โคโลสี 3 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 1940ชีวิตของท่านซ่อนไว้กับพระคริสต์ 1 ถ้าเมื่อท่านทั้งหลายถูกชุบให้เป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์แล้ว, ก็จงแสวงหาสิ่งเหล่านั้นซึ่งอยู่เบื้องบน, ที่พระคริสต์สถิต, คือประทับอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า. 2 จงฝังความคิดของท่านไว้กับสิ่งทั้งหลายที่อยู่เบื้องบน, ไม่ใช่กับสิ่งทั้งหลายซึ่งอยู่ที่แผ่นดินโลก. 3 เพราะว่าท่านทั้งหลายได้ตายแล้ว, และชีวิตของท่านซ่อนไว้กับพระคริสต์ในพระเจ้า. 4 เมื่อพระคริสต์ผู้เป็นชีวิตของเราทั้งหลายจะทรงปรากฏ, ขณะนั้นท่านทั้งหลายก็จะปรากฏด้วยกันกับพระองค์ในสง่าราศีด้วย จงสวมมนุษย์ใหม่ตามแบบพระฉาย 5 เหตุฉะนั้นจงประหารอวัยวะของท่านซึ่งอยู่ฝ่ายโลกนี้ คือการล่วงประเวณี, การโสโครก, ราคะตัณหา, ความปรารถนาการชั่ว, และความโลภ ซึ่งเป็นการไหว้รูปเคารพ. 6 เพราะเหตุการณ์เหล่านี้พระอาชญาแห่งพระเจ้าก็ลงแก่คนทั้งปวงที่ไม่เชื่อฟัง. 7 ครั้งหนึ่งท่านทั้งหลายเคยได้ประพฤติในการเหล่านี้ด้วย, เมื่อท่านยังอยู่ปะปนในสิ่งเหล่านี้. 8 แต่บัดนี้ สารพัตรสิ่งเหล่านี้ท่านทั้งหลายจงเปลื้องทิ้งเสียอีกด้วย คือความโกรธ, ความขัดเคืองกัน, การคิดปองร้าย, การพูดเสียดสี, คำพูดโลนลามกที่ออกจากปากของท่าน 9 อย่าพูดมุสาต่อกันและกัน เพราะว่าท่านทั้งหลายได้ถอดทิ้งมนุษย์เก่า กับการทั้งหลายของมนุษย์นั้นเสียแล้ว, 10 และได้สวมมนุษย์ใหม่, ที่กำลังทรงสร้างขึ้นใหม่ในความรู้ตามแบบพระฉายของพระองค์ผู้ได้ทรงสร้างขึ้นนั้น. 11 ในการซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่นั้นพวกเฮเลนก็ไม่มี, พวกยูดายก็ไม่มี, ผู้ที่รับพิธีสุนัดหรือไม่ได้รับพิธีสุนัดก็ไม่มี, พวกคนต่างชาติหรือพวกคนสถุลชาติก็ไม่มี, ทาสหรือไทยก็ไม่มี แต่ว่าพระคริสต์เป็นสารพัตร, และดำรงอยู่ในสารพัตร จงกระทำทุกสิ่งในพระนามพระเยซู 12 เหตุฉะนั้นจงสวมใจเมตตา, ใจปราณี, ใจถ่อม, ใจอ่อนสุภาพ, ใจอดทนไว้นาน, เหมือนดังพวกที่พระเจ้าทรงเลือกไว้, เป็นพวกที่บริสุทธิ์และเป็นพวกที่ทรงรัก. 13 จงผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกัน, และถ้าแม้ว่าผู้ใดมีเรื่องราวต่อกัน, ก็จงยกโทษให้กันและกัน. พระคริสต์ได้ทรงโปรดยกโทษของท่านทั้งหลายอย่างไร, ท่านจงกระทำอย่างนั้นเหมือนกัน. 14 แล้วจงสวมความรักทับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด, เพราะความรักย่อมผูกพันสิ่งเหล่านี้ไว้ให้ถึงซึ่งความสำเร็จ. 15 และจงให้สันติสุขแห่งพระคริสต์ครอบครองอยู่ในใจของท่านทั้งหลาย ในสันติสุขนั้นทรงเรียกท่านทั้งหลายไว้ให้เป็นกายอันเดียวด้วย และท่านทั้งหลายจงขอบพระคุณ. 16 จงให้พระคำของพระคริสต์ดำรงอยู่ในท่านทั้งหลายบริบูรณ์ด้วยปัญญาทั้งปวง สั่งสอนและเตือนสติซึ่งกันและกันด้วยเพลงสดุดี, เพลงนมัสการ, และเพลงสรรเสริญ, คือร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าด้วยใจกรุณาคุณ. 17 และท่านจะประกอบกิจสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ดี, จะเป็นด้วยวาจาหรือการประพฤติต่างๆ ก็ดี, จงกระทำทุกสิ่งในพระนามพระเยซูเจ้า, คือขอบพระคุณพระเจ้าพระบิดาโดยพระองค์นั้น 18 ฝ่ายภรรยาจงยอมฟังสามีของตนในองค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งเป็นการสมควร. 19 ฝ่ายสามีก็จงรักภรรยาของตน, และอย่าพูดคำขมขื่นต่อนาง. 20 ฝ่ายบุตรจงนบนอบเชื่อฟังบิดามารดาของตนในทุกสิ่ง, เพราะการนี้เป็นที่ชอบพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า. 21 ฝ่ายบิดาก็อย่ายั่วบุตรของตนให้ขัดเคืองใจ, เกรงว่าเขาจะท้อใจ. 22 ฝ่ายพวกทาสจงเชื่อฟังผู้ที่เป็นนายของตนตามเนื้อหนังทุกข้อ, ไม่ใช่อย่างคนที่ทำต่อหน้า, เช่นผู้ที่ทำให้ชอบใจคน แต่ทำด้วยน้ำใสใจจริงโดยเกรงกลัวองค์พระผู้เป็นเจ้า. 23 ท่านจะกระทำสิ่งใด, ก็จงกระทำด้วยเต็มใจ, เหมือนกระทำถวายพระเจ้า, ไม่ใช่เหมือนกระทำแก่มนุษย์ 24 ด้วยรู้แล้วว่าท่านทั้งหลายคงจะรับบำเหน็จจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นมฤดก, เพราะว่าท่านทั้งหลายปรนนิบัติพระคริสต์เจ้า. 25 ด้วยว่าผู้ที่กระทำการผิดก็จะรับผลตามการผิดที่เขาได้กระทำนั้น และไม่มีการทรงเห็นแก่หน้าเลย. |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society