “ผู้ใดด่าแช่งบิดามารดาของตน, ผู้นั้นต้องถูกปรับโทษถึงตายเป็นแน่.” 18 “ถ้ามีผู้วิวาทกัน, และฝ่ายหนึ่งเอาหินขว้างหรือชก, แต่อีกฝ่ายหนึ่งนั้นไม่ถึงแก่ความตาย, เป็นแต่เจ็บป่วยต้องนอนอยู่: 19 ถ้าผู้ที่ถูกเจ็บนั้นลุกขึ้นถือไม้เท้าเดินได้อีก, ผู้ตีนั้นก็พ้นโทษ: แต่เขาจะต้องเสียค่าป่วยการ, และค่ารักษาบาดแผลจนหายเป็นปกติ.” 20 “ถ้าผู้ใดทุบตีทาสชายหญิงด้วยไม้จนตายคามือของตน, ผู้นั้นต้องถูกปรับโทษเป็นแน่. 21 หากว่าทาสนั้นมีชีวิตต่อไปได้วันหนึ่งหรือสองวันจึงตาย, นายก็พ้นโทษ: เพราะค่าของทาสนั้นเป็นเงินของนาย.” 22 “ถ้ามีผู้ตีกันและบังเอิญไปถูกหญิงมีครรภ์ทำให้แท้งลูก, แต่หญิงนั้นไม่เป็นอันตรายต้องปรับผู้นั้นตามแต่สามีของหญิงนั้นจะเรียกร้องเอาจากเขา, และตามตุลาการจะตัดสินให้เสียเท่าไร. 23 ถ้าหากว่าเป็นเหตุให้เกิดอันตรายประการใด, ก็ให้วินิจฉัยดังนี้คือชีวิตแทนชีวิต, 24 ตาแทนตา, ฟันแทนฟัน, มือแทนมือ, เท้าแทนเท้า, 25 ไหม้แทนไหม้, แผลแทนแผล, รอยตีแทนรอยตี.” 26 “ถ้าผู้ใดตีตาของทาสชายหญิงให้บอดไป, จงให้เขาปล่อยทาสผู้นั้นเป็นไทยเนื่องด้วยตาของเขา. 27 ถ้าผู้ใดทำฟันทาสชายหญิงให้หลุดไป, จงให้เขาปล่อยทาสนั้นไปเป็นไทยเนื่องด้วยฟันของเขา.” 28 “ถ้าโคผู้ขวิดชายหญิงถึงตาย, จึงเอาหินขว้างโคนั้นให้ตาย, และเนื้อของมันอย่ากินเลย; แต่เจ้าของโคนั้นไม่มีโทษ. 29 แต่หากว่าโคนั้นเคยขวิดคนมาแต่ก่อน และมีผู้มาแจ้งความให้เจ้าของทราบ, แล้วแต่เจ้าของมิได้กักขังมันไว้, มันจึงได้ขวิดชายหญิงถึงตาย; จงเอาหินขว้างโคนั้นเสีย, และจงลงโทษให้เจ้าของตายตกไปตามกันด้วย, 30 แต่ถ้าจะปรับเอาเงินแทนชีวิตของผู้นั้น, เขาต้องเสียให้ตามกำหนด, ตามแต่ตุลาการจะตัดสิน. 31 หากโคนั้นจะขวิดบุตรชายหรือบุตรหญิง, ก็จงปรับโทษตามกฎหมายข้อนี้ดุจกัน. 32 ถ้าโคนั้นขวิดทาสชายหญิงของผู้ใด, เจ้าของโคต้องให้เงินแก่นายของทาสนั้นสี่สิบบาท, แล้วต้องเอาหินขว้างโคนั้นให้ตายเสียด้วย.” 33 “ถ้าผู้ใดเปิดบ่อหรือขุดบ่อมิได้ปิดไว้, แล้วมีโคหรือลาตกลงไปตายในบ่อนั้น, 34 เจ้าของบ่อต้องเสียเงินค่าสัตว์นั้นๆ ให้แก่เจ้าของ; และซากสัตว์ที่ตายนั้นจะเป็นของเจ้าของบ่อ.” 35 “ถ้าโคของผู้ใดขวิดโคของผู้อื่นให้ตาย, เจ้าของต้องขายโคที่เป็นอยู่แบ่งราคากัน; และโคที่ตายนั้นให้แบ่งกันด้วย 36 หรือถ้ารู้แล้วว่าโคนั้นเคยขวิด, แต่เจ้าของมิได้กักขังไว้; เจ้าของต้องใช้โคแทนโคที่ตาย, และโคที่ตายนั้นก็ต้องเป็นของตน.” |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society