เอสเธอร์ 4 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ฝ่ายมาระดะคายนั้นครั้นรู้เหตุการณ์ทั้งปวงนั้นแล้ว, มาระดะคายก็ฉีกเสื้อผ้าเสีย, และเอาผ้าเนื้อหยาบนุ่งห่มอันคลุกด้วยขี้เถ้าใส่ตัว, แล้วก็ออกไปท่ามกลางเมือง, และร้องเพลงดังอันน่าสมเพชยิ่งนัก; 2 และได้เดินเข้ามาตรงหน้าประตูพระราชวัง: ด้วยว่าผู้หนึ่งผู้ใดที่นุ่งด้วยผ้าเนื้อหยาบนั้นเข้าไปในประตูพระราชวังนั้นไม่ได้. 3 และพวกยูดาทั้งหลายที่อยู่ทุกหัวเมือง, เมื่อได้รับหมายประกาศรับสั่งของกษัตริย์แล้วนั้น, ก็พากันเป็นทุกข์โศกเศร้ายิ่งนัก, และถือศีลอดอาหาร, และร้องไห้และคร่ำครวญ; และคนเป็นอันมากได้นุ่งห่มด้วยผ้าเนื้อหยาบนอนคลุกบนกองขี้เถ้าไฟ. 4 ส่วนหญิงคนใช้และพวกขันทีของพระนางเอศเธระนั้นได้มาทูลความนั้นแก่พระนาง, และมเหษีก็ทรงเป็นทุกข์ยิ่งนัก; จึงทรงจัดแจงเสื้อผ้าฝากไปให้แก่มาระดะคาย, และให้เปลื้องผ้าเนื้อหยาบนั้นทิ้งเสียและเอาผ้าที่ดีนุ่งห่มแทน: แต่มาระดะคายไม่ยอมรับเอาผ้านั้น. 5 ฝ่ายพระนางเอศเธระจึงให้หาขันทีคนหนึ่งของกษัตริย์ชื่อฮะธาค, ที่กษัตริย์รับสั่งให้ปรนนิบัติพระมเหษีนั้น, และได้รับสั่งฮะธาคนั้นให้ไปหามาระดะคาย, เพื่อจะได้รู้ว่าเหตุการณ์นั้นเป็นประการใด, และเป็นมาเพราะเหตุอะไร. 6 และฮะธาคนั้นก็ไปหามาระดะคายที่ถนนเมือง, อยู่ตรงหน้าประตูพระราชวัง. 7 และมาระดะคายจึงแจ้งเหตุการณ์ซึ่งบังเกิดขึ้นแก่ตัวให้ฮะธาคฟัง, และเงินมากน้อยเท่าไรที่ฮามานสัญญาไว้ว่าจะใช้ในคลังของกษัตริย์เพื่อจะล้างผลาญพวกยูดายทั้งสิ้น. 8 และมาระดะคายก็เอาหนังสือหมายประกาศนั้นฉะบับหนึ่งให้แก่ฮะธาคที่เขียนไว้ที่ซูซัรนั้นว่าให้ประหารพวกยูดายนั้น, ให้เอาไปกราบทูลแก่พระนางเอศเธระ, และทูลขอความแก่พระนาง, และทูลพระนางเอศเธระให้เข้าไปเฝ้ากษัตริย์, เพื่ออ้อนวอนและทูลขอต่อกษัตริย์เพื่อญาติพี่น้องของพระนางนั้น. 9 ส่วนฮะธาคได้เข้าไปกราบทูลแก่พระนางเอศเธระตามคำของมาระดะคาย 10 ฝ่ายพระนางเอศเธระจึงรับสั่งฮะธาคว่า, จงไปแจ้งแก่มาระดะคายว่า; 11 ข้าราชการทั้งหลายของกษัตริย์, และราษฎรทั้งหลายทุกหัวเมืองของกษัตริย์นั้น, ก็รู้ว่า, ถ้าผู้ใดเป็นชายก็ดีหรือเป็นหญิงก็ดี, ที่กษัตริย์ไม่ทรงรับสั่งให้หาเข้าไปเฝ้าในท้องพระโรงข้างใน, ถ้าจะขืนเข้าไป, ก็มีแต่กฎหมายข้อเดียว, คือว่าคนนั้นต้องตาย, เว้นไว้แต่กษัตริย์จะทรงโปรดยื่นฑัณฑกรทองคำนั้นออก, จึงจะไม่ตาย: ส่วนข้าพเจ้านี้กษัตริย์ไม่ได้รับสั่งให้หาเข้าไปเฝ้าสักสามสิบวันมาแล้ว. 12 และเขาได้ไปแจ้งแก่มาระดะคายตามคำรับสั่งของพระนางเอศเธระนั้น. 13 มาระดะคายจึงสั่งว่า, จงไปทูลแก่พระนางเอศเธระว่า, พระนางอย่าทรงคิดนึกในพระทัยว่าพระนางอยู่ในพระราชวังของกษัตริย์นั้น, จะพ้นจากความตายมากกว่าพวกยูดายทั้งสิ้นนั้น. 14 ด้วยว่าถ้าพระนางจะนิ่งเสียแล้วในเวลานี้, ความโปรดและความรอดจะบังเกิดแก่พวกยูดายมาจากที่อื่น; แต่พระนางกับประยูรญาติของพระนางจะต้องถูกประหารเสีย: และพระนางได้เสด็จมาถึงแผ่นดินเพื่อเหตุดังนี้หรือไม่ใครจะรู้? 15 ฝ่ายพระนางเอศเธระจึงรับสั่งให้ไปแจ้งแก่มาระดะคายว่า, 16 จงให้พวกยูดายทั้งปวงที่อยู่กรุงซูซัรชุมนุมกัน, และให้ถือศีลอดอาหารเพื่อเรา, และอย่าให้กินหรือดื่มสามวัน, ทั้งกลางคืนทั้งกลางวัน: และเรากับหญิงสาวใช้ของเราจะถือศีลอาหารด้วยเหมือนกัน; และดังนั้นเราจะเข้าไปเฝ้ากษัตริย์นั้น, แม้เป็นการผิดกฎหมาย; แม้ถึงเราจะต้องตาย ก็ตายเถิด. 17 และมาระดะคายจึงได้ไปกระทำตามทุกประการที่พระนางเอศเธระได้ทรงสั่งนั้น |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society