พระบัญญัติ 30 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 เมื่อบรรดาเหตุการณ์เหล่านี้มาถึงเจ้าทั้งหลายแล้ว, ทั้งความอวยพร, และความแช่ง, ซึ่งเราได้ตั้งไว้ตรงหน้าเจ้า, และเจ้าทั้งหลายจะระลึกขึ้นในความนี้ที่ท่ามกลางประเทศทั้งปวง, ที่พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าได้ทรงขืนให้เจ้าไปอยู่นั้น, 2 และเจ้าจะกลับหันหาพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า, และจะเชื่อฟังถ้อยคำของพระองค์ตามบรรดาคำที่เราสั่งเจ้าไว้ในวันนี้. ทั้งตัวเจ้าและบุตรทั้งหลายของเจ้า. ด้วยสุดจิตต์, สุดใจของเจ้า; 3 พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าจะทรงโปรดให้เจ้าทั้งหลายกลับจากการเป็นทาสชะเลย, จะทรงเมตตาแก่เจ้าทั้งหลาย. และจะทรงหันหวนรวบรวมพวกเจ้ามาจากประเทศทั้งปวง. ที่พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าได้ทรงบันดาลให้เจ้าทั้งหลายกระจายไปอยู่นั้น. 4 ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดในพวกเจ้าถูกขับไล่ไปอยู่ที่สุดปลายสวรรค์, พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าจะทรงรวบรวมเจ้า, มาจากที่นั่น: 5 และพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าจะทรงพาเจ้าทั้งหลายมาถึงแผ่นดินซึ่งปู่ย่าตายายของเจ้าอยู่ก่อน, เจ้าทั้งหลายจะปกครองแผ่นดินนั้น; และพระองค์จะทรงกระทำคุณแก่เจ้า, ให้เจ้าทั้งหลายทวีขึ้นมากกว่าปู่ย่าตายายของเจ้าอีก. 6 พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าจะทรงดัดแปลงใจของเจ้า, และใจบุตรหลานเจ้า. ให้รักพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดจิตต์, สุดใจของเจ้า, เจ้าทั้งหลายจึงจะมีชีวิตอยู่ได้. 7 และพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าจะทรงยกความแช่งทั้งปวงนี้วางลงบนพวกศัตรูของเจ้า, และเหมือนคนทั้งปวงที่ชังและย่ำยีเจ้าทั้งหลาย. 8 เจ้าทั้งหลายจึงจะกลับเชื่อฟังถ้อยคำแห่งพระยะโฮวา, และประพฤติตามข้อบัญญัติทั้งปวงของพระองค์ ซึ่งเราสั่งเจ้าไว้ในวันนี้. 9 ถ้าเจ้าทั้งหลายจะเชื่อฟังถ้อยคำแห่ง พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า, และรักษาข้อพระบัญญัติ, และข้อกฎหมายทั้งปวงของพระองค์, ซึ่งได้เขียนไว้ในหนังสือพระบัญญัตินี้, ถ้าเจ้าทั้งหลายกลับหันหาพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดจิตต์สุดใจของเจ้าแล้ว. 10 พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า, จะทรงบันดาลให้กิจการที่ทำด้วยมือของเจ้าจำเริญ, และจะทรงบันดาลให้บุตรทั้งหลายของเจ้า, กับลูกสัตว์ทั้งปวง, และพืชผลที่ดินของเจ้าจำเริญดี, เพราะพระยะโฮวาจะทรงยินดีพระทัยในเจ้าทั้งหลาย และจะทรงอวยพรแก่เจ้าทั้งหลายเหมือนพระองค์ได้ทรงกระทำแก่ปู่ย่าตายายของเจ้านั้น 11 เพราะพระบัญญัติที่เราสั่งเจ้าทั้งหลายไว้ในวันนี้, ไม่เป็นข้อยากเหลือปัญญาของเจ้า, และมิได้อยู่ห่างไกลจากเจ้าทั้งหลาย. 12 พระบัญญัตินั้นมิได้อยู่บนสวรรค์, ที่เจ้าจะถามว่า, ใครขึ้นไปยังสวรรค์ได้, และนำเอาพระบัญญัตินั้นมาอ่านให้เราฟังเพื่อเราจะทำตาม? 13 พระบัญญัตินั้นมิได้อยู่พ้นทะเลไปข้างโน้น, ที่เจ้าจะถามว่า, ใครจะข้ามทะเล, ไปนำพระบัญญัติมาอ่านให้เราฟัง, เพื่อเราจะทำตามพระบัญญัตินั้น? 14 แต่คำนั้นก็อยู่ใกล้เจ้าทั้งหลาย, คือในปาก, และในใจของเจ้า, เจ้าจึงทำตามคำนั้นได้ 15 นี่แน่ะ, วันนี้เราได้ตั้งชีวิตและความดี, กับความตาย และความชั่วไว้ตรงหน้าเจ้าทั้งหลาย, 16 ในข้อความที่เราได้สั่งเจ้าทั้งหลายไว้ในวันนี้ว่า, ให้รักพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า, ให้เดินตามทางทั้งหลายของพระองค์, และรักษาข้อบัญญัติข้อกฎหมายและข้อพิพากษาทั้งปวงของพระองค์, เพื่อเจ้าทั้งหลายจะได้มีชีวิตและทวีมากขึ้น, พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าจะทรงอวยพรให้เจ้าทั้งหลายในแผ่นดินซึ่งเจ้าจะไปปกครองนั้น. 17 แต่ถ้าใจของเจ้าแปรปรวน, มิได้เชื่อฟัง, และหลงไปไหว้นมัสการปฏิบัติพระอื่นๆ; 18 เรากล่าวแก่เจ้าทั้งหลายวันนี้ว่า, เจ้าทั้งหลายจะฉิบหายเสียเป็นแน่; จะหาจำเริญชีวิตในแผ่นดิน, ซึ่งเจ้าจะข้ามแม่น้ำยาระเด็นไปปกครองไม่. 19 วันนี้เราก็ต้องอ้างสวรรค์และแผ่นดินมาให้เป็นพะยานต่อหน้าเจ้าทั้งหลายว่า, เราได้ทั้งชีวิตและความตาย, กับความอวยพรและความแช่งไว้ตรงหน้าเจ้าทั้งหลาย; เหตุฉะนี้เจ้าทั้งหลายจะเลือกเอาข้างชีวิต, ตัวเจ้าและเผ่าพันธุ์ของเจ้าจะได้มีชีวิตจำเริญอยู่; 20 เพื่อเจ้าทั้งหลายจะได้รักพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า, เพื่อฟังถ้อยคำของพระองค์, และนับถือพระองค์, เพราะพระองค์เป็นชีวิตของเจ้า, เป็นผู้ทรงโปรดให้เจ้าทั้งหลายมีชีวิตยั่งยืนอยู่; เพื่อ เจ้าทั้งหลายจะได้ตั้งอยู่ในแผ่นดินซึ่งพระยะโฮวาได้ทรงปฏิญาณไว้กับปู่ย่าตายายของเจ้า, คืออับราฮาม, ยิศฮาค, และยาโคบ. ว่าจะประทานให้แก่ท่าน |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society