เอสเธอร์ 1 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 คราวเมื่อกษัตริย์อะหัศวะโรศเสวยราชย์อยู่นั้น, คืออะหัศวะโรศที่ได้ทรงครอบครองตั้งแต่ประเทศโฮดูจนถึงประเทศอายธิโอบ, มีร้อยยี่สิบเจ็ดหัวเมือง: 2 ก็คราวนั้นเมื่อกษัตริย์อะหัศวะโรศเสด็จประทับบนพระที่นั่งในแผ่นดินของพระองค์, ซึ่งอยู่ในกรุงซูซัรราชวัง, 3 ครั้นเสวยราชย์ได้สองปีเศษแล้ว, พระองค์ได้ทรงจัดการเลี้ยง, ทรงเชิญเจ้านายทั้งปวง และบรรดาข้าราชการของพระองค์; กับเจ้านายกับพวกขุนนางที่อยู่ในหัวเมืองทั้งหลายนั้น,อันเป็นกำลังของประเทศฟารัศและประเทศมาดายมาประชุมกัน: 4 เมื่อพระองค์ได้ทรงสำแดงมหาสมบัติแห่งแผ่นดินของพระองค์และยศศักดิ์อันรุ่งเรืองของพระองค์นานจนครบร้อยแปดสิบวันแล้ว. 5 และครั้นวันเหล่านั้นสิ้นกำหนดแล้ว, กษัตริย์อะหัศวะโรศได้ทรงให้มีการเลี้ยงแก่ราษฎรพลไพร่ทั้งปวงซึ่งอยู่ที่ซูซัรพระราชวังนั้น, ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย, สิ้นเจ็ดวัน, การเลี้ยงนั้นทำที่ท้องพระโรงในราชอุทยานที่พระราชวังแห่งกษัตริย์, 6 มี (ม่านกั้น) สีขาว, เขียว, สีคราม, ผูกไว้กับห่วงเงินและกับเสาศิลาอ่อน: ด้วยเชือกป่านอันวิเศษและม่วง, มีพระแท่นล้วนด้วยทองคำ, เงิน, และพื้นนั้นปูด้วยศิลาอ่อนสีแดง, สีเขียว, สีขาว, และสีดำ. 7 และได้ให้คนทั้งปวงนั้นกินและดื่มด้วยภาชนะเครื่องทองคำ, เครื่องภาชนะทั้งหลายต่างๆ กัน, และน้ำองุ่นของเหลวมากบริบูรณ์, ตามยศศักดิ์แห่งกษัตริย์นั้น. 8 และเขารับประทานน้ำองุ่นนั้นตามกฎหมาย, ไม่มีผู้ใดบังคับ (ให้กิน): ด้วยกษัตริย์มีรับสั่งแก่บรรดาเจ้าพนักงานว่า, ให้คนทั้งปวงทำตามใจของตนเองทุกๆ คน. 9 พระนางวัศธีผู้เป็นมเหษีได้กระทำการเลี้ยงแก่บรรดาหญิงทั้งหลายในพระราชวังของกษัตริย์อะหัศวะโรศนั้นด้วย 10 ในวันที่เจ็ด, ครั้นพระทัยของกษัตริย์นั้นสำราญด้วยน้ำองุ่นแล้ว, พระองค์จึงมีรับสั่งแก่พวกขันทีเจ็ดคนชื่อ, มะฮูมาน, บิศธา, ฮาระโบนา, บิฆธา, อะบัฆธา, เซธาร, และคารคัศที่ได้ปรนนิบัติต่อพระพักตรกษัตริย์อะหัศวะโรศนั้น, 11 ให้ไปทูลพระนางวัศธีมเหษีให้ทรงมงกุฎ, แล้วเชิญเสด็จมาฉะเพาะกษัตริย์เพื่อจะสำแดงพระรูปโฉมพระมเหษีนั้นแก่คนทั้งหลายและเจ้านายทั้งปวง: ด้วยว่าพระมเหษีนั้นมีพระรูปโฉมงดงามยิ่งนัก. 12 ฝ่ายพระนางวัศธีมเหษีนั้นขัดรับสั่งไม่เสด็จมา. เฝ้าตามที่กษัตริย์มีรับสั่งแก่พวกขันทีให้ไปทูลเชิญเสด็จมานั้น: เหตุฉะนั้นกษัตริย์จึงทรงกริ้วยิ่งนัก: และความกริ้วนั้นได้เผาผลาญอยู่ภายในพระกายของพระองค์. 13 ฝ่ายกษัตริย์จึงตรัสแก่คนเหล่านั้นที่มีสติปัญญาที่รู้จักธรรมเนียมเมื่อมีเหตุการณ์อย่างนั้น, ด้วยว่ากษัตริย์นั้นมีธรรมเนียมโดยทรงปรึกษากันกับคนเหล่านั้นที่เข้าใจในข้อกฎหมายและการพิพากษา. 14 และเจ้าใหญ่ทั้งเจ็ดองค์แห่งเมืองฟารัศ, และเมืองมาดายที่รองกษัตริย์ลงมานั้น, และที่เคยได้เห็นพระพักตรของกษัตริย์และเป็นผู้ใหญ่ในแผ่นดินนั้นชื่อ, คัศซะนา, เซธาร, อัดมาธา, ธาระซิศ, เมเรศ, มันซีนา, มะคูคาน: 15 กษัตริย์จึงตรัสถามว่า, ตามกฎหมายเราจะกระทำอย่างไรแก่พระนางวัศธีมเหษี, เพราะพระนางนั้นไม่ได้กระทำตามคำรับสั่งของกษัตริย์อะหัศวะโรศที่รับสั่งไปโดยพวกขันทีนั้น? 16 และมะมูคานจึงกราบทูลกษัตริย์ต่อหน้าเจ้าทั้งปวงนั้นว่า, พระนางวัศธีมเหษีได้กระทำผิดต่อกษัตริย์เท่านั้นก็หามิได้, แต่ได้กระทำผิดต่อเจ้านาย, และต่อราษฎรทั้งหลายที่อยู่ในหัวเมืองทั้งปวงของกษัตริย์อะหัศวะโรศด้วย. 17 เพราะว่าการซึ่งพระมเหษีได้กระทำไปนั้นจะเล่าลือไปถึงบรรดาหญิงทั้งปวง, เมื่อเล่าลือไปว่า, กษัตริย์อะหัศวะโรศมีรับสั่งให้ไปเชิญพระนางวัศธีมเหษีมาเฝ้าพระองค์, แต่พระนางวัศธีนั้นไม่เสด็จมาเฝ้า. 18 ตาแห่งหญิงทั้งปวงจะดูหมิ่นดูถูกแก่สามีของตน, และเจ้าหญิงทั้งหลายแห่งเมืองฟารัศและเมืองมาดายที่ได้ยินการซึ่งมเหษีได้กระทำนั้น, ก็จะว่าแก่เจ้านายทั้งปวงของกษัตริย์นั้นเหมือนกัน, อย่างนั้นแหละความหมิ่นประมาทและความขัดเคืองใจจะเกิดขึ้นเป็นอันมาก. 19 ถ้ากษัตริย์เห็นชอบพระทัยแล้ว, ขอทรงโปรดให้มีรับสั่งออกไป, และให้เขียนคำรับสั่งนั้นไว้เป็นกฎหมายแห่งชาวฟารัศและชาวมาดาย, เพื่อจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ได้, คือให้พระองค์รับสั่งว่า, พระนางวัศธีจะเสด็จเข้ามาเฝ้าฉะเพาะกษัตริย์อะหัศวะโรศอีกต่อไปไม่ได้เลย: และให้กษัตริย์ประทานตำแหน่งยศของพระนางนั้นแก่ผู้อื่นซึ่งเป็นที่ชอบพระทัยมากกว่าพระนางนั้น. 20 และเมื่อพระราชคำรัสสั่งของกษัตริย์นั้นประกาศทั่วอาณาเขตต์ของพระองค์แล้ว, ด้วยอาณาเขตต์นั้นใหญ่กว้างขวางนักเพื่อหญิงทั้งปวงที่จะเป็นภรรยาทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อยจะให้เกียรติยศแก่สามีของตน. 21 และกษัตริย์กับเจ้าทั้งหลายนั้นก็ทรงเห็นชอบด้วยคำนั้น; แล้วกษัตริย์จึงได้ทรงกระทำตามคำของมะมูคาน: 22 ด้วยพระองค์ได้ส่งหนังสือไปยังเมืองทั้งปวงทุกหัวเมืองตามที่เขียนไว้แล้ว, และมีทุกๆ ชาติตามภาษาของเขา, เพื่อให้ชายทุกคนครอบครองในบ้านเรือนของตน, และคำนั้นประกาศไปตามภาษาของชนทุกชาติทุกภาษา |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society