โคโลสี 2 - พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 19401 ด้วยว่าข้าพเจ้าใคร่ให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า, ข้าพเจ้าสู้อุสส่าห์เพราะท่านทั้งหลายมากเท่าไร, และเพราะชาวเมืองละโอดีไกอะ, และเพราะคนทั้งปวงที่ยังไม่ได้เห็นใบหน้าของข้าพเจ้า 2 เพื่อเขาทั้งหลายจะได้ความชูใจ, คือเข้าติดสนิทกันในความรัก, จนถึงความอุดมบริบูรณ์แห่งความเข้าใจ, เพื่อเขาจะได้รู้ข้อลับลึกของพระเจ้า, คือพระคริสต์. 3 คลังสติปัญญาและความรู้ทุกอย่างทรงปิดซ่อนไว้ในพระองค์นั้น. 4 ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้, เพื่อมิให้ผู้ใดล่อล่วงท่านด้วยคำชักชวนอันน่าฟัง. 5 เพราะว่ามาตรแม้นตัวของข้าพเจ้าไม่อยู่กับท่าน, แต่ใจของข้าพเจ้ายังอยู่กันท่าน, และมีความยินดีที่แลเห็นท่านทั้งหลายอยู่เรียบร้อย, และเห็นความเชื่อมั่นคงของท่านในพระคริสต์ 6 เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายได้รับพระเยซูคริสต์เจ้าแล้วฉันใด, จงดำเนินตามพระองค์ฉันนั้น. 7 หยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์, และตั้งมั่นคงอยู่ในความเชื่อ, เหมือนที่ท่านได้รับคำสอนแล้ว, และบริบูรณ์ด้วยการขอนพระคุณ ท่านได้ความครบบริบูรณ์ในพระองค์ 8 จงระวังให้ดี, เกรงว่าจะมีผู้หนึ่งผู้ใดนำท่านทั้งหลายให้หลงด้วยหลักปรัชญาและด้วยคำล่อลวงเหลวใหล, ตามเรื่องซึ่งมนุษย์สอนกันต่อๆ มานั้น, ตามโลกธรรม, และไม่ใช่ตามพระคริสต์. 9 เพราะว่าในพระองค์นั้น สภาพของพระเจ้าทรงดำรงอยู่เต็มบริบูรณ์, 10 และท่านทั้งหลายได้ความครบบริบูรณ์ในพระองค์นั้น. ผู้เป็นศีรษะแห่งสารพัตรที่มีบรรดาศักดิ์และที่มีฤทธิ์. 11 ในพระองค์นั้น ท่านทั้งหลายได้รับพิธีสุนัดที่มือมนุษย์มิได้ทำ, โดยที่ท่านได้ทอดทิ้งกายแห่งเนื้อหนังเสียเพราะได้รับพิธีสุนัดแห่งพระคริสต์ 12 และได้ถูกฝังไว้กับพระองค์ในพิธีบัพติศมาแล้ว, และในพิธีนั้นท่านทั้งหลายได้เป็นขึ้นมากับพระองค์ โดยเชื่อกิจการของพระเจ้าผู้ได้ทรงบันดาลให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากตาย. 13 และท่านทั้งหลายที่ตายแล้วด้วยการล่วงเกินทั้งหลายของท่าน, และด้วยเหตุที่เนื้อหนังของท่านมิได้รับพิธีสุนัด, 14 พระองค์ได้ทรงบันดาลให้ท่านมีชีวิตด้วยกันกับพระองค์, และได้ทรงโปรดยกการผิดทั้งหลายของท่าน. 15 พระองค์ได้ทรงฉีกสารกรมธรรม์ซึ่งได้แต่งไว้ในบัญญัติต่างๆ, ซึ่งเป็นที่ขัดขวางและต่อสู้เรา และได้ทรงหยิบเอาไปเสียให้พ้น, โดยทรงตรึงไว้ที่กางเขนนั้น. พระองค์ได้ทรงทำลายผู้มีบรรดาศักดิ์และผู้มีฤทธิ์ พระองค์ได้ทรงประจารเขา, และเอาชัยชะนะต่อเขาได้โดยกางเขนนั้น 16 เหตุฉะนั้นอย่าให้ผู้ใดพิพากษาปรักปรำท่านในเรื่องการกินหรือการดื่มหรือการถือวันเลี้ยงหรือวันต้นเดือนหรือวันซะบาโต. 17 สิ่งเหล่านี้เป็นแต่เงาของเหตุการณ์ซึ่งจะมีมาภายหลังแต่กายนั้นเป็นของพระคริสต์. 18 อย่าให้คนใดตัดสินให้ท่านแพ้เสียบำเหน็จของท่านด้วยกิริยาที่เขาทำทีถ่อมตัวลง, และไหว้ทูตสวรรค์, และไฝ่ฝันอยู่ในสิ่งเหล่านั้นที่เขาได้เห็น, และพองตัวขึ้นเปล่าๆ ตามความคิดของเนื้อหนัง, และไม่ได้ยึดหน่วงเอาท่านผู้เป็นศีรษะ. 19 ศีรษะนั้นเป็นเหตุให้กายทั้งหมดได้รับการบำรุงเลี้ยงและติดต่อกันด้วยข้อและเอ็นต่างๆ, จึงได้วัฒนาขึ้นตามที่พระเจ้าทรงโปรดให้วัฒนานั้น 20 ถ้าแม้ท่านทั้งหลายตายกับพระคริสต์พ้นจากโลกธรรมแล้ว, เหตุไฉนท่านจึงถือศีลบัญญัติเหมือนหนึ่งชีวิตของท่านอยู่ฝ่ายโลก, 21 เช่น “อย่าเอามือหยิบ,” “อย่าชิม,” “อย่าถูกต้อง” เป็นต้น, คือเป็นคำบังคับและคำสอนของมนุษย์? 22 สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดจะเสียไปด้วยการใช้สอย. 23 การนมัสการตามอำเภอใจ, และการทำทีถ่อมตัวลง, และการทรมานกาย, การเหล่านั้นดูเป็นลักษณะมีปัญญาก็จริงแต่ไม่มีค่าอะไรสำหรับการต่อสู้กับเนื้อหนัง |
พระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิมและใหม่ ฉบับ 1940 สงวนลิขสิทธิ์ 1940 โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย The Holy Bible – Thai 1940 Copyright ©1940 Thailand Bible Society
Thailand Bible Society