พระบัญญัติ 32 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ดูกรฟ้าสวรรค์ทั้งหลาย, จงฟัง, แล้วเราจะกล่าว, และแผ่นดินโลกจงสดับถ้อยคำวาจาของเรา. 2 โอวาทของเราจะหยดลงมาดังน้ำฝน, วาจาของเราจะตกดังน้ำค้าง, ทั้งฝนตกปรอยๆ อยู่ที่หญ้าอ่อน, ดังห่าฝนตกลงมาที่ต้นผักเขียวสด. 3 ด้วยเราจะประกาศพระนามพระยะโฮวา: จงถวายสาธุการในความเป็นใหญ่แก่พระเจ้าของเรา. 4 พระองค์เป็นศิลา, กิจการของพระองค์ครอบคอบ; เพราะทางทั้งปวงของพระองค์ยุตติธรรม: พระองค์เป็นพระเจ้าแห่งความจริงปราศจากความอสัตย์, เป็นผู้ชอบธรรมและซื่อสัตย์. 5 เขาทั้งหลายได้กระทำความชั่วต่อพระองค์, เขาหาเป็นบุตรแห่งพระองค์ไม่, เขามีตำหนิ; เขาเป็นคนชาติคดโกง. 6 โอ้คนโฉดเขลาและคนอปัญญา, เจ้าทั้งหลายจะตอบแทนพระยะโฮวาดังนี้หรือ? พระองค์มิใช่พระบิดาผู้ทรงไถ่เจ้าไว้หรือ? พระองค์มิใช่ผู้ทรงสร้าง, และทำนุบำรุงเจ้าไว้หรือ? 7 จงระลึกถึงวันกาลโบราณ, จงตรึกตรองถึงปีอายุที่ล่วงพ้นไปแล้ว: จงถามบิดาของเจ้า, และเขาจะสำแดงให้เจ้ารู้; จงถามพวกผู้เฒ่าผู้แก่ของเจ้า, และเขาจะบอกเล่าให้ฟัง 8 เมื่อผู้สูงสุดได้ทรงจัดชนชาวประเทศทั้งปวงให้มีที่อยู่เป็นส่วนแบ่ง, เมื่อพระองค์ได้ทรงแยกบุตรทั้งปวงของมนุษย์ออกจากกัน, พระองค์ได้ทรงตั้งเขตต์แดนไว้สำหรับคนทั้งปวงตามจำนวนพวกยิศราเอลนั้น 9 เพราะสมบัติพัสดุของพระยะโฮวาคือไพร่พลของพระองค์; ยาโคบก็เป็นส่วนกรรมสิทธิ์ของพระองค์เอง 10 พระองค์ได้ทรงพบปะเขาในที่ร้างเปล่าและในที่ป่าดงอันเปลี่ยวเปล่า ที่มีสัตว์ป่าร้องอยู่; พระองค์ได้ทรงห้อมล้อมเขาไว้, ได้ทรงสอนเขา, และได้รักษาเขาไว้ดังดวงพระเนตรของพระองค์ 11 นกอินทรีย์คุ้ยกวนรังของมัน. กางปีกออกรับชูลูก, พาไปนั้นฉันใด, พระยะโฮวาก็ได้ทรงนำเขาไปฉันนั้น 12 และหามีพระของชาวต่างประเทศอยู่กับเขาไม่ 13 พระองค์ได้ทรงโปรดให้เขานั่งในที่อันสูงแห่งแผ่นดินโลก, และได้บริโภคผลอุดมแห่งไร่นา; พระองค์ได้ทรงโปรดให้เขาดูดดื่มน้ำผึ้งออกจากศิลา, และน้ำมันออกจากหินอันแข็ง; 14 เนยโค, น้ำนมแกะ, มันลูกแกะ, แกะตัวผู้อันบังเกิดในเมืองบาซาน, และแพะ, กับพืชผลข้าวสาลีอันงาม; และเขาได้ดื่มน้ำผลองุ่นบริสุทธิ์ 15 แต่ยะซูรุนได้อ้วนขึ้นแล้ว, ก็มีพะยศ: เขาอ้วนใหญ่โต, จนหน้าเป็นมันแล้ว, ก็ละลืมพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขานั้น, และมิได้นับถือ (พระเจ้าผู้เป็น) ศิลาแห่งความรอดของเขา 16 เขาทั้งหลายได้ทำให้พระทัยพระองค์มีความหวงแหนด้วยพระอื่นๆ: และได้ให้พระองค์ ทรงพิโรธด้วยการน่าเกลียดของเขา 17 เขาทั้งหลายได้บูชาแก่ผีปีศาจ, ซึ่งหาเป็นพระเจ้าไม่, เขาได้บูชาแก่พระอื่นๆ ซึ่งเขามิได้รู้จัก, คือพระที่เพิ่งมีขึ้นใหม่, ซึ่งปู่ย่าตายายของเขาหาได้นับถือไม่ 18 ศิลาที่ยังเจ้าทั้งหลายให้บังเกิดมานั้นเจ้าก็หลงลืมเสีย, คือได้หลงลืมพระเจ้าผู้ทรงสร้างเจ้าให้เกิดมา 19 ครั้นพระยะโฮวาทรงเห็น, พระองค์ก็ได้ทรงชังเขาทั้งหลาย, เพราะบรรดาบุตรชายหญิงของพระองค์ได้ทำให้เคืองพระทัยพระองค์ 20 พระองค์จึงตรัสว่า, เราจะซ่อนหน้าเราเสียจากเขา, และจะคอยดูที่ปลายมือของเขาจะเป็นอย่างไร: เพราะเขาเป็นคนเชื้อชาติอันลือไป, ในทางชั่ว เป็นลูกที่หามีความซื่อสัตย์ไม่ 21 เขาได้ทำให้เราหวงแหนด้วยของที่หาได้เป็นพระเจ้าไม่; เขาได้ให้เราพิโรธด้วยการชั่วของเขา: เราจะให้เขาอิจฉาคนที่ไม่เป็นชาวประเทศ: และจะให้เขาแค้นเคืองใจด้วยชาวประเทศที่โง่ 22 เพราะไฟแห่งความกริ้วของเราก็ลุกลามอยู่แล้ว, และจะเผาจนถึงที่สุดของที่ลึกแห่งเมืองผี, เราจะเผาแผ่นดินโลกกับพืชผลให้ไหม้, และจะให้รากภูเขาทั้งหลายติดเพลิงอยู่ 23 เราจะประสมความทุกข์ลำบากไว้บนเขาทั้งหลาย; เราจะยิงลูกธนูให้ถูกเขาจนหมดแรง 24 เขาจะต้องซูบผอมด้วยความอดอยาก, และทำลายเสียด้วยความเดือดร้อนและด้วยความฉิบหาย; เราจะใช้สัตว์ร้าย, และสัตว์ที่มีพิษซึ่งเลื้อยคลานในผงคลีดินให้มาต่อยและกัดเขา 25 คมดาบข้างนอก, และความทุกข์ภายในจะทำลายเขาเสียทั้งชายหนุ่มและหญิงสาว, ทั้งบุตรที่ดูดนมและคนแก่ที่ผมหงอก 26 เราได้กล่าวไว้ว่า, จะให้เขากระจัดกระจายไปอยู่ไกล, เราจะให้ชื่อเสียงเขาเสื่อมหายเสียจากท่ามกลางประชาชน; 27 ถ้าหากว่าเรามิได้กลัวซึ่งความเดือดดาลใจของศัตรูนั้น, กลัวว่าศัตรูทั้งหลายของเขาจะคิดหลงผิดกล่าวว่า, กำลังมือของเราเองก็ยกขึ้นสูง, มิใช่พระยะโฮวาได้ทรงกระทำการทั้งปวงนี้ 28 เพราะเขาเป็นชาวประเทศหามีความคิดไม่, และเป็นคนไม่มีความรู้ความเข้าใจ 29 เราปรารถนาจะให้คนเหล่านี้มีปัญญา, ให้รู้เข้าใจสิ่งนี้, เพื่อจะตรองคิดถึงการที่สุดปลายชีวิตเขา! 30 คนหนึ่งจะมีชัยชนะแก่พันคน, และสองคนมีชัยแก่หมื่นคนอย่างไรได้, เว้นแต่ศิลาของเขาได้ขายเขาเสีย, และพระยะโฮวาได้ทรงมอบเขาไว้? 31 เพราะศิลาของเขาไม่เหมือนศิลาของเรา? ศัตรูของเรานั้นเป็นผู้ตัดสินเอง 32 เพราะเถาองุ่นของเขาเป็นเถาองุ่นที่เมืองซะโดม, และที่ไร่เมืองอะโมรา: ผลองุ่นของเขาขมเหมือนดี, และพวงลูกไม้ของเขาก็ขม: 33 น้ำองุ่นของเขาเป็นดังพิษงูใหญ่, และดังพิษงูร้ายกาจ 34 การเหล่านี้ก็อยู่กับเรา และได้เก็บรักษาไว้กับของวิเศษของเรามิใช่หรือ? 35 การแก้แค้นและการตอบแทนเป็นหน้าที่ของเรา เมื่อเท้าของเขาจะพลาดล้มลง เพราะวันกาลลำบากของเขาก็ใกล้เข้า และความทุกข์จะมาถึงเขานั้นก็จะรีบมาเร็ว 36 ด้วยพระยะโฮวาจะทรงพิพากษาไพร่พลของพระองค์ และจะทรงกลับพระทัยระลึกถึงพวกทาสของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงเห็นเรี่ยวแรงเขาหมดแล้ว และไม่มีผู้ใดที่ขังไว้หรือที่ปล่อยไป 37 พระองค์จะตรัสว่า รูปเคารพของเขาคือศิลาที่เขาไว้ใจนั้น 38 ซึ่งได้กินเครื่องบูชาอันอ้วนพี และดื่มน้ำองุ่นที่เขาบูชานั้นอยู่ที่ไหน ให้รูปเคารพนั้นมาช่วยป้องกันเจ้าทั้งหลายไว้เถิด 39 จงรู้เถิดว่า เราคือเราเอง เป็นผู้นั้น นอกจากเราหามีพระอื่นไม่ เราให้ตายและให้มีชีวิต เราได้ให้เจ็บและเราให้หายเจ็บ หามีผู้หนึ่งผู้ใดจะช่วยให้พ้นมือเราได้ไม่เลย 40 เพราะเราชูหัตถ์ของเราถึงฟ้าสวรรค์แล้วว่า เรามีชีวิตอยู่เป็นนิจฉันใด 41 ถ้าเราลับพระแสงของเรา และหัตถ์ยึดเอาความพิพากษาไว้แล้ว เราจะลงโทษแก่ศัตรูทั้งปวงของเรา และจะตอบแทนแก่คนที่ชังเราเป็นแน่ฉันนั้น 42 เราจะให้ลูกธนูของเราดื่มเมาด้วยโลหิต และพระแสงของเราจะประหารเนื้อหนังด้วยโลหิตของผู้ที่ต้องฆ่านั้นกับผู้ที่ต้องเป็นทาสชะเลย คือโลหิตออกจากศีรษะของผู้หัวหน้าแห่งพวกศัตรูของเรานั้น 43 ชนประเทศทั้งหลายเอ๋ย จงยินดีกับไพร่พลของพระองค์ เพราะพระองค์จะแก้แค้นโลหิตของผู้ทาสพระองค์ และจะตอบแทนแก่ผู้ขัดขวางพระองค์อยู่ และพระองค์จะทรงวางค่าไถ่แผ่นดิน คือไพร่พลของพระองค์เอง 44 โมเซได้มาพรรณนาบรรดาคำเพลงนี้ในหูคนทั้งปวง, ทั้งโมเซ, และยะโฮซูอะบุตรของนูนนั้น. 45 และโมเซได้กล่าวถ้อยคำทั้งปวงเหล่านี้แก่พวกยิศราเอลเสร็จสิ้นแล้ว; 46 ก็กล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า, เจ้าทั้งหลายจงสนใจในถ้อยคำทั้งปวงเหล่านี้ที่เราได้สำแดงแก่เจ้าทั้งหลายในวันนี้, เจ้าทั้งหลายจงสั่งให้บุตรหลานของเจ้า, เชื่อฟังทำตามบรรดาถ้อยคำพระบัญญัติเหล่านี้. 47 ด้วยการนี้หาเป็นการเปล่าของเจ้าทั้งหลายไม่; แต่เป็นชีวิตของเจ้าทั้งหลาย, และการนี้จะทำให้เจ้าทั้งหลายจำเริญชีวิตนานอยู่ในแผ่นดิน, ซึ่งเจ้าทั้งหลายจะข้ามแม่น้ำยาระเด็นไป ปกครองอยู่นั้น. 48 ในเวลาวันนั้นพระยะโฮวาตรัสแก่โมเซว่า, เจ้าจงไปทั้งภูเขาอะบารีม, 49 ซึ่งอยู่ในแผ่นดินโมอาบ, ขึ้นไปบนภูเขานะโบนั้น, ที่อยู่ตรงหน้าเมืองยะริโฮ: แลดูแผ่นดินคะนาอัน, ซึ่งเราประทานให้แก่พวกยิศราเอลเป็นที่อยู่ของเขา; 50 แล้วเจ้าจะตายอยู่ที่ภูเขาซึ่งเจ้าจะขึ้นไปนั้น, รวมอยู่กับปู่ย่าตายายของเจ้า, เหมือนอย่างอาโรนพี่ชายของเจ้าซึ่งตายอยู่ที่ภูเขาโฮระ, และได้รวมอยู่กับปู่ย่าตายายของเขานั้น: 51 เพราะเจ้าได้ทำผิดต่อเราในท่ามกลางพวกยิศราเอลที่น้ำมะรีบาคาเดศ, ในป่าซีนนั้น; เพราะเจ้ามิได้ให้นามของเรา เป็นที่เกรงกลัวในท่ามกลางพวกยิศราเอล, 52 เพราะเจ้าจะแลเห็นแผ่นดินนั้นซึ่งอยู่ตรง หน้าเจ้า; แต่เจ้าจะหาได้ไปอยู่ในแผ่นดินซึ่งเราจะให้แก่พวกยิศราเอลนั้นไม่ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society