ปัญญาจารย์ 3 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 มีวารกำหนดไว้สำหรับทุกสิ่งและมีวารสำหรับโครงการณ์ทุกอย่างภายใต้ฟ้า: 2 มีวารสำหรับชาตะ, และวารสำหรับมรณะ; มีวารสำหรับปลูก, และวารสำหรับถอนที่ปลูกไว้แล้วนั้น; 3 มีวารสำหรับฆาตกรรม, และวารสำหรับเยียวยา; มีวารสำหรับรื้อทะลายลง, และวารสำหรับก่อสร้างขึ้น; 4 มีวารสำหรับกันแสง, และวารสำหรับสำรวล; มีวารสำหรับร่ำไห้, และวารสำหรับฟ้อนรำ; 5 มีวารสำหรับจะโยนทิ้งก้อนหินเสีย, และวารสำหรับจะเก็บรวบรวมก้อนหินไว้; มีวารสำหรับสวมกอด, และวารสำหรับจะถอยจากการสวมกอดนั้น; 6 มีวารสำหรับแสวงหา, และวารสำหรับสาปศูนย์ไป; มีวารสำหรับเก็บรักษาไว้, และวารสำหรับจะโยนทิ้งไปเสีย; 7 มีวารสำหรับฉีกให้ขาด, และวารสำหรับเย็บเสีย: มีวารสำหรับอมพะนำ, และวารสำหรับเจรจา: 8 มีวารสำหรับรัก, และมีวารสำหรับชัง; มีวารสำหรับทำศึก, และวารสำหรับสงบศึก, 9 คนที่ทำการงานได้ประโยชน์อะไรจากแรงที่ได้ลงไปนั้น? 10 ถ้าได้มองเห็นงานตรากตรำที่พระเจ้าได้ประทานให้บุตรมนุษย์ทั้งหลายเพื่อให้เขาออกแรงกระทำนั้นเสียแล้ว. 11 พระองค์ได้ทรงกระทำสรรพสิ่งให้งดงามตามฤดูกาลของสิ่งนั้น, พระองค์ยังได้ทรงเอาโลกนี้ซ่อนได้จากตาใจของเขาทั้งหลายเสียด้วย, เพื่อมนุษย์จะมองไม่เห็นว่าการงานนั้นๆ พระเจ้าได้ทรงกระทำไว้เสียแล้วตั้งแต่ต้นจนปลาย. 12 ข้าฯ รู้แล้วว่าไม่มีอะไรสำหรับเขาที่จะดีไปกว่าทำใจให้ชื่นชมยินดี, และกระทำดีตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่. 13 มนุษย์ควรจะได้กินและดื่ม, กับชื่นชมความดีความงามในบรรดาการงานของเขา, นี้แหละเป็นของประทานของพระเจ้า. 14 ข้าฯ รู้อยู่ว่า, สารพัตรที่พระเจ้าทรงกระทำนั้นจะคงรูปอยู่เป็นนิจ: ไม่ต้องเพิ่มเติมอะไรเข้าไปในการนั้นอีก, หรือไม่ต้องชักเอาอะไรออกเสียจากการนั้น; พระเจ้าได้ทรงกระทำเช่นนั้นเพื่อให้คนทั้งหลายยำเกรงต่อพระพักตรของพระองค์, 15 อะไรๆ ซึ่งเป็นอยู่นานมาแล้วยังคงเป็นอยู่ถึงเวลานี้; และอะไรๆ ซึ่งจะเป็นมาภายหลังก็ได้เป็นนานมาแล้ว: และพระเจ้าทรงแสวงหาอะไรซึ่งถูกรังแกให้สาปศูนย์เสียแล้วนั้นอีกด้วย 16 อีกประการหนึ่งข้าฯ ได้เห็นที่ภายใต้ดวงอาทิตย์, ว่าความอสัตย์อธรรมแซกอยู่ในที่ของความยุตติธรรม; และความอสัตย์อธรรมแซกอยู่ในที่ของความชอบธรรม. 17 ข้าฯ กล่าวกับตัวข้าฯ เองว่า, พระเจ้าจะพิพากษาคนชอบธรรมและคนอสัตย์อธรรม; เพราะว่าที่นั่นมีวารกำหนดไว้แล้วสำหรับกิจการทุกอย่างและสำหรับบรรดาการงานทั้งหลาย. 18 ข้าฯ ได้กล่าวกับตัวของข้าฯ ว่า, ก็เนื่องด้วยบุตรมนุษย์ทั้งหลาย พระเจ้าจงจะได้สำแดงให้เขาดู, เพื่อเขาจะได้เห็นว่าเขาเป็นแต่สัตว์เดียรัจฉาน. 19 เพราะเมื่อมีอะไรตกแก่บุตรมนุษย์ทั้งหลายก็ตกแก่สัตว์เดียรัจฉานด้วย; แม้มีเหตุอะไรสักอย่างหนึ่งตกแก่สัตว์เดียรัจฉานเช่นความตายตกแก่มนุษย์, ความตายก็ตกแก่สัตว์; เออทั้งผองก็มีลมหายใจอย่างเดียวกัน; และมนุษย์ไม่มีอะไรดียิ่งไปกว่าสัตว์เดียรัจฉาน: เพราะว่าสารพัตรเป็นอนิจจัง. 20 ทั้งสองฝ่ายนั้นลงไปยังที่เดียวกัน; ทั้งสองฝ่ายนั้นเป็นมาจากผงคลีดิน, และทั้งสองฝ่ายก็กลับเป็นผงคลีดินอีก. 21 ใครรู้ว่าจิตต์วิญญาณของบุตรมนุษย์ขึ้นไปสู่เบื้องบนหรือเปล่า, และวิญญาณของสัตว์เดียรัจฉานลงไปข้างล่างใต้ดินหรือเปล่า? 22 ข้าฯ จึงเห็นว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าที่เขาจะชื่นชมยินดีในการงานของตน; ด้วยว่าการงานนั้นแหละเป็นส่วนของเขา; เพราะว่าใครจะนำเขาให้กลับมาดูสิ่งใดๆ ที่จะเป็นมาภายหลังเขานั้นได้เล่า? |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society