ดาเนียล 5 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ราชาเบละซาซัรได้ทรงจัดให้มีการเลี้ยงใหญ่สำหรับเจ้านายพันคน, แล้วได้เสวยน้ำจัณฑ์ต่อหน้าเจ้านายพันคนนั้น. 2 เมื่อเบละซาซัรทรงมึนน้ำจัณฑ์จึงมีรับสั่งให้เอาบรรดาภาชนะเครื่องใช้สอยทำด้วยทองคำและเงิน, ซึ่งราชานะบูคัศเนซันราชบิดาใด้กวาดมาจากวิหารในกรุงยะรูซาเลม, ออกมาให้กษัตริย์และเจ้านาย, พระสนมและนางห้าม, ใส่เหล้าดื่ม. 3 เขาทั้งหลายจึงได้เอาภาชนะเครื่องทองคำซึ่งถูกกวาดมาจากวิหารแห่งพระเจ้าในกรุงยะรูซาเลมนั้น, ออกมาถวาย; แล้วกษัตริย์กับเจ้านาย, พระสนมและนางห้ามของพระองค์, ได้ใช้ใส่เหล้าดื่ม. 4 เขาทั้งหลายได้ดื่มเหล่าองุ่นพลางก็ได้สรรเสริญเหล่าพระผู้เป็นพระของทองคำและเงิน, ทองเหลืองและเหล็ก, ไม้และหิน. 5 ในทันใดนั้นก็มีนิ้วมือคนปรากฏออกมาเขียนที่ฝาผนังตรงดวงประทีปในราชวัง; และกษัตริย์นั้นได้ทอดพระเนตรเห็นนิ้วมือซึ่งเขียนนั้น. 6 ขณะนั้นพักตรอันชื่นบานของกษัตริย์ก็สลดลงพระทัยก็ตะลงพรึงเพริด, พระชงค์ก็อ่อนไป, พระชานุก็กะทบกัน. 7 กษัตริย์ได้ทรงรับสั่งเรียกเสียงดังให้พาตัวพวกหมอดู, พวกเคเซ็ดและพวกนักทำเล่ห์กลเข้ามาเฝ้า; แล้วกษัตริย์จึงได้ตรัสกับปวงปราชญ์เมืองบาบูโลนว่า, “คนใดอ่านอักษรนั้นออก, และแปลได้, คนนั้นจะได้เสื้อยศสีม่วง, และได้คล้องสายสร้อยคอทองคำ, แล้วจะตั้งให้เป็นอุปราชชั้นตรีครองแผ่นดินนี้.” 8 แต่เมื่อปวงปราชญ์ของกษัตริย์เข้ามาแล้วก็ไม่มีใครอ่านอักษรนั้นออก, หรือแปลความในอักษรนั้นให้กษัตริย์ฟังได้. 9 แล้วราชาเบละซาซัรก็มีพระทัยทุรนทุรายมาก, พระพักตรก็สลดไป, และพวกเจ้านายก็พากันฉงนสนเท่ห์. 10 เมื่อราชินีได้สดับเรื่องของราชาและของเจ้านายก็เสด็จเข้ามาในท้องพระโรงการเลี้ยง; ราชินีจึงกราบทูลว่า, “ข้าแต่พระราชา, ขอทรงพระเจริญเป็นนิจเถิด, ขออย่าให้ฝ่าพระบาทมีพระทัยทุรนทุราย หรือให้พระพักตรของฝ่าพระบาทสลดไปเลย. 11 ด้วยยังมีชายอยู่คนหนึ่งในแผ่นดินของฝ่าพระบาท, และวิญญาณของเหล่าพระบริสุทธิ์สถิตอยู่ในคนนั้น, ในครั้งรัชชกาลแห่งพระราชบิดาของฝ่าพระบาท, ความสว่างไสว และความเข้าใจกับสติปัญญาเหมือนพระปัญญาของปวงพระได้ครอบงำอยู่กับชายคนนี้, และราชานะบูคัศเนซัรพระราชบิดาของฝ่าพระบาทจึงได้แต่งตั้งเขาให้เป็นเจ้ากรมกองโหราศาสตร์ดูแลพวกหมอดู, พวกเคเซ็ดและพวกนักทำเล่ห์กล. 12 เพราะว่าดานิเอล, ที่ถูกขนานนามว่าเบละตะซาซัรนั้นมีความปรีชาสามารถ, ความรู้, ความเข้าใจ, และความชำนิชำนาญในการแก้พระสุบิน, แก้ปริศนาและแก้เงื่อนงำ, บัดนี้ขอทรงเรียกดานิเอลให้เข้ามาเฝ้า, แล้วเขาจะได้ถวายคำแก้พระสุบิน. 13 แล้วเขาจึงพาดานิเอลเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน, พระองค์จึงตรัสแก่ดานิเอลว่า, “ท่านคือดานิเอล, ชะเลยชาติยูดาย, ผู้ที่พระราชบิดาของเราได้กวาดเอามาจากเมืองยูดายใช่ไหม? 14 เราได้ยินเรื่องราวกล่าวถึงท่านว่า, วิญญาณของปวงพระสิงสถิตอยู่ภายในท่าน, ดังนั้นความสว่างสไว, และความเข้าใจ, กับปัญญาอันหลักแหลมจึงมีอยู่ในตัวท่าน. 15 บัดนี้เขาก็นำเอาปวงปราชญ์และหมอดูมาเฝ้าเรา, เพื่อเขาจะได้อ่านอักษรนี้, และแปลความของอักษรนี้ให้เราฟัง; แต่เขาเหล่านั้นหาแปลความออกไม่. 16 อย่างไรก็ตาม, บัดนี้เราได้ยินข่าวถึงท่านว่า, ท่านแปลความนั้นออก, และแก้เงื่อนงำนั้นหลุดได้. เอาเถอะ, ถ้าท่านอ่านตัวอักษรนี้ออกและแปลให้เราได้, ท่านก็จะได้เสื้อยศสีม่วง, และได้คล้องสายสร้อยคอทองคำ, แล้วจะตั้งให้เป็นอุปราชชั้นตรีครองแผ่นดินนี้.” 17 ฝ่ายดานิเอลจึงกราบทูลกษัตริย์นั้นว่า, “ขอให้ทรงเก็บของประทานนั้นไว้สำหรับพระองค์, และทรงประทานบำเหน็จนั้นให้แก่ผู้อื่นเถิดพิจ้ะค่ะ; ฝ่ายข้าพเจ้าจะอ่านอักษรนี้ถวายพระราชา, และแปลความตามอักษรนั้นให้ฝ่าพระบาทฟัง, 18 ข้าแต่ราชัน, พระเจ้าผู้สูงสุดนั้นได้ประทานแผ่นดินนี้, พร้อมทั้งสง่าราศี, และศักดานุภาพให้แก่ราชานะบูคัศเนซัร, พระราชบิดาของฝ่าพระบาท; 19 คำที่พระเจ้าผู้ทรงฤทธาศักดานุภาพ, จึงได้ทรงประทานให้ประชาชนทั้งปวงทุกชาติทุกภาษาเกรงขามคร้ามพระราชา; พระราชาพอพระทัยประทานให้ผู้ใดก็ประทานให้แก่ผู้นั้น, พอพระทัยไว้ชีวิตผู้ใดก็ไว้ชีวิตแก่ผู้นั้น; พอพระทัยแต่งตั้งผู้ใดก็แต่งตั้งผู้นั้น, พอพระทัยถอดผู้ใดก็ถอดผู้นั้นเสีย. 20 แต่เมื่อพระทัยของพระราชาเหลิงขึ้น, และจิตต์ใจแข็งกะด้างไปเพราะความจองหอง, พระราชาก็ถูกถอดไปเสียจากพระที่นั่ง, และสร่าราศีก็ถูกริบไปเสียจากพระราชา. 21 ท่านถูกขับไล่ไปเสียจากวงการของมนุษย์, และจิตต์ใจของท่านถูกสาปให้คล้ายใจสัตว์เดียรัจฉาน, แล้วได้อาศัยอยู่กับลาป่า, เขาได้เอาหญ้าให้ท่านเสวยดุจเลี้ยงโค, และพระกายต้องตากน้ำค้างฟ้าเปียกชุ่ม, จนท่านได้เรียนรู้แล้วว่า, พระเจ้าผู้สูงสุดนั้นได้ทรงบงการอาณาจักรของมนุษย์, และพระองค์พอพระทัยจะตั้งผู้ใดก็ทรงตั้งผู้นั้นไว้ให้ครอบครอง. 22 ข้าแต่ราชันเบละซาซัร, เจ้าลูกยาเธอ, แม้นว่าฝ่าพระบาทได้รู้เรื่องราวเหล่านี้ทั้งสิ้นแล้ว, แต่ก็ยังหาได้ถ่อมพระทัยของฝ่าพระบาทลงไม่; 23 แต่กลับได้ยกพระองค์ขึ้นข่มพระเจ้าแห่งสรวงสวรรค์, ในข้อนี้เองฝ่าพระบาทได้ใช้ให้เขาเอาเครื่องภาชนะใช้สรอยในวิหารของพระเจ้านั้นมาต่อพระพักตรฝ่าพระบาท, แล้วฝ่าพระบาทกับเจ้านาย, พระสนมและนางห้าม, ได้ใช้ภาชนะเหล่านั้นใส่เหล้าองุ่นดื่มกัน; พลางได้สรรเสริญปวงพระของเงินและทอง, ทองเหลืองและเหล็ก, ไม้และหิน, ซึ่งหาได้เห็น, หาได้ยิน, และหาได้รู้ไม่; แต่ส่วนพระเจ้าผู้ทรงกำชีวิตของฝ่าพระบาทไว้ในอุ้งพระหัตถ์, และบงการวิถีทางทั้งมวลของฝ่าพระบาทนั้นซิ, ฝ่าพระบาทกลับไม่สรรเสริญ. 24 กระนั้นจึงได้ประทานมือมาแต่พระเจ้า, เขียนอักษรนี้. 25 อักษรที่เขียนนั้นอ่านว่าดังนี้, มะนา, ธะเคล, อูฟาระซีน. 26 คำแปลของอักษรนั้นคือ, มะนาแปลว่า, พระเจ้าได้นับวันรัชชกาลของฝ่าพระบาทไว้, และวันครบกำหนดก็มาถึงแล้ว; 27 ธะเคลแปลว่าฝ่าพระบาทลูกชั่งในตราชู, ปรากฏว่าหย่อนอยู่; 28 อูฟาระซีนแปลว่าแผ่นดินของฝ่าพระบาทถูกแบ่งแยกปันกันระหว่างชาวมาดายและชาวฟารัศ.” 29 บัดนั้นราชาเบลาซาซัรก็มีรับสั่งให้ดานิเอลสวมเสื้อยศสีม่วง, และคล้องสายสร้อยคอทองคำแล้วจึงมีหมายประกาศแต่งตั้งดานิเอล, ให้เป็นอุปราชชั้นตรีครองแผ่นดิน. 30 ในกลางคืนวันนั้นราชาเบละซาซัรกษัตริย์ของชาวเคเซ็ดก็ถูกสำเร็จโทษ. 31 แล้วราชาดาระยาศชาวมาดายได้ขึ้นเสวยราชย์ในแผ่นดินนั้นมีพระชนม์มายุได้ประมาณสิบสองพรรษา |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society