พระบัญญัติ 10 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ครั้งนั้นพระยะโฮวาตรัสแก่เราว่า, เจ้าจงสกัดศิลาอีกสองแผ่นให้เหมือนอย่างเดิมนั้น, ขึ้นมาหาเราที่ภูเขา, และทำหีบไม้ไว้ด้วย. 2 เราจะจารึกไว้ที่ศิลานั้น ซึ่งถ้อยคำทั้งหลายที่อยู่ในแผ่นศิลาเดิมที่เจ้ากระทำหักนั้น, แล้วจงเอาศิลานั้นเก็บไว้ในหีบไม้. 3 เราจึงเอาไม้ซิติมทำหีบ, และได้สกัดศิลาได้สองแผ่นเหมือนอย่างเดิมนั้น, แล้วได้ขึ้นไปบนภูเขา, ถือแผ่นศิลาสองแผ่นไว้ในมือของเรา. 4 แล้วพระองค์ได้จารึกไว้ที่ศิลานั้น, ซึ่งเป็นบัญญัติสิบประการ, ให้เหมือนครั้งนั้นที่พระยะโฮวาได้ตรัสแก่เจ้าทั้งหลายที่ภูเขาออกมาจากท่ามกลางเปลวเพลิงในที่ประชุมกันนั้น: แล้วพระยะโฮวาได้ประทานแผ่นศิลานั้นไว้แก่เรา. 5 เราจึงได้หันกลับลงมาจากภูเขา, และได้เก็บแผ่นศิลานั้นไว้ในหีบไม้ที่เราได้ทำนั้น; และแผ่นศิลาก็อยู่ในที่นั้นตามคำซึ่งพระยะโฮวาตรัสสั่งแก่เรานั้น. 6 (พวกยิศราเอลก็ยกเดินไป จากตำบลบะเอโรธบะเนยะอะคานมาถึงตำบลโมเซร, ที่นั่นอาโรนถึงแก่ความตาย, ต้องฝังศพไว้ที่นั่น; และเอลิอาเซอร์บุตรของอาโรนได้ทำการรับที่ปุโรหิตแทนบิดา. 7 และจากที่นั้นเขายกเดินไปถึงฆดโฆดา; และจากฆดโฆดาไปถึงโยตบาธา, ซึ่งเป็นเมืองที่มีลำธารมาก. 8 ครั้งนั้นพระยะโฮวาได้จัดเลือกตระกูลเลวี, ให้หามหีบสัญญาไมตรีของพระยะโฮวา, ทรงให้ยืนต่อพระพักตรพระยะโฮวา ปฏิบัติพระองค์, และให้พรในนามของพระองค์ จนถึงทุกวันนี้. 9 เหตุฉะนี้พวกเลวีหามส่วนแบ่งกับพวกพ้องของตนไม่; พระยะโฮวาเป็นส่วนแบ่งของเขา, ตามซึ่งพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าได้ตรัสแก่เขาทั้งหลาย.) 10 เราได้อยู่ที่ภูเขาเหมือนครั้งเดิมนั้น, ถึงสี่สิบวันสี่สิบคืน: ครั้งนั้นพระยะโฮวาได้ทรงฟังเราด้วย; และพระยะโฮวาจะไม่ทำลายเจ้า. 11 พระยะโฮวาตรัสแก่เราว่า, เจ้าจะลุกขึ้น, เดินไปข้างหน้าคนทั้งปวงนั้น; เขาทั้งหลายจึงจะข้ามไปอยู่ที่แผ่นดิน, ซึ่งเราได้ปฏิญาณไว้แก่ปู่ย่าตายายของเขาว่าจะให้แก่เขานั้น 12 ดูกร, พวกยิศราเอล, บัดนี้พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าจะให้เจ้าทั้งหลายกระทำอย่างไร, คือพระองค์ก็จะให้ เกรงกลัวพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า, ดำเนินในทางทั้งปวงของพระองค์, รักและปฏิบัติพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดจิตต์สุดใจของเจ้า. 13 และรักษาข้อบัญญัติ และข้อกฎหมายทั้งปวงพระยะโฮวา, ซึ่งเราได้สั่งเจ้าทั้งหลายในวันนี้ เป็นที่ให้เจ้าทั้งหลายจำเริญ? 14 นี่แน่ะ, ฟ้าอากาศและฟ้าสวรรค์อันสูงเป็นของพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า, และแผ่นดินโลกกับสิ่งสารพัตรเป็นของพระองค์. 15 แต่พระยะโฮวาได้ทรงยินดีในปู่ย่าตายายของเจ้าและรักเขา, และได้ทรงเลือกเผ่าพันธุ์ของเขา, คือเจ้าทั้งหลายยิ่งมากกว่าคนทั้งปวง, เหมือนเป็นอยู่ทุกวันนี้. 16 เหตุฉะนี้ใจ (หยิ่งมานะ) ของเจ้าทั้งหลายก็จงถ่อมน้อมลง, และอย่าให้ใจคอแข็งกระด้างอีกเลย. 17 ด้วยพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า. เป็นพระเจ้าเหนือพระอื่นทั้ง ปวง, เป็นพระองค์เจ้าเหนือเจ้านายทั้งหลาย, พระเจ้าองค์ใหญ่, ผู้ทรงฤทธิ์อันน่ากลัว. ผู้มิได้เห็นแก่บุคคลผู้ใด, และมิได้เห็นแก่อามิษสินบน. 18 พระองค์ทรงรับฟ้องของลูกกำพร้าและหญิงหม้าย. และทรงเมตตาคนแขกเมือง, โดยได้ประทานอาหารและเครื่องนุ่งห่มให้เขา 19 เหตุฉะนี้ เจ้าทั้งหลายจงรักคนที่เป็นแขกเมือง; เพราะเจ้าทั้งหลายเองได้เป็นแขกเมืองอยู่ในประเทศอายฆุบโต. 20 จงเกรงกลัวพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้า; จงปฏิบัติและนับถือพระองค์; จงสาบานด้วยนามของพระองค์ 21 พระองค์เป็นที่ยกย่องของเจ้าทั้งหลาย, และเป็นพระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย. ผู้ที่ได้ทรงกระทำการใหญ่ และการน่ากลัวเหล่านี้, ซึ่งตาของเจ้าทั้งหลายได้เห็น. 22 ปู่ย่าดายายของเจ้าได้ลงไปยังประเทศอายฆุบโตเป็นคนเจ็ดสิบคน; และบัดนี้พระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าได้บันดาลให้เจ้ามากขึ้นดุจดาวในอวกาศ |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society