เอสเธอร์ 9 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ในเดือนสิบสอง, คือเดือนอะดาร, ในวันสิบสามค่ำนั้น, ครั้นวันและเวลาตามพระดำรัสและหมายประกาศของกษัตริย์นั้นใกล้จะถึงอยู่แล้ว, คือในวันที่ศัตรูแห่งพวกยูดายคิดจะเอาชัยชะนะนั้น, แต่ได้กลับกลายไปเป็นอย่างอื่นเสีย, ด้วยว่าพวกยูดายนั้นมีชัยชะนะแก่เหล่าพวกศัตรูของเขานั้น; 2 พวกยูดายทั้งปวงได้ชุมนุมกันในเมืองทั้งหลายของตนตลอดจนหัวเมืองทั้งปวงของกษัตริย์อะหัศวะโรศนั้น, เพื่อจะลงมือต่อสู้กันกับคนทั้งหลายที่คิดจะทำร้ายแก่เขา: และไม่มีผู้ใดสู้พวกยูดาได้; เพราะว่าคนทั้งปวงกลัวเขาแล้ว. 3 และเจ้านายทั้งหลายตลอดหัวเมืองทั้งปวงนั้น, และข้าหลวง, และเจ้าเมืองทั้งหลาย, และพวกขุนนางทั้งหลายของกษัตริย์, ได้ช่วยพวกยูดาย: เพราะเขาได้กลัวอำนาจของมาระดะคายนั้น. 4 เพราะว่ามาระดะคายได้เป็นใหญ่ในพระราชวังของกษัตริย์, และชื่อเสียงของท่านได้เลื่องลือไปตลอดทั่วหัวเมืองทั้งหลาย: ด้วยว่ามาระดะคายคนนี้นั้นได้รับพระราชทานยศศักดิ์ยิ่งขึ้นเสมอทุกวัน. 5 ส่วนพวกยูดายนั้นได้ฆ่าศัตรูของตนฟันด้วยคมกระบี่, และได้ล้างผลาญ, และได้ทำลาย, และได้ทำแก่พวกศัตรูแห่งตนตามอำเภอใจตัว. 6 และในกรุงซูซัร ณ ราชวังนั้น พวกยูดายได้ประหารและทำลายเสียห้าร้อยคน. 7 ได้ประหารนายฟัรชัรดาธา, และดาโฟล, และอัศฟาธา, 8 และโฟราธา, และอะดัลยา, และอะรีดาธา, 9 และฟามัศธา, และอะซาย, และอาริดาย, และวายซาธา, 10 คือบุตรชายสิบคนของฮามานๆ บุตรฮามะดาธา, ศัตรูของพวกยูดาย, พวกยูดายนั้นได้ฆ่าเสีย; แต่พวกยูดายไม่ได้ลงมือเก็บเอาสิ่งของที่เป็นของริบนั้นสักสิ่งหนึ่งเลย. 11 ในวันนั้นเขาจดบัญชีคนทั้งปวงที่ต้องฆ่าเสียแล้ว ณ กรุงซูซัรที่ราชวังนั้นมาถวายแก่กษัตริย์. 12 ฝ่ายกษัตริย์จึงตรัสแก่พระนางเอศเธระมเหษีว่าพวกยูดายได้ฆ่าคนในกรุงซูซัรอันเป็นราชวังห้าร้อยคน, และบุตรชายสิบคนของฮามาน (ก็ฆ่าเสียด้วย); ที่หัวเมืองอื่นๆ ทั้งปวงของกษัตริย์เขาได้กระทำอย่างไรบ้าง? บัดนี้พระนางจะขอสิ่งไรต่อไปอีก? และเราจะอนุญาตให้: หรือจะประสงค์สิ่งใดอีก? เราจะกระทำตาม.” 13 ฝ่ายพระนางเอศเธระจึงกราบทูลว่า, ถ้าพระองค์ทรงเห็นชอบในพระทัยแล้ว, ขอทรงโปรดให้พวกยูดายที่อยู่ในกรุงซูซัรกระทำในเวลาพรุ่งนี้อีกเหมือนอย่างที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดให้มีรับสั่งให้กระทำในวันนี้, คือให้เอา (ศพ) ลูกชายสิบคนของฮามานแขวนคอไว้ที่ขาหยั่ง. 14 ฝ่ายกษัตริย์จึงทรงรับสั่งให้กระทำอย่างนั้น: และหมายประกาศนั้นได้ประทับตราไว้ ณ กรุงซีซัร: และเขาจึงเอา (ศพ) ลูกชายสิบคนของฮามานนั้นแขวนคอไว้ (ที่ขาหยั่ง). 15 ส่วนพวกยูดายที่อยู่ในกรุงซีซัรนั้นก็ได้ชุมนุมกันในเดือนอะดารวันสิบสี่ค่ำนั้นด้วย, และได้ฆ่าคนในกรุงซีซัรสามร้อยคน; แต่ของที่จะเป็นของริบเอามานั้นพวกยูดายไม่ได้ลงมือแตะต้องสักสิ่งหนึ่งเลย. 16 และพวกยูดายอื่นๆ ที่อยู่หัวเมืองทั้งปวงของกษัตริย์นั้นได้ประชุมกันและตั้งกองระวังรักษาชีวิตของตน, และมีความสงบจากพวกศัตรูของตน, และเขาได้ทำพวกศัตรูของตนเสียเจ็ดหมื่นห้าพันคน, แต่ของที่เป็นของริบเอามานั้นเขาไม่ได้ลงมือแตะต้องเลย. 17 ในเดือนอะดาร ณ วันสิบสามค่ำนั้น (เขาได้กระทำอย่างนั้น); แต่วันสิบสี่ค่ำแห่งเดือนนั้นเขาได้หยุดเสีย, ให้เป็นวันเลี้ยงกันและเป็นวันชื่นชมยินดี. 18 ส่วนพวกยูดายทั้งหลายที่อยู่ในกรุงซูซัรได้ชุมนุมกัน ณ วันสิบสามค่ำ, และวันสิบสี่ค่ำในเดือนนั้น; แต่ในวันสิบห้าค่ำเดือนนั้นเขาได้หยุดเสีย, ให้เป็นวันเลี้ยงกันและเป็นวันชื่นชมยินดี. 19 เหตุฉะนั้นพวกยูดายที่อาศัยอยู่บ้านนอก, ในเมืองที่ไม่มีกำแพง, กระทำให้วันสิบสี่ค่ำเเห่งเดือนอะดาร, เป็นวันชื่นชมและและเป็นวันเลี้ยงกัน, เป็นวันที่สนุกสนาน, และได้ฝากอาหารไปให้ซึ่งกันและกัน 20 ฝ่ายมาระดะคายนั้นได้จดเหตุการณ์ทั้งหลายนั้นไว้, และได้ฝากหนังสือไปถึงพวกยูดายทั้งหมดที่อยู่ในหัวเมืองทั้งปวงของกษัตริย์อะหัศวะโรศ, ทั้งใกล้และไกล, 21 ให้ตั้งเป็นธรรมเนียมแก่พวกยูดายทั้งหลายนั้น, เพื่อจะถือวันสิบสี่ค่ำ, และวันสิบห้าค่ำในเดือนอะดารนั้นไว้ทุกปี, 22 เป็นวันที่พวกยูดายได้รับความสงบสุขพ้นจากพวกศัตรูของตน, และเป็นเดือนที่เขาได้พ้นจากความทุกข์เป็นความยินดี, และพ้นจากความโศกเศร้าถึงความสุขสบาย: ให้ตั้งวันทั้งสองนั้นไว้เป็นวันเลี้ยงกันและเป็นวันแห่งความยินดี, และเป็นวันให้ส่วนอาหารแก่กันและกัน, และเป็นวันแจกทานให้คนจน. 23 ส่วนพวกยูดายทั้งปวงจึงรับว่าจะกระทำตามดังที่ได้กระทำมาแล้วนั้น, และตามคำที่มาระดะคายได้เขียนฝากแก่เขานั้น. 24 ด้วยว่าฮามานบุตรฮามะดาธา, ชาวอะฆาฆ, ที่เป็นศัตรูพวกยูดายทั้งปวงนั้นได้คิดอ่านต่อพวกยูดายเพื่อจะทำลายเขาเสีย, และได้ทิ้งฟูระ, คือฉลาก. เพื่อจะล้างผลาญ. และทำลายพวกยูดายทั้งสิ้น; 25 แต่ทว่าครั้นเหตุการณ์นั้นได้ทราบถึงกษัตริย์แล้ว, กษัตริย์จึงทรงมีรับสั่งโดยหนังสือประทับตราให้การร้ายที่ฮามานคิดอ่านจะกระทำแก่พวกยูดายกลับได้แก่ตนเอง. และให้เอาฮามานกับลูกชายทั้งหลายของเขาไปแขวนไว้ที่ขาหยั่ง. 26 เหตุดังนั้นเขาจึงเรียกวันเหล่านั้นว่า, ฟูริม, ตามชื่อฟูระ, เพราะเหตุข้อความทั้งปวงในหนังสือของมาระดะคายนั้น, และด้วยเหตุทั้งปวงซึ่งเขาได้เห็นเองนั้น, และเพราะเหตุการณ์ซึ่งเกิดแก่ตัวเขาเอง, 27 พวกยูดายได้ตั้งธรรมเนียมไว้, และรับว่าตัวเขาเอง, และเผ่าพันธุ์ของเขา, และคนทั้งหลายที่เข้าจารีตด้วยเขานั้น, จะถือวันทั้งสองนั้นไว้ตามหนังสือที่เขียนไว้นั้น, และตามวันเวลากำหนดนั้นทุกปี, ก็เป็นดังนั้นเพื่อจะไม่ได้ขาด, 28 และเพื่อวันทั้งสองนั้นจะเป็นที่ระลึกไว้และเป็นที่นับถือไว้ตลอดชั่วอายุ, ทุกครอบครัว, ทุกหัวเมือง, และทุกบ้านเมือง; และเพื่อการซึ่งถือฟูริมวันทั้งสองนั้นจะไม่ขาดจากพวกยูดาย, และเผ่าพันธุ์ของเขาจะไม่ได้ละลืม. 29 ขณะนั้นพระนางเอศเธระมเหษี, ผู้เป็นธิดาอะบีฮายิล, กับมาระดะคายชาวยูดายนั้น, ได้ใช้อำนาจเขียนหนังสือฉะบับที่สองแห่งฟูริมนั้นให้ตั้งมั่นคงถาวรอยู่. 30 และได้ฝากหนังสือนั้นถึงพวกยูดายทั้งปวงที่อยู่หัวเมืองทั้งร้อยยี่สิบเจ็ดหัวเมืองนั้น, ที่แผ่นดินของกษัตริย์อะหัศวะโรศ, ฝากคำอวยพรไปให้อยู่เย็นเป็นสุขสำราญ, และให้ดำรงอยู่ในความสัตย์ซื่อ, 31 เพื่อจะให้วันทั้งสองแห่งฟูริมนั้นตั้งไว้มั่นคงตามเวลากำหนด, มิใช่ตามที่มาระดะคายชาวยูดายและพระนางเอศเธระมเหษีรับสั่งแล้วนั้น, แต่ตามที่พวกยูดายเองมีน้ำใจจะถือไว้ทั้งตัวเองและเผ่าพันธุ์ของเขา, เป็นเวลาถือศีลอดอาหารและเวลาที่เขาได้ร้องทูลนั้น. 32 และคำรับสั่งของพระนางเอศเธระนั้นได้ทั้งเหตุการณ์แห่งวันฟูริมนั้นให้ถาวรอยู่; และเหตุการณ์นั้นเขาได้ไว้เขียนในหนังสือพงศาวดาร |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society