เอเฟซัส 4 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940มีพระวิญญาณองค์เดียว 1 เหตุฉะนั้นข้าพเจ้า, ผู้ที่ถูกจำจองเพราะเห็นแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า, จึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ประพฤติสมกับที่ท่านทั้งหลายทรงถูกเรียกแล้วนั้น, 2 คือด้วยใจถ่อมลงทุกอย่าง และด้วยใจอ่อนสุภาพ, ด้วยอดกลั้นใจ, และผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกันด้วยความรัก. 3 จงเพียรพยายามเอาสันติสุขผูกมัดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ซึ่งพระวิญญาณทรงประทานให้นั้น. 4 มีกายอันเดียวและมีพระวิญญาณองค์เดียว, เหมือนมีความหวังใจอันเดียวซึ่งเกี่ยวกับที่ท่านทั้งหลายทรงถูกเรียกนั้น 5 มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว, ความเชื่ออย่างเดียว, บัพติศมาอันเดียว 6 พระเจ้าองค์เดียวผู้เป็นพระบิดาของคนทั้งปวง, ผู้อยู่เหนือคนทั้งปวง, และทั่วคนทั้งปวง, และในคนทั้งปวง. 7 แต่ว่าพระคุณนั้นทรงโปรดประทานแก่เราทุกๆ คนตามขนาดซึ่งพระคริสต์ประทาน 8 เหตุฉะนั้นพระองค์ได้ตรัสไว้แล้วว่า, ครั้นพระองค์ได้เสด็จขึ้นไปที่สูง, พระองค์จึงทรงพาเอาชะเลยนั้นไปเป็นชะเลยอีก, และได้ประทานของประทานแก่มนุษย์. 9 ที่ว่าพระองค์ได้เสด็จขึ้นไป นั้น จะหมายความอย่างอื่นประการใดเล่า. นอกจากว่าพระองค์ได้เสด็จลงไปสู่เบื้องต่ำของแผ่นดินโลกก่อนด้วย? 10 พระองค์ผู้ได้เสด็จลงไปนั้นก็คือองค์เดียวกันกับผู้ที่ได้เสด็จขึ้นไปยังที่สูงเหนือฟ้าสวรรค์ทั้งปวง, เพื่อจะได้ดำรงอยู่ทั่วในสิ่งสารพัตร. 11 พระองค์จึงได้ประทานให้บางคนเป็นอัครสาวก, และให้บางคนเป็นศาสดาพยากรณ์, และให้บางคนเป็นผู้เผยแพร่กิตติคุณ, และให้บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์ 12 สำหรับให้สิทธิชนเป็นคนดีรอบคอบ, และสำหรับใช้เพื่อปฎิบ้ติการงาน, และสำหรับบำรุงให้พระกายของพระคริสต์จำเริญขึ้น 13 คือจนเราทั้งปวงจะมีความเชื่อ และมีความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้าอย่างเดียวกัน. จนถึงโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเต็มถึงขนาดความบริบูรณ์ของพระคริสต์ 14 เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กต่อไป, ถูกชัดไปชัดมาและหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง, และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง 15 แต่ให้เรายึดเอาความจริงด้วยใจรัก, เพื่อจะจำเริญใหญ่ขึ้นทุกอย่างในพระองค์ผู้เป็นศีรษะ, คือพระคริสต์ 16 คือเนื่องจากพระองค์นั้น ร่างกายทั้งสิ้นที่ติดต่อสนิทและผูกพันกันโดยที่ทุกๆ ข้อต่อได้ช่วยชูกำลังตามขนาดแห่งอวัยวะทุกส่วน, จึงได้จำเริญเติบโตขึ้นเองด้วยความรัก ท่านสอนมนุษย์ใหม่ตามแบบอย่างพระเจ้า 17 เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงพูดและเป็นพะยานในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า, ตั้งแต่นี้ไปท่านทั้งหลายอย่าประพฤติตามอย่างคนต่างชาติที่เขาประพฤตินั้น, คือด้วยใจโง่แกมหยิ่งของเขา 18 โดยที่ความคิดของเขามืดไป, และเขาอยู่ห่างจากชีวิตซึ่งมาจากพระเจ้า เพราะเหตุความโง่ซึ่งอยู่ในตัวเขา, เพราะใจเขาแข็งกะด้างไป. 19 เขามีใจปราศจากความสะดุ้งต่อบาป, จึงได้ปล่อยตัวทำการลามกและละโมภ ทำการโสโครกทุกอย่าง. 20 แต่ว่าท่านทั้งหลายไม่ได้เรียนรู้จักพระคริสต์อย่างนั้น. 21 ถ้าแม้ท่านทั้งหลายได้ยินพระองค์, และได้เรียนรู้ในพระองค์ตามความสัตย์จริงซึ่งมีอยู่ในพระเยซูว่า 22 เนื่องด้วยการที่เคยประพฤติเมื่อก่อนนั้น ให้ท่านทั้งหลายทอดทิ้งมนุษยเก่าเสีย, ซึ่งทำให้เน่าเสียไปตามความปรารถนาอันเป็นที่ล่อลวง, 23 และให้วิญญาณจิตต์ของท่านทั้งหลายตั้งขึ้นใหม่, 24 และให้ท่านสวมมนุษย์ใหม่ ซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่ตามแบบอย่างพระเจ้า ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์แห่งความจริง. 25 เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงเลิกการพูดมุสาเสีย, และจงต่างคนต่างพูดตามความจริงกับเพื่อนบ้าน เพราะว่าเราทั้งหลายเป็นอวัยวะซึ่งกันและกัน. 26 โกรธเถิด, แต่อย่าให้เป็นการบาป อย่าให้ถึงตะวันตกท่านยังโกรธอยู่ 27 และอย่าให้มารมีโอกาสได้. 28 ฝ่ายคนที่เคยลักขะโมยก็อย่าให้ลักขะโมยอีกต่อไป แต่ให้ใช้มือกระทำการงานทีดีดีกว่า, เพื่อจะได้มีอะไรๆ แจกให้แก่คนเหล่านั้นที่ขัดสน. 29 อย่าให้คำหยาบคายออกมาจากปากท่านเลย, แต่ให้ใช้คำดีตามแต่จะต้องการซึ่งจะเป็นที่ให้เกิดความจำเริญขึ้น. เพื่อจะเป็นคุณแก่คนเหล่านั้นที่ได้ยิน. 30 และอย่ากระทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเสียพระทัย พระวิญญาณนั้นได้ทรงประทับุตราหมายท่านทั้งหลายไว้ จนถึงวันที่ทรงไถ่ให้รอด. 31 ใจขมขื่น, และใจขัดเคือง, และใจโกรธ, และการทะเลาะเถียงกัน, และการพูดเสียดสีกัน, กับการคิดปองร้ายทุกอย่าง, จงให้อยู่ห่างจากท่านทั้งหลายเถิด 32 และท่านทั้งหลายจงเมตตาซึ่งกันและกัน, มีใจเอ็นดูซึ่งกันและกัน, และอภัยโทษให้กันและกัน, เหมือนพระเจ้าได้ทรงโปรดอภัยโทษให้ท่านทั้งหลายในพระคริสต์ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society